พัทลุง - ชาวบ้านเข้าพบหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยพัทลุง สอบถามกรณีการปรับพื้นที่ปลูกต้นยูคาลิปตัส ทางเขตเผยเจ้าของโครงการมีเอกสารการครอบครอง น.ส.3 ถูกต้อง แต่จะประสานกรมอุทยานฯ ตรวจสอบดาวเทียมหากเป็นพื้นที่อนุรักษ์จะทำการตรวจยึดต่อไป
วันนี้ (28 ส.ค.) จากกรณีที่มีกลุ่มนายทุนนำรถแบ็กโฮเข้ามาปรับพื้นที่เพื่อปลูกต้นยูคาลิปตัสส่งออก ในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย โดยมีการปลูกไปแล้วกว่า 300 ไร่ และกำลังดำเนินการขุดอยู่อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ 1 ใน 70,000 ไร่ ที่มีการออกเอกสารสิทธิครอบครองโดยมิชอบ หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า น.ส.3 บิล และก่อนหน้านี้ทางเขตห้ามล่า พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอเข้ามาตรวจสอบครั้งหนึ่งแล้ว และทำการเพิกถอน แต่ไม่แน่ใจว่ารอบนี้มาดำเนินการขุดได้อย่างไร
ล่าสุด ชาวบ้านที่ประกอบอาชีพเลี้ยงควายน้ำทะเลน้อย และชาวบ้านที่มีอาชีพหาปลาน้ำจืดขายในพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อย ได้เดินทางไปพบกับ นายปราโมทย์ แก้วนาง หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยพัทลุง เพื่อสอบถามว่าเจ้าหน้าที่ส่งเสริมให้มีการปลูกต้นยูคาลิปตัสในพื้นที่ชุ่มน้ำได้อย่างไร และมีการอ้างเอกสารสิทธิครองได้อย่างไร ทั้งที่ต้นยูคาลิปตัสจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศของพื้นที่ป่าพรุที่นี่ โดยได้ยื่นหนังสือถึงความเดือดร้อนเพื่อให้ช่วยแก้ปัญหาที่กำลังจะเกิดขึ้นเมื่อกลุ่มนายทุนเข้าปรับพื้นที่ปลูกป่ายูคาลิปตัส
ชึ่ง นายศุภเศรษฐ โอภิธากรณ์ ชาวบ้านทะเลน้อยพัทลุง กล่าวว่า หากกลุ่มทุนได้ปลูกต้นยูคาลิปตัสในพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อยนั้น เชื่อว่าพื้นที่ทะเลน้อยจะได้รับผลกระทบโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ต่างๆ หรือระบบนิเวศของที่นี่ เพราะทุกท่านทราบดีว่าต้นยูคาลิปตัสนั้นเป็นพืชเอเลี่ยน จะมีการดูดน้ำจากทะเลน้อยไปใช้ในจำนวนมาก และหากใบตกหล่นในน้ำจะทำให้น้ำเสียปลาไม่สามารถวางไข่ได้
ขณะที่ นายสมใจ เอ้งเส้ง อายุ 59 ปี กล่าวว่า ปกติพื้นที่ ต.ทะเลน้อย อ.ควนขนุน จ.พัทลุง และพื้นที่ ต.บ้านขาว อ.ระโนด จ.สงขลา ชาวบ้านในพื้นที่ไม่มีเอกสารสิทธิในการครอบครองที่ดิน แต่สงสัยทำไมกลุ่มทุนจึงมีเอกสารสิทธิ
ด้าน นายสมศักดิ์ คนงานรับจ้างดูแลโครงการปลูกต้นยูคาลิปตัสของภาคเอกชน กล่าวว่า ในส่วนของรายละเอียดโครงการปลูกนั้นตนไม่ทราบ แต่ก่อนดำเนินการขุด เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยได้ลงมาดูแลและอนุญาตให้ขุดแล้ว จึงได้ดำเนินการขุด ชึ่งพื้นที่ดังกล่าวตนไม่ทราบว่าอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อยหรือไม่ เพราะเจ้าของบอกที่ดินมีเอกสารสิทธิ
ขณะที่ นายปราโมทย์ แก้วนาง หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย จ.พัทลุง กล่าวว่า เบื้องต้นหลังจากเจ้าของควายน้ำทะเลน้อย ได้รับความเดือดร้อนจากการปรับพื้นที่เพื่อปลูกต้นยูคาลิปตัส และอาจจะส่งผลกระทบระยะยาว ชึ่งทางเขตไม่สามารถยับยั้งการขุดได้ เมื่อเจ้าของโครงการได้ยื่นเอกสารการครอบครอง น.ส.3 มาแสดง ถือว่าเป็นเอกสารที่รัฐอนุญาตให้อย่างถูกต้อง แต่หลังจากนี้จะได้รายงานไปยังกรมอุทยานฯ ให้ตรวจสอบภาพถ่ายทางดาวเทียมอีกครั้งว่าเป็นที่ป่าอนุรักษ์หรือไม่ หากเป็นพื้นที่อนุรักษ์จะได้ทำการตรวจยึดต่อไป
ในขณะเดียวกัน จากการตรวจสอบแปลงดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ลงพื้นที่ตรวจสอบการถือครองที่ดินในพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าพบ 70,000 ไร่ ออกโดยมิชอบกฤษฎีกา ตีความให้เพิกถอนการครอบครองทั้งหมด ชึ่งเรื่องดังกล่าวยังไปติดอยู่ที่สำนักงานที่ดิน
อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง
๐ ชาวบ้านตะลึง! พบกลุ่มนายทุนปลูกยูคาลิปตัสเกือบ 1,000 ไร่ ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย