xs
xsm
sm
md
lg

ตอกหน้าฮิวแมนไรท์ฯ ผู้การสตูลแจงดูแล 59 โรฮิงญาถูกนายหน้าปล่อยเกาะดงเป็นอย่างดี ไม่ได้ไล่กลับลงทะเล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภาคใต้ - ผู้การสตูลทำหนังสือชี้แจงดูแล 59 โรฮิงญาหลบหนีเข้าเมือง ที่โดนคนขับเรือนำไปปล่อยเกาะดง เขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา เป็นอย่างดี นำมาพักที่ศูนย์พักพิงไม่ได้ผลักดันกลับลงทะเลเพื่อให้ออกนอกประเทศทันที พร้อมตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ประสานงานกับยูเอ็นเพื่อตรวจสอบผู้ถือบัตร UNHCR จำนวน 26 คนแล้ว

วันนี้ (8 มิ.ย.) ตํารวจภูธรจังหวัดสตูล โดย พล.ต.ต.อรุษ แสงจันทร์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล ได้ทำหนังสือชี้แจง เรื่อง การดูแลกลุ่มคนต่างด้าวลักษณะคล้ายคนต่างด้าวชาวพม่า จํานวน 59 คน ว่า จากกรณีที่ อีเลน เพียร์สัน (Elaine Pearson) รักษาการผู้อำนวยการฮิวแมนไรท์วอชต์ประจำภาคพื้นเอเชีย กล่าวผ่านแถลงการณ์มีใจความว่า “การปกป้องชาวโรฮิงญา ผู้ขอลี้ภัยถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับรัฐบาลไทยที่ต้องอนุญาตให้สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยประจำสหประชาชาติ UNHCR เข้าตรวจสอบสถานะผู้ลี้ภัยผ่านทางการสัมภาษณ์”

และในแถลงการณ์ยังกล่าวต่อว่า “รัฐบาลไทยสมควรที่ต้องยุตินโยบายควบคุมตัวชาวเรือมนุษย์โรงฮิงญาที่ช่วยไว้ได้แต่โยนกุญแจทิ้ง” โดยชี้เป็นนัยว่าเป็นนโยบายที่ควบคุมตัวคนเหล่านี้อย่างไม่มีกำหนด และชี้ต่อว่า “ไทยสมควรอนุญาตให้สำนักงานผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติเข้าตรวจสอบชาวโรฮิงญาที่เดินทางมาถึงไทยเพื่อตรวจสอบและให้การช่วยเหลือสำหรับคนเหล่านี้ที่แสวงหาสถานะผู้อพยพ” นั้น

ตํารวจภูธรจังหวัดสตูล ขอเรียนว่า รัฐบาลไทยและสำนักงานตํารวจแห่งชาติ ได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับด้านสิทธิมนุษยชน โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ตํารวจสถานีตํารวจภูธรเกาะหลีเป๊ะ ชุดจับกุมได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 491 ว่า พบเห็นคนต่างด้าวลักษณะคล้ายคนต่างด้าวชาวพม่า อยู่ที่บริเวณเกาะดง หมู่ 4 ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล จำนวนหนึ่ง จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสตูล เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเกาะตะรุเตา เข้าทําการตรวจสอบ เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ได้พบเห็นกลุ่มคนต่างด้าวนั่งอยู่ที่บริเวณชายหาด แบ่งเป็นชาย 31 คน หญิง 23 คน และมีเด็กผู้ชาย 3 คน เด็กผู้หญิง 2 คน โดยทุกคนไม่มีเอกสารประจําตัวอย่างใด

จากการสอบถามเบื้องต้นโดยผ่านล่ามแปลภาษาพม่า ปรากฏว่า กลุ่มคนดังกล่าวทั้งหมดได้เดินทางมากับเรือจากสาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อไปยังประเทศมาเลเซีย แต่เมื่อมาถึงบริเวณเกาะนี้ คนขับเรือได้แจ้งว่ามาถึงประเทศมาเลเซียแล้ว และให้ทุกคนลงจากเรือ โดยขณะเข้าทําการตรวจสอบคนต่างด้าว ลักษณะคล้ายคนต่างด้าวชาวพม่ามีสภาพร่างกายอิดโรย เนื่องจากไม่ได้รับประทานอาหารมาหลายวัน เจ้าหน้าที่จึงได้มอบอาหารน้ำดื่มแก่คนต่างด้าวลักษณะคล้ายคนต่างด้าวชาวพม่าทุกคน จากนั้นหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 491 จึงได้ใช้เรือลำเลียงกลุ่มคนต่างด้าวลักษณะคล้ายคนต่างด้าวชาวพม่าทั้งหมดมายังศูนย์พักพิงชั่วคราว กองร้อยตํารวจตระเวนชายแดนที่ 436 อําเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล


ต่อมาตํารวจภูธรจังหวัดสตูลได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือคุ้มครองผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ โดยมีการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสตูล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสตูล สวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสตูล และสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดสตูล ในการให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับด้านมนุษยธรรม โดยมีการจัดที่พัก มอบเสื้อผ้า อาหาร เครื่องดื่ม ยารักษาโรค และตรวจคัดกรองตามมาตรการป้องกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข และทําการรักษาพยาบาลเบื้องต้นแก่ผู้ที่มีอาการเจ็บป่วย ให้แก่กลุ่มคนต่างด้าวลักษณะคล้ายคนต่างด้าวชาวพม่าทุกคน เพื่อให้ฟื้นฟูสภาพร่างกาย และจิตใจ ก่อนทําการซักถามปากคําคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์

ต่อมาตํารวจภูธรจังหวัดสตูลได้บูรณาการร่วมกับสหวิชาชีพ ประกอบด้วย ตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดสตูล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสตูล จัดหางานจังหวัดสตูล และสวัสดิการและคุ้มครอง แรงงานจังหวัดสตูล ในการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และได้ตรวจพบว่ากลุ่มคนต่างด้าวลักษณะคล้ายคนต่างด้าวชาวพม่ามีบัตร UNHCR จํานวน 26 คน โดยขึ้นทะเบียนที่สาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ ขณะนี้ อยู่ระหว่างการประสานไปยัง UN เพื่อตรวจสอบต่อไป

และเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2565 ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการได้ประชุมคณะอนุกรรมการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์จังหวัดสตูล เพื่อแต่งตั้งคณะทํางานด้านต่างๆ ในการปฏิบัติงาน ของส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในประเด็นกลุ่มคนต่างด้าวกลุ่มนี้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการช่วยเหลือ ดูแลอย่างเต็มที่

จึงประสานมายังท่านเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงและช่วยกรุณาประสานไปยังสำนักข่าวเอพี ในการนำเสนอข่าวที่มีข้อเท็จจริงดังกล่าวครบถ้วน และไม่ให้เกิดความเสียหายต่อขวัญและกำลังใจของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติต่อไป

อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง

โดนเบี้ยวหัวคิว คนขับเรือมาเลย์นำ 59 โรฮิงญาปล่อยเกาะอุทยานตะรุเตา หลอกว่าเป็นเกาะลังกาวี
ฮิวแมนไรท์วอชออกโรงจวก “ประยุทธ์” ไม่เปิดโอกาสให้ประเมินสถานะผู้ลี้ภัยกับ “59 โรฮิงญา” ล่องเรือหนีภัยจากบังกลาเทศแต่รีบส่งกลับออกทะเล


กำลังโหลดความคิดเห็น