xs
xsm
sm
md
lg

เก็บกู้ได้แล้วถังเชื้อเพลิงจรวดตกในทะเลภูเก็ต นำแสดงในพิพิธภัณฑ์อวกาศของ GISTDA

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ศรชล.ภาค 3 เก็บกู้ถังเชื้อเพลิงจรวดในทะเลภูเก็ตได้แล้ว ยืนยันไม่มีผบกระทบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมนำไปแสดงในพิพิธภัณฑ์อวกาศของ GISTDA เพื่อให้ประชาชนได้ชมต่อไป


จากกรณี ศรชล.ภาค 3 ได้รับแจ้งจาก ศรชล.จังหวัดภูเก็ต ว่า ชาวประมงพื้นบ้านพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายวัตถุระเบิดบริเวณเกาะแอล จ.ภูเก็ต นั้น ศรชล.ภาค 3 จึงได้ประสานกับ ทรภ.3 สั่งการให้สนับสนุน จนท. EOD ชุดปฏิบัติการพิเศษ (ชปพ.) หน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเล กองทัพเรือ เกาะภูเก็ต (นรภ.ทร.) และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ร่วมตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยดังกล่าวร่วมกับหมวดเรือเฉพาะกิจ ศรชล.ภาค 3 และชาวบ้านที่แจ้งเหตุในวันที่ 1 พ.ค.64 โดยในเบื้องต้น จนท. EOD ได้ตรวจสอบและยืนยันว่าไม่ใช่วัตถุระเบิด และไม่มีสารพิษ

ต่อมา ศรชล.ภาค 3 จึงได้ประสานงานกับสถาบันวิจัยอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GITSDA ) ตรวจสอบภาพถ่ายอีกครั้ง ผลที่ได้รับตรงกันคือ ทั้ง 2 หน่วยงานยืนยันว่า วัตถุดังกล่าวเป็นชิ้นส่วนของถังเชื้อเพลิงของ จรวดหรือกระสวยที่ใช้ส่งไปยังอวกาศ แล้วจะถูกสลัดทิ้งออกเป็นช่วงในการส่งขึ้น ซึ่งรายละเอียดทางผู้เชี่ยวชาญของ GISTDA จะตรวจสอบต่อไป

หลังจากนั้นในวันที่ 12 พ.ค.64 ทาง ศรชล.ภาค 3 จึงทำหนังสือขอให้ทาง GISTDA ส่งผู้เชี่ยวชาญมาร่วมวางแผนการเก็บกู้ ร่วมกับ ศรชล.ภาค 3 และ ทรภ.3ในช่วงระหว่าง 16-18 พ.ค.64 ซึ่งได้ดำเนินการแล้วเสร็จในวันนี้ (17 พ.ค.)


จากการตรวจสอบโดยละเอียดจากผู้เชี่ยวชาญของ GISTDA และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในเรื่องของสารไฮดราซีนที่เป็นเชื้อเพลิงที่บรรจุในถังน่าจะถูกใช้งานจนหมดเรียบร้อย ประกอบกับการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบจุดที่พบ สภาพแวดล้อมทางทะเลปกติมีสัตว์น้ำ ปะการัง หอยเม่น ซึ่งเป็นตัวชี้วัดอย่างหนึ่งที่ทำให้มั่นใจได้ว่าวัตถุดังกล่าวไม่ได้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

อย่างไรก็ตาม ในการเก็บกู้ จนท.ชุดเก็บกู้ได้ใช้ความระมัดระวังและป้องกันอย่างเต็มที่ ทั้งทีมเก็บกู้และยุทโธปกรณ์ที่ใช้มีความปลอดภัย ขอยืนยันว่าการดำเนินการทั้งหมด ศรชล.ภาค 3 ตระหนักถึงเรื่องความปลอดภัยประชาชน เจ้าหน้าที่ และผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมทางทะเลในพื้นที่เป็นอันดับแรก


สำหรับการดำเนินการต่อไป หลังจากตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญโดยละเอียด ศรชล.ภาค 3 จะทำการส่งมอบวัตถุดังกล่าวนี้ให้แก่ GISTDA ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง เพื่อใช้ในการศึกษาวิจัย นำข้อมูลที่ได้มาใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีทางอวกาศของประเทศไทยในอนาคต หลังจากนั้น จะนำไปแสดงในพิพิธภัณฑ์อวกาศของ GISTDA เพื่อให้ประชาชนได้ชมต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น