ศูนย์ข่าวภูเก็ต - โรงแรมในเครือ “เมอร์ลิน” ปรับตัวครั้งใหญ่สู้ภัยโควิด-19 รุกตลาดออนไลน์ จัดโปรให้โดนใจคนไทย ชูจุดขายโรงแรมชายหาดแสนสงบ ดึงคนไทยเข้าพักแทนต่างชาติ พร้อมเปิด “ครัวเมอร์ลิน” ชูอาหารในตำนาน รสชาติดั้งเดิม ยกครัวขายนอกโรงแรมในราคาสตรีทฟูด สร้างรายได้เพิ่ม
“เมอร์ลิน” เครือโรงแรมชื่อดังและเก่าแก่แห่งหนึ่งบนเกาะภูเก็ต ที่อยู่คู่ท่องเที่ยวภูเก็ต วันนี้...เมอร์ลินมีโรงแรมในเครือทั้งหมด 5 แห่ง ห้องพักกว่า 1,500 ห้อง ทั้งที่ภูเก็ต และเขาหลัก จ.พังงา ใน 5 แห่งนี้ ทางเมอร์ลินบริหารเอง 3 แห่ง และใช้เชนบริหาร 2 แห่ง วิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ตั้งแต่ต้นปี 2563 เป็นต้นมา เมอร์ลินได้รับผลกระทบอย่างหนักเช่นเดียวกับโรงแรมอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากวิกฤตครั้งนี้
“ชานน วงศ์สัตยนนท์” ผู้บริหารรุ่นที่ 3 โรงแรมในเครือเมอร์ลิน เปิดเผยกับ “MGR Online ภาคใต้” ถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับโรงแรมในเครือเมอร์ลิน ถือว่าหนักมากสำหรับวิกฤตโควิด-19 ทั้งในส่วนของโรงแรมที่ทางเมอร์ลินเราบริหารเอง 3 แห่ง คือ โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน ซึ่งตั้งอยู่ในตัวเมืองภูเก็ต โรงแรมป่าตองเมอร์ลิน หาดป่าตอง และโรงแรมเขาหลักเมอร์ลิน จ.พังงา และโรงแรมที่ใช้เชนแมริออทบริหาร อีก 2 แห่ง ที่หาดไตรตรัง ป่าตอง จ.ภูเก็ต และเขาหลัก จ.พังงา เราเริ่มได้รับผลกระทบมาตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว ประมาณเดือนมีนาคมที่ลูกค้าเริ่มหายไป และหายไปทั้งหมดในเดือนเมษายน เนื่องจากกลุ่มลูกค้าหลักของโรงแรมในเครือเมอร์ลินที่อยู่ชายหาดกว่า 90% เป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่เหลืออีก 10% เป็นกลุ่มลูกค้าคนไทย
“เมื่อนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติไม่สามารถเดินทางมาท่องเที่ยวทั้งภูเก็ตและเขาหลักได้ เช่น เดียวกับแหล่งท่องเที่ยงอื่นๆ ทำให้รายได้ของโรงแรมทั้งเครือหายไปกว่า 90% ทางเราแบกรับภาวะวิกฤตนี้มาเกือบปีแล้ว ต้องดูแลห้องพักที่บริหารเองเกือบๆ 900 ห้อง ต้องดูแลพนักงานที่ทำงานมาด้วยกัน พยายามที่จะปลดพนักงานออกให้น้อยที่สุด ประคับประคองกันมา ด้วยความหวังว่าในปี 2564 นี้ การท่องเที่ยวน่าจะดีขึ้น ชาวต่างชาติน่าที่เริ่มเดินทางมาท่องเที่ยวได้บ้างแล้ว จากที่การแพร่ระบาดที่เริ่มคลี่คลาย” ผู้บริหารรุ่นที่ 3 โรงแรมในเครือเมอร์ลิน กล่าวและว่า
ความหวังที่ธุรกิจโรงแรมจะเดินต่อไปได้เริ่มดีขึ้นและเริ่มเห็นแสงสว่าง เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว นักท่องเที่ยวคนไทยเริ่มเดินทางมาท่องเที่ยวภูเก็ตและเขาหลัก เรียกว่าตลาดคนไทยกำลังไปได้สวย โรงแรมเริ่มเปิดให้บริการกันมากขึ้น ในส่วนของเมอร์ลินเองเราเปิดให้บริการมาตั้งแต่เดือน ก.ค.ปีที่แล้ว ทั้ง 5 แห่ง แต่ก็ต้องมาสะดุดอีกครั้งเมื่อมีการแพร่ระบาดในระลอก 2 ครั้งนี้ถือว่าหนักมาก นักท่องเที่ยวคนไทยหายไปทั้งหมด โรงแรมกลับมาเงียบอีกครั้ง จากที่คนไทยหยุดการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงการแพร่ระบาดระลอก 2 ใหม่ๆ รวมถึงการเดินทางท่องเที่ยวมีเงื่อนไขมากขึ้น เช่น ถ้ามาจากกรุงเทพฯ และพื้นที่แพร่ระบาดต้องกักตัว 14 วัน หรือไม่ก็ต้องไปรายงานตัวกับศูนย์ EOD ในระดับตำบล เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ทำให้ยุ่งยาก คนไทยจึงเลือกที่จะไม่เดินทางท่องเที่ยวในช่วงนั้น ส่งผลให้ธุรกิจโรงแรมเงียบเหงามาจนถึงทุกวันนี้
“ชานน” ยังกล่าวต่อว่า ทางเรามีเป้าหมายว่าจะไม่ปิดโรงแรมทั้ง 5 แห่ง ที่เราเปิดให้บริการมาตั้งแต่เดือน ก.ค.ปีที่แล้ว เราจึงต้องสู้และปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อให้โรงแรมเดินต่อไปได้ โดยปรับการตลาดใหม่ทั้งหมด จากที่เคยทำตลาดชาวต่างชาติ มาเป็นทำตลาดสำหรับลูกค้าคนไทย ซึ่งแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โรงแรมทุกแห่งของเมอร์ลินต้องปรับตัวให้เข้ากับกลุ่มลูกค้าคนไทย โดยหันมาทำตลาดออนไลน์ ทำประชาสัมพันธ์ โฆษณาผ่านสื่อออนไลน์มากขึ้น รวมไปถึงการจัดโปรโมชันต่างๆ ที่โดนใจลูกค้ากลุ่มคนไทย ซึ่งก็ได้รับการตอบรับดีมาก ช่วงก่อนการแพร่ระบาดในระลอก 2 ลูกค้าที่เป็นคนกรุงเทพฯ และภาคใต้ มาใช้บริการโรงแรมจำนวนมาก
โดยเฉพาะโรงแรมเขาหลัก เมอร์ลิน ได้รับการตอบรับที่ดีมาก โดยเราได้นำเสนอจุดขายที่เป็นจุดเด่นของโรงแรม คือ เป็นโรงแรมชายหาดที่เงียบสงบ โอบล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ โดยทางโรงแรมได้จับมือกับมูลนิธิ Love Wildlife และ มูลนิธิ Big Tree สำรวจสัตว์และพันธุ์ไม้ภายในโรงแรม พบว่า มีสัตว์กว่า 150 พันธุ์ รวมถึงนางอายที่มีอยู่ภายในโรงแรม ทางมูลนิธิฯ จึงได้ทำป้ายให้ข้อมูลกับนักท่องเที่ยว เพื่อให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ รวมไปถึงกิจกรรมดูนกในตอนเช้า และกิจกรรมส่องสัตว์ในตอนกลางคืน ซึ่งนักท่องเที่ยวมีโอกาสที่จะได้พบนางอายถึง 80% เพราะภายในโรงแรมมีนางอายอาศัยอยู่ 3-4 ตัว และมีกิจกรรมทางทะเลที่หลากหลาย ทั้ง เล่นเซิร์ฟ หรือไปท่องเที่ยวตามอุทยานฯ
ส่วนโรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน ซึ่งตั้งอยู่ในตัวเมืองภูเก็ต เป็นโรงแรมที่ก่อนหน้าที่จะเกิดโควิด-19 ระบาด กลุ่มลูกค้าก็จะเป็นคนไทย คนท้องถิ่นภูเก็ต และชาวต่างชาติ เป็นโรงแรมที่มีชื่อเสียงในเรื่องของการบริการอาหารที่มีรสชาติอร่อยถูกปากคนภูเก็ต และมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน เราได้นำจุดเด่นเรื่องอาหารมาเป็นจุดขายสำหรับลูกค้าคนไทยและคนท้องถิ่นภูเก็ต ภายใต้ “ครัวเมอร์ลิน” โดยใช้สโลแกน “Since 1980” เพื่อให้คนท้องถิ่นเข้าถึงได้ง่ายและไม่มีความรู้สึกว่าทานอาหารโรงแรม โดยเชฟที่ทำงานกับครัวเมอร์ลินมาตั้งแต่ปี 1980 มาเป็นคนปรุงอาหาร เพื่อชูรสชาติความเป็นครัวเมอร์ลินดั้งเดิม จึงได้ทำการตลาด “ข้าวต้มในตำนาน” เพื่อสื่อให้ทราบว่า หากคุณเป็นคนภูเก็ตหรือเคยมาทานข้าวต้มที่โรงแรมเมอร์ลิน ก็ต้องรู้จักข้าวต้มในตำนานที่อยู่คู่กับครัวเมอร์ลินมากว่า 40 ปี เป็นข้าวต้มกุ๊ยพร้อมกับข้าวประมาณ 10 อย่าง ขายแบบบุฟเฟต์ รวมไปถึงเมนูที่มีชื่อของโรงแรม เช่น แกงส้ม หมูฮ้อง ยำใหญ่ และอีกหลากหลายเมนูที่อยู่คู่โรงแรมมาตั้งแต่เปิด
นอกจากนี้ ยังได้ยกครัวเมอร์ลินออกมาตั้งขายที่บริเวณใต้ต้นไทร ลานจอดรถของโรงแรม “เมอร์ลิน การ์เด้น by ครัวเมอร์ลิน” ขายอาหารจานเดียวที่ขึ้นชื่อของครัวเมอร์ลิน เพื่อให้ลูกค้าคนท้องถิ่นและคนไทยเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น มีเมนูเด็ดๆ ขึ้นชื่อมาขายกันในราคาสตรีทฟูด จานละ 40-80 บาท เช่น หมี่ผักฮกเกี้ยน ข้าวผัดชาวใต้ ข้าวผัดไตปลาแห้ง ก๋วยเตี๋ยวกุ้ย สุกี้แห้ง ผัดไทยกุ้งสด ผัดขี้เมา พายไก่ และอื่นๆ รวมทั้งเครื่องดื่ม เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 11.00-20.00 น. ซึ่งเปิดมาไม่ถึงเดือน ปรากฏว่าได้รับการตอบรับดีมากจากชาวภูเก็ตที่แวะเวียนมารับประทานอาหารกันอย่างต่อเนื่อง
“ที่เราต้องยกครัวเมอร์ลินออกมาขายข้างนอกโรงแรม ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพนักงานต้องการที่จะเพิ่มรายได้เข้ามาในโรงแรม เพราะหลังการแพร่ระบาดในระลอก 2 ลูกค้าที่มาทานอาหารภายในโรงแรมลดน้อยลงมาก ด้วยเศรษฐกิจภูเก็ตที่ซบเซาอย่างหนัก ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดในระลอก 2 ที่ลูกค้าหายไปเยอะมาก พนักงานอยากให้โรงแรมอยู่ได้ เพราะที่ผ่านมาเราดูแลพนักงานและร่วมกันสู้มาด้วยกัน”
ส่วนโรงแรมที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดตั้งแต่ต้นปีที่แล้วมาจนถึงขณะนี้ คือ โรงแรมป่าตอง เมอร์ลิน ซึ่งตั้งอยู่ที่หาดป่าตอง เป็นโรงแรมที่มีห้องพักมากที่สุด 488 ห้อง เนื่องจากนักท่องเที่ยวคนไทยยังนิยมมาเที่ยวป่าตองน้อย คนยังติดภาพหาดป่าตองเป็นหาดของคนต่างชาติ ทางเราได้พยายามทำการตลาดออนไลน์ จัดโปรโมชันเด็ดๆ รวมถึงดึงบล็อกเกอร์มารีวิวิ ทำประชาสัมพันธ์ เพื่อดึงคนไทยมาพักโรงแรมระดับห้าดาวในราคาสุดคุ้ม
"โรงแรมในเครือเมอร์ลินปรับตัวครั้งใหญ่ ปรับการทำตลาดใหม่ สู้กับภัยวิกฤตโควิด-19 ที่เกิดขึ้น และยาวนานมาเกือบปีแล้ว เรามีเป้าหมายชัดเจนว่าจะไม่ปิดโรงแรมทั้ง 5 แห่งอีก หลังจากที่เราเปิดมาตั้งแต่เดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ทำการตลาดใหม่ เจาะตลาดคนไทย ดึงคนกรุงเทพฯ คนภาคใต้ และทั่วประเทศมาพัก และหลังจากที่การระบาดในระลอก 2 เริ่มคลี่คลายลงแล้วในบางพื้นที่ มีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เริ่มมีสัญญาณที่ดี เริ่มมีบุ๊กกิ้งจองห้องพักจากลูกค้าคนไทยเข้ามาแล้วหลังจากนี้ แม้ว่าสิทธิเราเที่ยวดัวยกัน ของรัฐบาลจะหมดไป แต่ทางเราก็จัดสิทธิพิเศษ จัดโปรโมชันพิเศษให้แก่ลูกค้าคนไทยมาพักโรงแรมระดับห้าดาว ในราคาสุดคุ้ม" ชานน กล่าวในที่สุด