ตรัง - ญาติข้องใจกรณีการเสียชีวิตของคุณตาวัย 70 ปี ภายในลานวัดเหรียง (วัดท่าไทร) อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ถึงแม้ตำรวจจะจับผู้ต้องหาได้แล้วก็ตาม เผยอาจไม่เผาศพตามกำหนดในวันที่ 23 ก.ค.นี้ จนกว่าทุกอย่างจะกระจ่างชัด
จากกรณีที่มีคนร้ายลงมือก่อเหตุฆ่า คุณตาหิ้น หรือนายจำเนียร พรหมอินทร์ อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 190 ม.12 ต.หนองช้างแล่น อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ภายในวัดเหรียง (วัดท่าไทร) โดยมีการใช้ของแข็งทุบตีเข้าที่บริเวณท้ายทอย รวมทั้งทำกรามหน้าหัก ก่อนจะทิ้งศพไว้บนพื้นหญ้าใกล้เมรุ เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 15 ก.ค. 2563 กระทั่งต่อมา สามารถจับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้แล้วคือ นายเอกสิทธิ์ เกลาเกลี้ยง หรือแบงค์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 ม.2 ต.บางดี อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งให้การรับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุฆ่าคุณตาหิ้น โดยลอบเข้ามาภายในวัดช่วงดึกเพราะประสงค์ต่อทรัพย์ แล้วเจอกับคุณตาหิ้น ก่อนจะมีปากเสียง และทะเลาะวิวาทกันนั้น จากนั้นจึงใช้ค้อนทุบคุณตาหิ้น แล้วนำค้อนไปเผาทิ้ง
ล่าสุด วันนี้ (17 ก.ค.) บรรยากาศภายในวัดเหรียง (วัดท่าไทร) ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาของคุณตาหิ้น พบว่า ญาติๆ ต่างยังคงจับกลุ่มกันวิพากษ์วิจารณ์กันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยต่างติดใจในการเสียชีวิต และให้เหตุผลว่า คุณตาหิ้น ถูกผู้ต้องหาเข้ามาทำร้ายถึงภายในวัด และมีการทะเลาะวิวาทกันจนเกิดเสียงดัง โดยมีพระที่จำพรรษาอยู่ภายในวัดหลายรูปได้ยินเสียง และเป็นพยานกับทางตำรวจ แต่ยังสงสัยว่าทำไมไม่มีใครออกมาช่วย หรือแจ้งตำรวจตั้งแต่เกิดเรื่อง และหลังเงียบเสียงลงก็ไม่มีพระรูปใดออกมาตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้น โดยญาติยังระบุด้วยว่า ก่อนหน้านี้ผู้ตายเคยเล่าให้ฟังว่ามีปัญหาขัดแย้งกับพระบางรูปในวัด จึงเชื่อว่าการตายมีเงื่อนงำ หรือผู้ต้องหาอาจไม่ได้ทำลำพัง ดังนั้น มาถึงเวลานี้ ญาติๆ จะมีการปรึกษากันใหม่ และอาจจะไม่เผาศพผู้ตายในวันที่ 23 ก.ค.นี้ เพื่อขอให้ทางตำรวจทำคดีให้ชัดเจน พร้อมตอบคำถามข้อเคลือบแคลงสงสัยให้ได้ก่อน
นายสมปอง สิงห์แก้ว อายุ 69 ปี และญาติๆ กล่าวว่า สิ่งที่ญาติไม่สบายใจคือ เรื่องการนำผู้ต้องหามาทำแผนนอกรั้ววัด แต่ไม่มาทำตรงจุดเกิดเหตุ ทั้งที่ญาติๆ ไม่มีใครทำอะไรผู้ต้องหาแน่นอน ส่วนเรื่องของการตั้งข้อหาว่าทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ญาติๆ มองว่าเบาเกินไป เพราะผู้ต้องหารายนี้เคยประกาศตัวมาก่อนว่าจะมาฆ่าคุณตาหิ้น ดังนั้น จึงเห็นว่าตำรวจควรตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนแทน ทั้งนี้ ทางครอบครัวและญาติๆ ยืนยันไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหายอะไร แต่อยากให้ตำรวจทำคดีไปตามความเป็นจริง ขณะนี้ทางญาติกำลังปรึกษากันว่าจะต้องติดตามคดีกันดูก่อน หากไม่ได้รับความเป็นธรรม อาจจะตัดสินใจไม่เผาศพคุณตาหิ้น เพราะทุกคนต้องการรู้ความจริงให้ชัดเจน และมองว่าข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตายยังเบาเกินไป ติดคุกแค่ไม่นานก็อาจออกมาก่อเหตุซ้ำอีก
ทางด้าน นางสุพาพร ศรีทอง อายุ 50 ปี เจ้าของบ้านที่ผู้ต้องหาไปขอข้าวกิน กล่าวว่า ตอนที่ผู้ต้องหารายนี้มาที่บ้านในเวลาประมาณ 22.00 น. และตนกับแฟนยังไม่ออกไปกรีดยาง โดยเดินมาขอข้าวกิน แต่ไม่ได้ใส่กางเกง แฟนของตนจึงหยิบกางเกงมาให้สวม และไปตักข้าวให้กิน จากนั้นจึงถามว่าจะไปไหนต่อ ผู้ต้องหาก็บอกว่าจะไปในวัด ท่าทางเหมือนสติไม่ค่อยดี แต่สามารถพูดคุยโต้ตอบได้ ส่วนตัวได้พบเจอผู้ต้องหาบ่อยครั้งเพราะบ้านอยู่ละแวกเดียวกัน ส่วนเรื่องที่ว่าผู้ต้องหาเสพยานั้นไม่เคยรู้มาก่อน แต่ที่รู้คือเขาเคยเข้าบำบัดหลายครั้ง แล้วกลับมาก็หายดี แต่พอเวลาผ่านไปสักระยะก็เหมือนจะกลับไปเสพยาอีก ก่อนหน้านี้ผ่านมา 4-5 วัน ผู้ต้องหามักจะเดินแล้วชอบพูดคนเดียว สร้างความกังวลให้แก่ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียง แต่พอถูกจับไปก็รู้สึกโล่งใจ
อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง:
๐ สลด! ฆ่าโหดคุณตาวัย 70 ตายคาลานวัดเหรียง จ.ตรัง คาดเสียชีวิตมาแล้วตั้งแต่กลางดึก
๐ หนุ่มห้วยยอดสารภาพทุบหัวฆ่าโหดคุณตาวัย 70 ตายคาลานวัด หลังมีปากเสียงทะเลาะวิวาท
