ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - “อุทัย สอนหลักทรัพย์” นายกสมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ให้กำลังใจควนหนองหงษ์ เรียกร้องรัฐบาลแก้ปัญหายางพารา และการทุจริตใน กยท.
จากการที่สถาบันชาวสวนยาง และเกษตรกรชาวสวนยางทุกคน ได้ขายยางต่ำกว่าต้นทุนการผลิตมาร่วม 6 ปีที่ผ่านมา และรอคอยให้มีการเลือกตั้ง เพื่อจะได้รัฐบาลที่มาจากประชาชน เพื่อแก้ปัญหายางพารา และในช่วงที่หาเสียง พรรครัฐบาลได้ประกาศนโยบายที่จะให้ราคายาง 65 บาทต่อกิโลกรัม แต่การรอคอยทำให้เกษตรกรผิดหวัง จึงต้องนัดชุมนุมกันที่ควนหนองหงษ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เพราะความอดทนของพวกเขาถึงที่สุดแล้ว
ซึ่งในฐานะที่ผมเอง นายอุทัย สอนหลักทรัพย์ เคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว มีความเห็นว่า เกษตรกรชาวสวนยางเขามีความอดทนที่สุดแล้ว จึงมีการเรียกร้องตามหลักประชาธิปไตย ซึ่งเป็นสิทธิของประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกรชาวสวนยาง ซึ่งเป็นเกษตรกรที่ทำรายได้ให้อก่ประเทศมากที่สุด และเป็นพืชเกษตรพืชเดียวที่ยอมหักภาษีเซส (CESS) 2 บาทต่อกิโลกรัมในการส่งยางออก ถึงแม้ราคายาง 4 โล 100 ก็ยังถูกหัก 2 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งเงินเหล่านี้นำไปเป็นเงินกองทุนพัฒนาเกษตรกรชาวสวนยางตามมาตรา 49 (2) ถึง (6) ส่วนเงินตามมาตรา 49 (1) เป็นงบบริหารเป็นเงินเดือนให้แก่เจ้าหน้าที่การยางแห่งประเทศไทย ซึ่งจะต้องเข้ามาดูแลจัดการบริหารการยางของประเทศทั้งระบบครบวงจร ซึ่งผิดกับพืชเกษตรตัวอื่นที่จะต้องใช้งบประมาณส่วนกลางมาบริหาร
ดังนั้น การที่พี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางเรียกร้องว่า ถูกกลุ่มพ่อค้ารายใหญ่กดราคา จึงต้องเป็นหน้าที่ กยท. ที่จะต้องรับผิดชอบตาม พ.ร.บ.กยท.มาตรา 8 (1) เมื่อเจ้าหน้าที่ปล่อยปละละเลยต่อปัญหานี้ เขาจึงต้องใช้กระบวนการสิทธิของการชุมนุม ในฐานะที่ผมได้อยู่กับพี่น้องเกษตรกรชาวสวนยางมาตลอดเป็นเวลา 55 ปี จึงขอให้กำลังใจกับทุกท่านที่เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาตามที่หาเสียงไว้ และหวังว่ารัฐบาลควรที่จะฟังเสียงความเดือดร้อน และลงมาแก้ปัญหา ส่วนงบประมาณก็มาจากเงินกองทุนมาตรา 49 ซึ่งควรต้องแก้กฎหมาย และระเบียบการใช้เงินให้เป็นไปเพื่อแก้ปัญหายางพาราอย่างโปร่งใส และรับฟังเสียงของเกษตรกรชาวสวนยางทุกสถาบัน
ผมขอให้กำลังใจทุกๆ ท่านที่ออกมาเรียกร้องเพื่อปากท้องตัวเอง ส่วนผมเองก็จะดำเนินการตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี คือ จะปกป้องสิทธิประโยชน์ของเกษตรกรชาวสวนยาง โดยเฉพาะเงินเซส (CESS) ให้การยางแห่งประเทศไทย ใช้เงินอย่างโปร่งใส และตรวจสอบได้ตลอดเวลา ตัวอย่างหนังสือที่ สยท. 3/2563 ลงวันที่ 20 มกราคม 2563 ซึ่งหาผู้รับผิดชอบจำนวนหนี้ 94 ล้านเศษที่ค้างจ่าย นอกจากนั้น ยังมีอีกหลายประเด็นที่นำเงินเซสไปใช้แล้วเกิดความเสียหาย จึงต้องมีการใช้กระบวนการของศาลสถิตยุติธรรม เพื่อเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของเกษตรกรชาวสวนยางที่เสียภาษีเซส
อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง :
๐ มาแล้ว! ม็อบชาวสวนเมืองคอนบุกบ้าน ส.ส.ปชป.-พปชร. ทวงถามนโยบายราคายาง
