xs
xsm
sm
md
lg

ทุนไทยจับมือทุนจีนผุดคอนโดฯ ริมหาดในทอน Sea Heaven Phuket Naithon มูลค่ากว่า 2.7 พันล้าน ขายต่างชาติก่อนเช่ามาบริหาร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ศูนย์ข่าวภูเก็ต - นักลงทุนไทยจับมือทุนจีน พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ต ผุดคอนโดมิเนียมหรูริมหาดในทอน “Sea Heaven Phuket Naithon” บนเนื้อที่กว่า 60 ไร่ มูลค่า 2,700 ล้าน ขายต่างชาติก่อนเช่าต่อมาบริหารคืนกำไรให้นักลงทุน


โครงการ Sea Heaven Phuket Naithon จัดงาน VIP Party เปิดตัวโครงการ Sea Heaven Phuket Naithon ซึ่งคอนโดมิเนียมหรู ตั้งอยู่บริเวณหาดในทอน ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต โดยมี นายอนุวัฒน์ เมธีวิบูลวุฒิ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด นายวงศกร นุ่นชูคันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต Mr.Shao Bo ประธานบริษัท บีสตาร์ทเฮฟเว่น จำกัด ผู้บริหารโครงการ ซีเฮฟเว่น นายวีระวิทย์ มโนธรรมรักษา รองประธาน บริษัท บีสตาร์ทเฮฟเว่น จำกัด ผู้บริหารโครงการ ซีเฮฟเว่น ร่วมแสดงความยินดี และเปิดตัวโครงการ พร้อมทั้งมีการเซ็นสัญญาซื้อห้องพักของโครงการระหว่างผู้บริหารโครงการทั้งฝ่ายไทยและจีนกับลูกค้าชาวจีนที่ได้จองห้องพักของโครงการไปแล้วจำนวนหนึ่ง ณ Sales Gallery และจัดงานเลี้ยงฉลอง ณ ร้าน 24 restaurant Naithon ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติ เอเยนซี เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา


นายรังสรรค์ หวังไพฑูรย์ กรรมการบริหาร บริษัท บีสตาร์ทเฮฟเว่น จำกัด เปิดเผยว่า โครงการ Sea Heaven Phuket Naithon คอนโดมิเนียมหรู บนหาดในทอน อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เป็นโครงการที่เกิดจากการร่วมลงทุนระหว่างนักลงทุนไทยและนักลงทุนจีน ในนาม บริษัท บีสตาร์ทเฮฟเว่น จำกัด ผู้บริหารโครงการ Sea Heaven Phuket Naithon โดยนักลงทุนคนไทย ได้ซื้อที่ดินแปลงนี้ไว้นานแล้ว และก่อนหน้านี้ได้เคยเข้ามาลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในตัวเมืองภูเก็ต และมองเห็นศักยภาพของภูเก็ต เมืองท่องเที่ยวระดับโลก จึงได้ตัดสินใจนำที่ดินแปลงนี้ซึ่งอยู่ติดริมทะเลหาดในทอน พร้อมกับขอเช่าพื้นที่ข้างๆ รวมกันแล้วเนื้อที่ประมาณ 60 กว่าไร่ มาพัฒนาเป็นโครงการคอนโดมิเนียมหรู ขายให้แก่คนไทยและต่างชาติที่สนใจเข้ามาลงทุนในภูเก็ต


โดยโครงการ Sea Heaven Phuket Naithon นั้น ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 60 ไร่ อยู่ติดหน้าหาดในทอน ซึ่งเป็นชายหาดที่เงียบสงบและมีความเป็นส่วนตัวสูง อยู่ไกลจากสนามบินภูเก็ต ถือเป็นทำเลที่เหมาะสำหรับการพักผ่อนเป็นอย่างมาก โดยแบ่งการพัฒนาออกเป็น 3 เฟส คือ เฟสแรกจะพัฒนาเป็นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น จำนวน 23 ยูนิต ซึ่งอยู่ด้านหน้าของโครงการ เฟสที่ 2 เป็นคอนโดมิเนียม 5 ชั้น จำนวน 252 ห้อง และเฟสที่ 3 เป็นคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น ซึ่งอยู่ด้านหลังของโครงการ จำนวน 223 ยูนิต ขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 29 ตร.ม.จนถึง 70 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 2.8-10 ล้านบาท พร้อมพูลวิลล่าอีก 15 ยูนิต และ อาคารอำนวยความสะดวกต่างๆ ตั้งอยู่ตรงกลางของโครงการ มูลค่าโครงการอยู่ที่ 2,700 ล้านบาท


โดยหลังจากที่ลูกค้าซื้อห้องพักของโครงการแล้ว ทางบริษัทจะเช่าต่อจากลูกค้าเพื่อนำมาบริหารต่อ โดยให้ผลตอบแทนร้อยละ 7 ต่อปี เป็นเวลา 5 ปี หลังจากนั้นก็จะแบ่งรายได้ที่เกิดขึ้นในสัดส่วน 60 ต่อ 40 โดยเจ้าของห้องจะได้รับ 60% ส่วนผู้บริหารโครงการได้รับ 40% โดยจะให้ทาง Wyndham ซึ่งเป็นเชนบริหารโรงแรมชื่อดังระดับโลกมาบริหาร เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนที่จะตัดสินใจเข้ามาลงทุนในโครงการว่าจะได้รับผลตอบแทนตามที่กำหนดไว้อย่างแน่นอน


ด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการอยู่ด้านบนของเกาะภูเก็ต ซึ่งเป็นชายหาดที่ค่อนข้างจะสงบเป็นธรรมชาติ มีความเป็นส่วนตัว กลุ่มนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้ามาพักทางโซนตอนเหนือของเกาะภูเก็ตนั้น จะเป็นกลุ่มระดับไฮเอนด์เป็นส่วนใหญ่ ทางเราจึงเจาะกลุ่มลูกค้าให้สอดรับต่อทำเลที่ตั้งของโครงการในหลายๆ กลุ่มด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นรัสเซีย ยุโรป นิวซีแลนด์ จีน และชาติอื่นๆ ซึ่งภายหลังจากที่เปิดตัวและเปิดขายเมื่อเร็วๆ นี้ ปรากฏว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก








กำลังโหลดความคิดเห็น