ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้ต้องหาก่อเหตุยิงพ่อค้าหัวปลาเสียชีวิตคารถกระบะ ล่าสุดเดินเข้ามอบตัวแล้วทั้งหมด พบเป็นทหาร 1 นาย ส่วนอีก 2 เป็น อส.อำเภอหาดใหญ่ ทางผู้บังคับบัญชานำมามอบตัวด้วยตนเอง
ความคืบหน้ากรณี 3 คนร้ายขับรถกระบะ และรถจักรยานยนต์ ตามไล่ยิงรถกระบะขนหัวปลา ก่อนที่จะปาดหน้า และคนร้ายถือปืนลงมาใช้อาวุธลูกซองยิง นายดือรอแม สุรง อายุ 33 ปี หรือบังแม คนขับ และเป็นพ่อค้าปลาเสียชีวิตคารถ เหตุเกิดบนถนนสายบ้านโหนด-ท่านางหอม หมู่ 2 ต.คูเต่า อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อบ่าย 2 โมงวานนี้ ซึ่งภาพจากกล้องหน้ารถสามารถบันทึกภาพคนร้ายขณะก่อเหตุได้อย่างชัดเจน
วันนี้ (31 ต.ค.) ในทางการสอบสวนเจ้าหน้าที่รู้ตัวคนร้ายที่ก่อเหตุทั้ง 3 คนแล้ว เป็นเจ้าหน้าที่อส.อำเภอหาดใหญ่ 2 นาย ซึ่งไปช่วยราชการที่ จ.สงขลา และเป็นทหารยศ “จ.ส.อ.” สังกัดค่ายทหารแห่งหนึ่งอีก 1 นาย
ซึ่งขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนได้ประสานไปยังต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 นาย เพื่อให้นำตัวเข้ามอบตัว และมีรายงานว่าทั้ง 3 นาย จะเข้ามามอบตัวในวันนี้ และทาง พล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา จะลงพื้นที่มาติดตามคดี และรับมอบตัวผู้ต้องหาด้วย
ขณะที่ล่าสุดผู้ต้องหาในคดีนี้ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.คู่เต่าแล้ว 1 ราย คือ จ.ส.อ.ทรงวุฒิ บุญรัตน์ สังกัดฝ่ายสรรพาวุธ มทบ.42 โดยผู้บังคับบัญชา และ สห.นำมามอบตัว และมีการนำตัวเข้าห้องสอบสวนทันทีเพื่อทำการสอบสวน และแจ้งข้อหาให้รับทราบ แต่ในเบื้องต้นยังให้การปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่ขับรถจักรยานยนต์ผ่านมา และแวะดูเท่านั้นเพราะรู้จัก อส.ทั้ง 2 นาย เพราะเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน
หลังจากที่ จ.ส.อ.ทรงวุฒิ บุญรัตน์ สังกัดฝ่ายสรรพาวุธ มทบ.42 เข้ามอบตัวเป็นคนแรก ต่อมา อส.อีก 2 นาย คือ อส.เพลินชัย สุวรรณรัตน์ และ อส.ประดิษฐ์ จุลนวล ทางผู้บังคับบัญชาได้นำมามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.คูเต่าแล้วเช่นกัน และรีบพาเข้าห้องสอบสวน และไม่ตอบคำถามใดๆ กับผู้สื่อข่าว
โดยทางพนักงานสอบสวนได้แยกกันสอบระหว่างผู้ต้องหาที่เป็นทหารกับ อส. โดยมี พล.ต.ต.ทิวธวัช นครศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สงขลา เดินทางมาดูแลการสอบสวนด้วยตัวเอง และมีการประสานของตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.หาดใหญ่ จำนวน 2 นาย เข้ามาช่วยสอบสวนคดีนี้ด้วย
จากการสอบถามภรรยาของ จ.ส.อ.ทรงวุฒิ บอกว่า สามีไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยขณะเกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์ไปพบเหตุการณ์โดยบังเอิญ และแค่ลงไปดูเพราะรู้จักกับ อส.ทั้ง 2 นาย
สำหรับเหตุการณ์นี้มีรายงานจากชุดสืบสวนว่า น่าจะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้า โดยช่วงเกิดเหตุ อส.และทหารทั้ง 3 นาย ซึ่งมีรายงานว่าอยู่ในอาการมึนเมา ได้พยายามเรียกตรวจรถกระบะคันนี้เพื่อตรวจค้น และตรวจปัสสาวะคนขับ แต่รถกระบะคันนี้ไม่ยอมหยุดจึงได้ขับไล่ตาม และยิงล้อรถยนต์จนยางแตก ก่อนที่จะขับปาดหน้า และลงมาพร้อมอาวุธปืนลูกซองยาว เดินวนเวียนรอบรถเพื่อเรียกให้คนขับลงมา แต่คนขับไม่ยอมลงจึงอาจจะโมโห และใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงใส่ 4 นัด ก่อนหลบหนีไป
โดยก่อนหน้าที่จะก่อเหตุยิงรถคันนี้เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 นาย ก็ได้ยิงปืนขู่ และเรียกรถจักรยานยนต์คันหนึ่งตรวจค้นแล้วเช่นกัน แต่ไม่พบอะไร ก่อนที่จะมาเรียกตรวจรถกระบะคันนี้ และเหตุการณ์บานปลายถึงขั้นยิงคนขับเสียชีวิต
อย่างไรก็ตาม คดีนี้ทางพนักงานสอบสวนยังต้องสอบปากคำทางญาติผู้ตาย และผู้ก่อเหตุทั้ง 3 นาย อย่างละเอียดอีกครั้งว่ามีอะไรที่ซับซ้อนกว่าการเรียกตรวจค้นหรือไม่ เพราะผู้ตายเองก็มีเรื่องบาดหมางกับคู่เขย และถูกแทงบาดเจ็บมาแล้วเช่นกัน
นอกจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐาน 9 ยังได้มาเก็บหลักฐานลายนิ้วมือแฝงอาวุธปืนลูกซองยาวของกลางที่ใช้ก่อเหตุ ซึ่งถูกนำมามอบให้กับพนักงานสอบสวนแล้วเช่นกัน รวมทั้งตรวจสอบเก็บหลักฐานรถกระบะที่ถูกยิงอย่างละเอียดอีกครั้ง
สำหรับบรรยากาศที่ สภ.คูเต่า ขณะนี้ได้มีทั้งญาติของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน รวมทั้งภรรยา และญาติของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาสังเกตการณ์อยู่ที่ สภ.คูเต่า โดยนางมารีย๊ะห์ เขปัน ภรรยาของผู้ตาย เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย เนื่องจากต้องขับรถผ่านบ้าน อส.ทั้ง 2 นายเป็นประจำทุกวัน พร้อมกับเรียกร้องให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้ง 3 คนอย่างถึงที่สุด
อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง :
๐ สลด! ประกบยิงพ่อค้าหัวปลาดับคารถ กล้องจับภาพหน้าคนร้ายชัด พบ 1 ใน 3 เป็น “อส.”
