สตูล - คืบหน้าหลังตำรวจ และ จนท.พัฒนาสังคม จ.สตูล บุกช่วยเด็กวัย 13 ปี ถูกพ่อล่ามโซ่ไว้กับต้นไม้ อ้างลูกชายป่วยไม่อยู่นิ่ง ต้องทำงานไม่มีเวลาดูแล กลัวลูกได้รับอันตราย ล่าสุดบ้านพักส่งเด็กกลับคืนครอบครัว แพทย์เผยพ่อเด็กเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรง และเสี่ยงฆ่าตัวตาย
วันนี้ (26 ก.ย.) ความคืบหน้าจากกรณีเด็กชายวัย 13 ปี ที่ถูกพ่อคือ นายกิติศักดิ์ ไผ่บุญจันทร์ อายุ 37 ปี จับมาล่ามโซ่ไว้ใต้ต้นมะขาม ใกล้สวนยางพาราบ้านเลขที่ 202 หมู่ 3 ต.ควนกาหลง อ.ควนกาหลง จ.สตูล และได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ควนกาหลง พมจ.สตูล และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสตูล เดินทางเข้าช่วยเหลือ พร้อมนำเด็กมาไว้ยังบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสตูล จากนั้นได้นำเด็กไปตรวจสภาพร่างกายที่โรงพยาบาลสตูล
ล่าสุด แพทย์ระบุว่า บาดแผลที่เกิดขึ้นตามหัว ขา และแขน เกิดจากการเล่นซุกซนของเด็กเอง และพบว่าน้องมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับพัฒนาการทางสมองที่ไม่เหมือนคนอื่น จึงทำให้น้องไม่อยู่นิ่ง และไม่รู้ว่าน้องทำอะไรอยู่ จึงน่าจะเป็นไปได้ว่าพ่อจับน้องล่ามโซ่เพราะสาเหตุนี้ หากไม่ล่ามน้องไว้น้องจะซุกซน และเป็นอันตราย ทางการแพทย์ถือว่าไม่ผิด เป็นวิธีการควบคุมตัวน้องไว้ แต่การใช้โซ่ล่ามที่เท้านั้นไม่เหมาะอย่างยิ่ง ซึ่งควรใช้ผ้ามัดไว้
สำหรับตัวของพ่อเอง จากการพูดคุยกับนักจิตวิทยาของโรงพยาบาลสตูล สรุปได้ว่า นายกิติศักดิ์ ไผ่บุญจันทร์ อายุ 37 ปี เป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรงมาก และเสี่ยงที่จะทำร้ายตนเอง หรือทำสิ่งที่ไม่คาดคิด เพราะพบว่าพ่อมีปัญหาครอบครัวในอดีตที่ฝังใจไว้มานาน รวมทั้งสภาพความยากจนที่ต้องดูแลครอบครัว และมีภรรยาใหม่แล้ว จึงต้องทำหน้าที่พ่อดูแลลูกถึง 2 คน คนแรกก็น้องวัย 13 ปี ที่ล่ามโซ่ไว้ และลูกกับภรรยาใหม่อีก 1 คน จึงเกิดความเครียดหลายๆ อย่าง บางทีก็มีอาการซึมเศร้า ไม่พูดจา ชอบอยู่คนเดียว และคิดคนเดียว
ด้านนายอูมา หะยีมะเก๊ะ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสตูล กล่าวว่า เด็กชายที่ถูกพ่อ คือ นายกิติศักดิ์ ไผ่บุญจันทร์ อายุ 37 ปี ล่ามโซ่เอาไว้นั้นได้ส่งกลับบ้านไปแล้ว เพราะสาเหตุที่ส่งกลับได้ตรวจสอบ และดูว่าการกระทำไม่ได้โหดร้ายทารุณกับเด็ก เพียงแค่ต้องการปกป้องเด็กไม่ให้เกิดอันตรายยามตนเองพักผ่อน โดยจะล่ามโซ่น้องไว้เป็นครั้งคราว แต่อย่างไรก็ตาม ไม่สมควรล่ามน้องกับโซ่ ควรใช้ผ้ามัด และบาดแผลที่เห็นไม่ได้เป็นการทารุณ หลังจากนี้จะมีชุดเฝ้าดูประเมินการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง หรือชุดติดตามผล โดยประสานกับโรงพยาบาลในพื้นที่ เบื้องต้นได้ช่วยเหลือเป็นทุนดูแลตามศักยภาพที่ช่วยเหลือกัน
ขณะที่ นายประมาณ จันทร์พาณิชย์ นักจิตวิทยา เจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสตูล กล่าวว่า สิ่งที่น่าเป็นห่วง คือ อาการของพ่อ เพราะพ่อมีสภาวะเครียดหลายๆ อย่างที่อยู่ในใจ นั่นหมายถึงโรคซึมเศร้า เป็นโรคที่น่ากลัว เพราะมีหลายอย่างที่พ่อของน้องวัย 13 ปี ต้องรับภาระดูแล ทั้งครอบครัว ต้องหาเงิน แม้กระทั่งจัดสรรเวลาเลี้ยงดูลูกชาย ถึงอย่างไรก็จะประสานการดูแลทั้งพ่อและลูก ส่วนพ่อทางหมอนัดรับยาดูแลไม่ให้เครียด และลูกชายก็ดูแลในการรักษาตามขั้นตอนกระบวนการที่ถูกต้อง
อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง :
๐ ตร.-พัฒนาสังคมสตูลบุกช่วยเด็กชายวัย 13 ปี ถูกพ่อล่ามโซ่ไว้กับต้นไม้