ตรัง - ขบวนรถขนญาติกลับจากงานแต่งที่ จ.ปัตตานี เพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านที่ จ.กระบี่ ฟอร์จูนเนอร์นำหน้าชนกับรถพ่วงกลางสี่แยก อ.ต.ก. ถนนเลี่ยงเมืองตรัง ข้ามไปอีกฝั่ง แม่เจ้าบ่าวกระเด็นหลุดจากรถเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนคนอื่นๆ อีก 6 คน ติดคารถ บาดเจ็บสาหัส กู้ภัยต้องใช้เครื่องตัดถ่างช่วย คนขับรถพ่วงรอให้การ อ้างฟอร์จูนเนอร์อยู่ๆ ก็โผล่มา ไม่ยอมเบรก เชื่อไม่ชำนาญทาง ไฟข้างทางไม่สว่างพอ
กลางดึกวันนี้ (31 ส.ค.) เกิดอุบัติเหตุรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์ชนกับรถบรรทุกพ่วง ที่บริเวณสี่แยก อ.ต.ก. ถนนเลี่ยงเมือง อ.เมือง จ.ตรัง มีผู้เสียชีวิตคาที่ และติดอยู่รถฟอร์จูนเนอร์หลายคน หลังเกิดเหตุ ตำรวจ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจากหลายแห่ง และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล ได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบและช่วยเหลือ พบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ป้ายทะเบียน กค 3407 พังงา ข้ามจากช่องจราจรของตนเองไปจอดขวางช่องจราจรฝั่งขวามือ สภาพเสียหายทั้งคัน ฝั่งขวายุบ พบนางยุเหรียญ ยุมยวง อายุ 50 ปีเศษ เสียชีวิตนอนอยู่บนถนน 1 คน ส่วนในรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์พบผู้บาดเจ็บรวม 6 คน เป็นผู้ใหญ่ 5 คน และเด็ก 1 คน ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 3 คน เจ้าหน้าที่ต้องเร่งใช้เครื่องตัดถ่างเพื่อรีบนำร่างออกมา และเร่งปั๊มหัวใจ จากนั้นรีบนำส่ง รพ.ตรัง เป็นการด่วน ส่วนรถบรรทุกพ่วงคู่กรณีจอดอยู่เส้นทางจะมุ่งหน้าสี่แยกหนองตรุด
จากการสอบถาม น.ส.เพียรธิรา บุตรหลัง อายุ 35 ปี ชาว อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ ซึ่งนั่งมากับรถเก๋งอีกคันตามท้ายรถฟอร์จูนเนอร์ กล่าวว่า ตนและญาติ รวมทั้งผู้เสียชีวิต เดินทางโดยรถยนต์ 2 คัน มาจาก อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี หลังไปงานแต่งงานลูกชายของผู้เสียชีวิต มุ่งหน้ากลับบ้านที่ อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ รถฟอร์จูนเนอร์ ซึ่งนำหน้าชนกับรถบรรทุกดังกล่าว
ขณะที่ นายปรากฏ โทธรรม อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 166 หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.รัษฎา จ.ตรัง คนขับรถบรรทุกพ่วงคันดังกล่าว ซึ่งหลังเกิดเหตุไม่ได้หลบหนี ได้โทรศัพท์เรียกบริษัทประกันภัยและรอให้การต่อตำรวจ กล่าวว่า ตนกลับจากไปส่งปูนซีเมนต์ที่ท่าเรือกันตัง มุ่งหน้ากลับบ้านที่ อ.รัษฎา เมื่อมาถึงบริเวณสี่แยก ซึ่งเป็นไฟกะพริบ จู่ๆ ก็มีรถฟอร์จูนเนอร์โผล่มา พยายามเบรกแต่ไม่ทัน ทำให้ด้านซ้ายของรถชนเข้ากับกลางลำตัวด้านขวา เชื่อว่าหากรถฟอร์จูนเนอร์เบรกด้วย ก็คงไม่น่าจะชนกัน
“อาจเป็นเพราะคนขับฟอร์จูนเนอร์เป็นคนต่างจังหวัดและไม่ชำนาญเส้นทาง ในช่วงกลางคืนบริเวณสี่แยก อ.ต.ก. มักเปิดเป็นไฟกะพริบ และแสงไฟบริเวณสี่แยกไม่ค่อยจะสว่างมากนัก เป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง”