นครศรีธรรมราช - ชาวบ้านใน ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช รวมตัวเฝ้าวัดสโมสรศรัทธาวาส หรือวัดปลายสระ ป้องกันไม่ให้มีการขนย้ายทรัพย์สินวัดที่ยังคงเหลือ หลังขับไล่เจ้าอาวาสเผ่นหนีหาย
จากกรณีที่ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 4 ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช จำนวนนับ 100 คน ได้เข้าไปปิดล้อมกุฏิ พระครูสุตาพิมล สุวรรณณชาโต อายุ 48 ปี เจ้าอาวาสวัดสโมสรศรัทธาวาส หรือวัดปลายสระ ทั้งยังมีตำแหน่งเป็นรองเจ้าคณะอำเภอร่อนพิบูลย์ ฝ่ายมหานิกาย เนื่องจากไม่พอใจในพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหลายอย่าง โดยเฉพาะกรณีที่ชาวบ้านเห็นว่ามีการนำสีกาเข้ามาอยู่ในกุฏิ โดยกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ได้พากันมาปิดล้อม โดยวานนี้ ได้มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ผู้ปกครองท้องที่ และฝ่ายสงฆ์ รวมทั้งตัวแทนชาวบ้านร่วมกันตรวจค้นกุฏิ พบสิ่งของที่ไม่เหมาะไม่ควรกับสมณสารูปหลายรายการ รวมทั้งอาวุธปืนสั้นอีก 1 กระบอก
ความคืบหน้าล่าสุด วันนี้ (14 ส.ค.) พบว่าชาวบ้านจำนวนมากยังคงหมุนเวียนเข้ามาภายในวัด และปักหลักเฝ้าวัดเพื่อไม่ให้มีการโยกย้ายถ่ายเททรัพย์สินต่างๆ ออกไปจากวัด จนกว่าจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการวัด และจัดหาเจ้าอาวาสรูปใหม่มาพัฒนาวัด โดยมีการจัดตั้งครัวขึ้นมาเพื่อประกอบอาหารให้แก่ชาวบ้านที่ร่วมมาดูแลวัด ส่วนพระครูสุตาพิมล สุวรรณณชาโต ไปปักหลักอยู่ที่วัดสุวรรณโฆษิต หมู่ 1 ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ ห่างจากวัดเดิมไปเพียงไม่กี่กิโลเมตร และได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.ร่อนพิบูลย์ โดยอ้างว่าเดินทางไปจำวัดที่วัดสุวรรณโฆษิตเอง เนื่องจากเกรงว่าอยู่วัดเดิมจะไม่ปลอดภัย และไม่ได้มีการขับไล่ของชาวบ้าน
อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านที่มาร่วมเฝ้าวัดรายหนึ่งแสดงความสงสัยว่า แต่ละปีนั้นมีการทอดผ้าป่า รวมทั้งทอดกฐินประจำปี แต่ยอดเงินไม่ได้ปรากฏหลงเหลืออยู่เลย ที่ผ่านมา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ได้มาร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพกฐิน ปรากฏว่ามียอดเงินเข้ามานับล้านบาท แต่ยอดเงินนี้ไม่ทราบว่าไปอยู่ที่ใด ยังอยู่หรือไม่ไม่มีใครทราบได้ วันนี้ชาวบ้านยังคงมาเฝ้ารักษาวัดเช่นเดิม เพราะมีกระแสว่าเจ้าอาวาสจะเดินทางกลับมาเอาสิ่งของส่วนตัว
ขณะที่ นายวินัย จันทรประภา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ เปิดเผยผ่านทางโทรศัพท์ภายหลังเดินทางไปให้ปากคำที่ สภ.ร่อนพิบูลย์ ว่า ได้ไปให้ปากคำต่อตำรวจถึงที่มาที่ไปของเรื่องที่เกิดขึ้นภายในวัด ให้การไปตามเหตุการณ์เท่าที่รู้เรื่องราวมาทั้งหมด หลังทางญาติของเจ้าอาวาสไปลงบันทึกปากคำก่อนหน้านั้น และส่วนของเรื่องอาวุธปืนที่เจ้าหน้าที่ค้นเจอภายในกุฏินั้น ก็เป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะดำเนินการตามกระบวนการกฎหมาย ซึ่งจริงๆ แล้วอยากให้เรื่องจบๆ ไปเสีย เพราะชาวบ้านในพื้นที่กว่า 300 คน หรือทั้งหมู่บ้านก็ว่าได้ ไม่ต้องการเจ้าอาวาสรูปนี้ หรือให้ลาออกจากเจ้าอาวาสวัดปลายสระ ส่วนจะไปอยู่ที่ไหนก็เป็นเรื่องของเขา
อ่านข่าวเกี่ยวเนื่อง :
๐ ฮือไล่สมภารกกสีกาคากุฏิวัดดังเมืองพระ นกรู้เผ่นทัน ทิ้ง กกน.ผู้หญิงให้ดูต่างหน้า