“นิกรมารีน กรุ๊ป” ผู้นำท่องเที่ยวทางทะเลภูเก็ต เปิดตัวยอชต์ลำใหม่ล่าสุด “ปาปะกัง” บริการเช่าเหมาลำเกาะเฮ-เกาะราชา

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “นิกรมารีน กรุ๊ป” ผู้นำธุรกิจท่องเที่ยวทางทะเลภูเก็ต เปิดตัวเรือยอชต์คาตามารันลำใหม่ล่าสุด “ปาปะกัง” บริการเช่าเหมาลำเส้นทางเกาะเฮ เกาะราชา เผยใช้เวลากว่า 30 ปี ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว จนก้าวมาถึงวันนี้ ด้วยบริการท่องเที่ยวทางทะเลแบบครบวงจร

เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท นิกรมารีน กรุ๊ป จำกัด ผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต เปิดตัวเรือท่องเที่ยวลำใหม่ล่าสุด “ปาปะกัง” โดยจัดทริปนำสื่อมวลชนในจังหวัดภูเก็ตล่องเรือปาปะกังชมพระอาทิตย์ตกน้ำที่แหลมพรหมเทพ เพื่อให้สื่อมวลชนได้สัมผัสบริการของเรือปาปะกัง โดยมีนายนิกร-นางวิรินทร์ตรา และนายภีร์รปัฒณ์ ปภากิจยศพัฒน์ ผู้บริหาร นิกรมารีน กรุ๊ป ให้การต้อนรับ พร้อมทั้งแนะนำเรือปาปะกัง และบริการของนิกรมารีน

นายนิกร-นางวิรินทร์ตรา ปภากิจยศพัฒน์ ผู้บริหาร นิกรมารีน กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า เรือปาปะกัง เป็นเรือยอชต์คาตามารัน ลำใหม่ล่าสุดของบริษัทนิกรมารีน ซึ่งได้สั่งต่อและเปิดให้บริการเมื่อเร็วๆ นี้ ให้บริการแบบเช่าเหมาลำในเส้นทางจากท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง ไปยังเกาะเฮ และเกาะราชา เนื่องจากทั้ง 2 เส้นทางนี้ใช้ระยะเวลาในการเดินทางไม่ไกลมากนัก

สำหรับเรือยอชต์คาตามารัน “ปาปะกัง” ลำนี้ สามารถบรรทุกได้ 80 คน แต่ทางเราจะรับลูกค้าเพียง 60 คนเท่านั้น ส่วนที่เหลือสำหรับลูกเรือและพนักงานบริการบนเรือ ภายในเรือมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน บริการอาหารและเครื่องดื่ม ที่สำคัญคือความปลอดภัย มีวิทยุของกัปตัน ระบบ GPS ใช้เงินลงทุนประมาณ 40 ล้านบาท

เรือปาปะกังจะออกจากท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต มุ่งหน้าสู่ด้านหลังเกาะเฮ เพื่อนำทุกคนไปเล่นน้ำและสไลเดอร์ ก่อนที่จะล่องไปเรื่อยๆ เพื่อชมพระอาทิตย์ตกน้ำที่แหลมพรหมเทพ ซึ่งเป็นจุดพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย พร้อมด้วยดินเนอร์สุดหรูบนเรือ ซึ่งเป็นหนึ่งในทริปล่องเรือปาปะกังให้บริการลูกค้าของนิกรมารีน โดยลูกค้าสามารถระบุได้ตามความต้องการว่า ต้องการอาหารและเครื่องดื่มอย่างไร ส่วนราคานั้นเริ่มต้นที่เที่ยวละประมาณ 1 แสนบาท ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับเส้นทาง อาหาร และเครื่องดื่ม รวมถึงบริการอื่นๆ ที่นอกเหนือจากบริการของทางบริษัท ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่ใช้บริการนั้น จะมีทั้งลูกค้าคนไทยและต่างชาติ ขณะนี้เปิดให้บริการใน 2 เส้นทาง คือ เกาะเฮ-ชมพระอาทิตย์ตกน้ำที่แหลมพรหมเทพ และเส้นทางเกาะราชา

“นิกรมารีน กรุ๊ป” ถือเป็นผู้ให้บริการท่องเที่ยวทางเรือแบบครบวงจรรายแรกๆ ของภูเก็ต ผู้บริหาร นิกรมารีน บอกว่า นิกรมารีน กรุ๊ป ในวันนี้ เริ่มต้นจากการให้บริการเจ็ตสกีเพียงลำเดียว ที่เกาะเฮ เมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว หลังได้รับความนิยมก็ค่อยๆ เพิ่มจำนวนเจ็ตสกีขึ้น พร้อมกับได้ลงทุนต่อเรือเร็ว หรือเรือสปีดโบ๊ต อีก 1 ลำ ให้บริการรับ-ส่งนักท่องเที่ยวไปเกาะเฮ ซึ่งตอนนั้นได้ทำคอนแทกต์กับบริษัทัวร์ญี่ปุ่น เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเข้ามาเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ตจำนวนมาก และชื่นชอบที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวที่เกาะเฮ

“ตอนนั้นเราขนญี่ปุ่นไปเกาะเฮ วันละ 200-300 คน ธุรกิจค่อยๆ เติบโตขึ้น ได้ลงทุนต่อเรือสปีดโบ๊ตเพิ่ม และเห็นว่าการทำธุรกิจให้เช่าเจ็ตสกีมีปัญหาเกิดขึ้นมากมาย เจ็ตสกีชนกันบ้าง นักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บบ้าง ทำให้มีปัญหาตามมาเรื่อยๆ จึงตัดสินใจเลิกการให้บริการเจ็ตสกีที่เกาะเฮ พร้อมกับผู้ประกอบการรายอื่นๆ” สองผู้บริหารนิกรมารีน กรุ๊ป กล่าวและว่า

การท่องเที่ยวทางทะเลของภูเก็ตเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเดินทางไปท่องเที่ยวที่เกาะเฮ ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ทั้งจีน รัสเชีย เกาหลี และชาติอื่นๆ นิกรมารีน ซึ่งทำทัวร์ท่องเที่ยวแบบวันเดย์ทริปที่เกาะเฮ ได้เพิ่มเรือสปีดโบ๊ตขึ้นเรื่อยๆ เพื่อรองรับความต้องการของนักท่องเที่ยว และเพิ่มความหลากหลายของการบริการให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น จากเรือสปีดโบ๊ตเพียงอย่างเดียว เพิ่มเรือตกปลา เรือยอชต์คาตามารัน รับลูกค้าได้ทุกชาติและทุกกลุ่ม และล่าสุดได้เปิดตัวเรือยอชต์คาตามารัน “ปาปะกัง” ลำล่าสุดไปเมื่อเร็วๆ นี้

ปัจจุบัน นิกรมารีน กรุ๊ป ผงาดขึ้นมาเป็นบริษัทท่องเที่ยวทางเรือชั้นนำของภูเก็ต มีบริการท่องเที่ยวทางทะเลแบบครบวงจร ให้บริการใน 2 เส้นทางหลัก คือ เกาะเฮ และเกาะราชาใหญ่ พร้อมร้านอาหารที่เกาะเฮ กิจกรรมทางน้ำ มีเรือสปีดโบ๊ตกว่า 50 ลำ เรือยอชต์คาตามารัน 5 ลำ เรือตกปลาอีก 10 ลำ เรือซีวอล์กเกอร์ อีก 2 ลำ

กว่าที่นิกรมารีนจะเดินมาถึงวันนี้ “นิกร-วิรินทร์ตรา ปภากิจยศพัฒน์” สองผู้บริหาร บอกว่า กว่าที่จะมาถึงวันนี้ได้ผ่านวิกฤตที่เกิดขึ้นกับการท่องเที่ยวของภูเก็ตมาหลายต่อหลายครั้ง ตั้งแต่วิกฤตครั้งยิ่งใหญ่ของภูเก็ตและอันดามันจากภัยสึนามิ การระบาดของโรคซา ไข้หวัดนก วิกฤตเศรษฐกิจโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวทั้งสิ้น ในวิกฤตต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้น ได้ฝ่าฟันมาด้วยการทำตลาด ทำความเข้าใจกับเอเยนต์ทัวร์ หาตลาดกลุ่มใหม่ๆ ที่ไม่ได้รับผลกระทบ และล่าสุดจากเหตุการณ์เรือฟินิกซ์ล่ม เมื่อเดือน ก.ค.61 นิกรมารีนก็ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวในช่วงแรกๆ เช่นกัน แต่เมื่อได้ทำความเข้าใจกับเอเย่นต์ทัวร์ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ เอเยนต์ทัวร์ก็เข้าใจ ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นอยากจะให้เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้ประกอบการนำเที่ยวทางทะเล ที่จะต้องให้ความสำคัญต่อเรื่องของความปลอดภัยเป็นอันดับต้นๆ

“ถึงแม้จะผ่านวิกฤตต่างๆ มาหลายต่อหลายรอบ แต่สิ่งหนึ่งที่นิกรมารีนไม่เคยทำ คือ การแข่งขันกันลดราคา แต่จะให้ความสำคัญต่อเรื่องของบริการ และความปลอดภัย เป็นสำคัญ ทั้งนี้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวที่ใช้บริการเกิดความประทับใจมากที่สุด และกลับมาใช้บริการของนิกรมารีนอีกในครั้งต่อไปที่มาเยือนเกาะภูเก็ต” สองผู้บริหาร นิกรมารีน กรุ๊ป กล่าวในที่สุด