ตรัง - เมืองตรังเกิดอุบัติเหตุรถชน 2 รายซ้อน โดยรายแรกกระบะชน จยย.ที่ไม่สวมหมวกนิรภัยเจ็บสาหัส ส่วนอีกรายกระบะพลิกชนเสาไฟฟ้าขาดสะบั้น แต่คนขับรอดหวุดหวิด เพราะคาดเข็มขัดนิรภัย
วันนี้ (21 ส.ค.) รับแจ้งจากวิทยุสื่อสารศูนย์นเรนทรตรัง ว่า มีอุบัติเหตุรถกระบะชนกับรถ จยย. มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย บริเวณหน้าวัดคลองน้ำเจ็ด ถ.คลองน้ำเจ็ด ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง จึงแจ้งให้ ร.ต.อ.อุชุกร สุขบังเกิด ร้อยเวร สภ.เมืองตรัง รุดไปยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยมูลนิธิกุศลสถานตรัง เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชายอายุประมาณ 60 ปี นอนได้รับบาดเจ็บอยู่กลางถนน โดยตามเนื้อตัวมีรอยแผลถลอก ศีรษะมีรอยฟกช้ำโนปูดโปน เนื่องจากศีรษะฟาดกับพื้นถนนอย่างรุนแรง และไม่สวมหมวกกันน็อก เจ้าหน้าที่เร่งปฐมพยาบาล ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลวัฒนแพทย์ตรัง
นอกจากนั้น ใกล้กันพบรถ จยย.ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน 1 กค 4408 สงขลา ล้มอยู่กลางถนน ในสภาพกระโปรงหน้าแตกหัวรถยุบ ข้าวของสัมภาระตกเกลื่อนถนน ห่างกัน 20 เมตร พบรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ ตอนครึ่ง สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บท 1ต313 ตรัง จอดขวางถนนในสภาพประตูด้านข้างมีรอยยุบ โดยมีผู้โดยสารมากับรถ 2 คน เป็นผู้หญิงอายุประมาณ 50 ปี แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
จากนั้นได้เกิดอุบัติเหตุอีกรายกับหนุ่มวัย 21 ปี ขณะขับรถกระบะกลับจากขายของเก่าฝ่าฝนที่ตกหนัก ทำให้รถเสียหลักข้ามถนนก่อนพลิกคว่ำหลายตลบ แล้วชนเสาไฟฟ้าขาด 2 ท่อน แต่เจ้าตัวรอดหวุดหวิด เพราะคาดเข็มขัดนิรภัย ไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย ซึ่งที่เกิดเหตุ ถ.ตรัง-พัทลุง ต.นาโยงใต้ อ.เมืองตรัง พบรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ สีน้ำเงิน ทะเบียน บบ 8256 ตรัง พังยับอยู่บนถนน ในสภาพด้านหน้ารถยุบย่น อะไหล่ตกเกลื่อนถนน แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ใกล้กับที่เกิดเหตุพบเสาไฟฟ้าแรงสูงหักสะบั้น เหลือเพียงลวดที่ยึดเหนี่ยวอยู่เท่านั้น จนสร้างความตกใจแก่ผู้พบเห็นอย่างมาก เพราะไม่นึกว่าคนขับจะรอดชีวิต และออกจากรถได้เองอย่างปลอดภัย
นายฉัตยา ชะบา อายุ 21 ปี หนุ่มขับรถส่งของเก่าบริษัทแห่งหนึ่ง กล่าวว่า ตนเองขับรถมาถึงที่เกิดเหตุบน ถ.ตรัง-พัทลุง ขณะที่ฝนตกหนักและมีน้ำขังบนผิวถนน กระทั่งตนเองได้มาติดไฟแดงช่วงสี่แยกท่าปาบ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร แต่เกิดสังหรณ์ใจ จึงดึงเข็มขัดนิรภัยมาคาด เมื่อรถออกตัวจากไฟแดงซึ่งเป็นช่วงทางโค้ง รถเกิดแฉลบไปชนฟุตปาธ ตนเองพยายามบังคับหักหลบไม่ให้รถเสียหลักเข้าไปชนบ้านเรือนแถวนั้น แต่เอาไม่อยู่จริงๆ เหมือนล้อหน้ารถแตก จึงพุ่งไปชนเสาไฟฟ้าแรงสูงข้างถนนอย่างแรง แต่โชคดีที่ตนคาดเข็มขัดนิรภัย และถุงลมทำงานทั้ง 2 ใบ จึงไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด