xs
xsm
sm
md
lg

แห่ชมความงาม “ว่านหางช้าง” ราชินีกล้วยไม้ใหญ่สุดในโลก ออกดอกบานสะพรั่งปีละครั้ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ตรัง - ชาวตรัง และนักท่องเที่ยวแห่กันไปยลโฉมความงาม พร้อมถ่ายภาพเซลฟี่กับ “ว่านเพชรหึง” หรือ “ว่านหางช้าง” ราชินีกล้วยไม้ที่ใหญ่สุดในโลก ซึ่งออกดอกบานสะพรั่งแค่ปีละครั้ง ภายในศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 2 เมืองตรัง

วันนี้ (6 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ภายในรั้วของศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 2 ภายในศูนย์พันธุ์พืชเพาะเลี้ยงจังหวัดตรัง สังกัดกรมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 9 หมู่ที่ 11 ต.โคกหล่อ อ.เมือง จ.ตรัง ปรากฏว่า ตลอดสองข้างฝั่งถนนบริเวณทางเข้า และบริเวณใกล้เคียงได้มีการปลูก “ว่านเพชรหึง” หรือที่บางคนเรียกว่า กล้วยไม้ยักษ์ กล้วยไม้เสือโคร่ง หรือที่ชาวปักษ์ใต้นิยมเรียกกันว่า “ว่านหางช้าง” ประมาณ 1,000 ต้น ซึ่งนับเป็นราชินีแห่งกล้วยไม้ เนื่องจากเป็นกล้วยไม้ที่มีดอกขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยปีนี้ได้ทยอยกันบานสะพรั่งด้วยสีสันสดใสจนเป็นที่สะดุดตา พร้อมทั้งยังส่งกลิ่นหอมอบอวน และฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ
 

 
ว่านเพชรหึง หรือว่านหางช้าง มีลักษณะเด่น คือ มีรากจำนวนมากเกาะแน่น และแตกเป็นแขนงที่ปลาย ส่วนดอกจะทยอยบานตั้งแต่ชั้นล่างสุดไปจนถึงชั้นบนสุด โดยมีกลีบดอกหนา พื้นกลีบมีสีเหลืองอมเขียว และมีแต้มน้ำตาล หรือม่วง คล้ายกับลวดลายของเสือ ลำต้นมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3-5 เซนติเมตร ใบกว้าง 3 เซนติเมตร ยาว 60 เซนติเมตร ซึ่งจะออกดอก และทยอยบานติดต่อกันนานถึง 3 เดือนในช่วงกลางปี โดยจะออกดอกบริเวณยอดครั้งละ 2-3 ช่อ แต่ละช่อจะมี 75-125 ดอก ทำให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวต่างเดินทางมาชมความงดงาม และถ่ายภาพเซลฟี่กันอย่างคึกคักตลอดทั้งวัน เพราะหากพลาดในปีนี้แล้ว ก็จะต้องรอชมในปีถัดไปเท่านั้น
 

 
นางสาวิตรี ศรีหมอก นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ กล่าวว่า ศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 2 จังหวัดตรัง เป็นแหล่งเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อว่านเพชรหึง หรือว่านหางช้าง ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยในปีนี้จะเน้นการท่องเที่ยวแบบเชิงเกษตร ด้วยการเปิดให้นักท่องเที่ยว และประชาชนที่สนใจเข้าชมฟรี ภายในวันและเวลาราชการ ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. อีกทั้งในเดือนสิงหาคมนี้ก็เป็นเดือนแห่งวันแม่ จึงอยากจะฝากไปยังลูกๆ ทั้งหลายว่า หากยังไม่มีโปรแกรมจะนำคุณแม่ไปท่องเที่ยวที่ไหน ก็สามารถเดินทางมาชมว่านเพชรหึง ซึ่งปีนี้กำลังออกดอกงดงามบานสะพรั่ง พร้อมให้ทุกคนมายลโฉมกันแล้ว ไปจนถึงประมาณเดือนกันยายนนี้
 

 
นางสาวิตรี กล่าวอีกว่า ว่านเพชรหึง หรือว่านหางช้าง ในปัจจุบันนี้ได้มีการปลดล็อกจากไม้หวงห้ามประเภท 2 จึงสามารถเพราะเลี้ยงขายได้แล้ว ดังนั้นทางศูนย์ฯ จึงได้มีการขยายพันธุ์ต้นกล้า โดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อเพื่อให้ประชาชนนำไปปลูกตัดดอกขายเชิงการค้า รวมทั้งปลูกในสถานที่ต่างๆ เพื่อการท่องเที่ยว เนื่องจากเวลาออกดอกพร้อมๆ กันแล้วจะมีความสวยงามเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ หากมีผู้ที่สนใจอยากได้ต้นพันธุ์เพื่อนำไปปลูก สามารถติดต่อขอรับได้เพียงแค่นำบัตรประจำตัวประชาชนมายื่นต่อเจ้าหน้าที่ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ หรือจะติดต่อมายังหมายเลขโทรศัพท์ 0-7558-2312 และ 0-7558-2313
 



กำลังโหลดความคิดเห็น