ชุมพร - ชาวบ้านหินแก้ว อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร กว่าพันคนโวยถนนในหมู่บ้าน กลายเป็นถนนโคลนช่วงหน้าฝน ทำเดือดร้อนทุกปี ทั้งๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากถนนสายหลัก
วันนี้ (1 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชาวบ้านจำนวนมากในพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลหินแก้ว อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ร้องเรียน ว่า ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากถนนในหมู่บ้านระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากถนนสายหลักเพชรเกษม โดยชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนมานานกว่า 3 เดือนแล้ว
เนื่องจากถนนดังกล่าวเกิดความเสียหาย เป็นหลุมเป็นบ่อขรุขระ มีดินโคลนหนา และลื่นไถล รถยนต์ รถจักรยานยนต์ไม่สามารถเข้าออกหมู่บ้านได้ตามปกติ ยกเว้นรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อ เนื่องจากประสบปัญหาจากฝนที่ตกลงต่อเนื่องหลายวันที่ผ่านมา และเมื่อถึงช่วงหน้าฝนของทุกปีจะต้องประสบกับปัญหาดงกล่าวอยู่เป็นประจำทุกๆ ปี
สำหรับถนนเส้นดังกล่าวเป็นสายหลักเข้าออกหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านกว่า 1,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม จำเป็นต้องขนผลผลิตทางการเกษตร ไม่ว่าทุเรียน ปาล์มน้ำมัน หรือยางพารา ออกไปขายยังตลาดรับซื้อ และ ยังมีนักเรียน นักศึกษาต้องใช้สัญจรไปโรงเรียน ได้รับความเดือดร้อนต้องทนทุกข์ทรมานมานานกว่า 3 เดือนแล้ว
โดยเฉพาะนักเรียน นักศึกษา กว่า 100 คน ที่จะต้องตื่นแต่เช้ากว่าปกติ เพื่อไปอาศัยรถยนต์ของเพื่อนบ้านที่ออกไปเรียนหนังสือ และยังมีนักเรียนบางคนไม่มีทางเลือกต้องนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ผู้ปกครองเสี่ยงภัยฝ่าถนนที่ลื่นด้วยความยากลำบากออกไปยังถนนสายใหญ่ เพื่อขึ้นรถประจำไปโรงเรียน
ขณะที่บางรายรถเสียหลักลื่นไถลล้มทำให้ทั้งผู้ปกครอง และนักเรียนเสื้อผ้าก็เปรอะเปื้อน และได้รับบาดเจ็บจนต้องหยุดเรียนหนังสือในวันนั้นไปโดยปริยายอีกด้วย
ชาวบ้านบอกว่า อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบกับถนนสายดังกล่าวได้มาแก้ไขซ่อมปรับสภาพถนนให้ดีขึ้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าไปก่อน และขอให้ผู้เกี่ยวข้องช่วยทำถนนลาดยาง หรือถนนคอนกรีต เพื่อแก้ปัญหาให้แก่ชาวบ้านที่ต้องประสบปัญหาลักษณะนี้อยู่เป็นประจำทุกๆ ปีด้วย
วันนี้ (1 ส.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชาวบ้านจำนวนมากในพื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลหินแก้ว อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ร้องเรียน ว่า ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากถนนในหมู่บ้านระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากถนนสายหลักเพชรเกษม โดยชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนมานานกว่า 3 เดือนแล้ว
เนื่องจากถนนดังกล่าวเกิดความเสียหาย เป็นหลุมเป็นบ่อขรุขระ มีดินโคลนหนา และลื่นไถล รถยนต์ รถจักรยานยนต์ไม่สามารถเข้าออกหมู่บ้านได้ตามปกติ ยกเว้นรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อ เนื่องจากประสบปัญหาจากฝนที่ตกลงต่อเนื่องหลายวันที่ผ่านมา และเมื่อถึงช่วงหน้าฝนของทุกปีจะต้องประสบกับปัญหาดงกล่าวอยู่เป็นประจำทุกๆ ปี
สำหรับถนนเส้นดังกล่าวเป็นสายหลักเข้าออกหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านกว่า 1,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม จำเป็นต้องขนผลผลิตทางการเกษตร ไม่ว่าทุเรียน ปาล์มน้ำมัน หรือยางพารา ออกไปขายยังตลาดรับซื้อ และ ยังมีนักเรียน นักศึกษาต้องใช้สัญจรไปโรงเรียน ได้รับความเดือดร้อนต้องทนทุกข์ทรมานมานานกว่า 3 เดือนแล้ว
โดยเฉพาะนักเรียน นักศึกษา กว่า 100 คน ที่จะต้องตื่นแต่เช้ากว่าปกติ เพื่อไปอาศัยรถยนต์ของเพื่อนบ้านที่ออกไปเรียนหนังสือ และยังมีนักเรียนบางคนไม่มีทางเลือกต้องนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ผู้ปกครองเสี่ยงภัยฝ่าถนนที่ลื่นด้วยความยากลำบากออกไปยังถนนสายใหญ่ เพื่อขึ้นรถประจำไปโรงเรียน
ขณะที่บางรายรถเสียหลักลื่นไถลล้มทำให้ทั้งผู้ปกครอง และนักเรียนเสื้อผ้าก็เปรอะเปื้อน และได้รับบาดเจ็บจนต้องหยุดเรียนหนังสือในวันนั้นไปโดยปริยายอีกด้วย
ชาวบ้านบอกว่า อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบกับถนนสายดังกล่าวได้มาแก้ไขซ่อมปรับสภาพถนนให้ดีขึ้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าไปก่อน และขอให้ผู้เกี่ยวข้องช่วยทำถนนลาดยาง หรือถนนคอนกรีต เพื่อแก้ปัญหาให้แก่ชาวบ้านที่ต้องประสบปัญหาลักษณะนี้อยู่เป็นประจำทุกๆ ปีด้วย