กระบี่ - ลูกทรพีใช้ชะแลงแทงหน้าพ่อวัย 60 ปี ดับสยอง ก่อนใช้เชือกรัดคอลากออกไปทิ้งสวนปาล์มข้างบ้าน หลังเกิดเหตุกลับมานอนอยู่หน้าบ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คาดเสพยาจนหลอน
เมื่อเวลา 07.30น.วันนี้ (28 ก.ค.) พ.ต.ท.สมชาย หนูบุญ สว.(สอบสวน) สภ.คลองท่อม จ.กระบี่ รับแจ้งเหตุลูกฆ่าพ่อ ที่บ้านเลขที่ 14/1 ม.5 ต.พรุดินนา อ.คลองท่อม จ.กระบี่ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประเทือง วงค์เดช รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ต.พิเชษฐ์ รักษ์ศรีทอง สวป.สภ.คลองท่อม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลคลองท่อม และหน่วยกู้ภัยเต็กก่าจีคุงเกาะลำทับ ร่วมตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีชาวบ้านยืนมุงดูอยู่จำนวนมาก ส่วนบริเวณที่พบศพอยู่ภายในสวนปาล์ม ห่างจากบ้านประมาณ 15 เมตร พบศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นายสุวิทย์ สำเภา อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ดังกล่าว สภาพศพนอนหงาย และเริ่มมีมดขึ้นตามตัว
สภาพศพสวมเสื้อยืดคอกลมแขนกุดสีเทา ท่อนล่างนุ่งกางเกงในสีดำ ส่วนกางเกงขาสั้นหลุดออกไปอยู่ที่ข้อเท้า ที่ลำคอมีเชือกไนลอนยาวประมาณ 5 เมตร รัดอยู่อย่างแน่นหนา แพทย์ชันสูตรศพมีบาดแผลถูกแทงด้วยเหล็กแหลมที่บริเวณกรามซ้าย ทะลุกกหูซ้ายเลือดเริ่มแห้ง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชม.
ตรวจในสอบที่บริเวณห้องโถงภายในบ้าน พบกองเลือดจำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบชะแลง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นิ้ว ยาวประมาณ 1 เมตร วางอยูที่ขนำ ข้างบ้าน เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้พักอยู่ในบ้าน พร้อมด้วยลูกชาย ทราบชื่อคือ นายสมโชค สำเภา อายุประมาณ 30 ปี ซึ่งมีอาการทางประสาท และติดยาเสพติดด้วย
คาดว่าก่อนเกิดเหตุขณะที่ผู้ตายกำลังนอนดูทีวีอยู่ที่ห้องโถงในบ้าน นายสมโชค ก็ได้ใช้เหล็กชะแลงทิ่มไปที่ใบหน้าของผู้เป็นพ่อย่างแรงจนทะลุกราม เสียชีวิต จากนั้นด้วยความกลัวความผิดจึงใช้เชือกไนลอนรัดที่ลำคอแล้วลากศพออกไปทิ้งในสวนปาล์มข้างบ้าน รุ่งเช้าหลังเกิดเหตุ นายสมโชค ก็เดินไปบอกญาติว่าพ่อตายแล้ว ก่อนกลับมานอนที่หน้าบ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และบอกเพียงว่าเป็นลม จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายสมโชค ไปทำการสอบปากคำที่ สภ.คลองท่อม
ส่วนสาเหตุการสังหารเจ้าหน้าที่สันนิษฐาน ว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาน่าจะไปเสพยานอกบ้านจนเกิดอาการประสาทหลอน จากนั้นก็ได้กลับมาบ้าน และ เห็นผู้ตายนอนอยู่ จึงได้ลงมือก่อเหตุดังกล่าว และเมื่อประมาณ 3-4 ปีที่ผ่านมาก็เคยก่อเหตุใช้มีดฟันหน้าผู้ตายจนได้รับบาดเจ็บมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เมื่อเวลา 07.30น.วันนี้ (28 ก.ค.) พ.ต.ท.สมชาย หนูบุญ สว.(สอบสวน) สภ.คลองท่อม จ.กระบี่ รับแจ้งเหตุลูกฆ่าพ่อ ที่บ้านเลขที่ 14/1 ม.5 ต.พรุดินนา อ.คลองท่อม จ.กระบี่ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประเทือง วงค์เดช รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ต.พิเชษฐ์ รักษ์ศรีทอง สวป.สภ.คลองท่อม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลคลองท่อม และหน่วยกู้ภัยเต็กก่าจีคุงเกาะลำทับ ร่วมตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีชาวบ้านยืนมุงดูอยู่จำนวนมาก ส่วนบริเวณที่พบศพอยู่ภายในสวนปาล์ม ห่างจากบ้านประมาณ 15 เมตร พบศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อคือ นายสุวิทย์ สำเภา อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ดังกล่าว สภาพศพนอนหงาย และเริ่มมีมดขึ้นตามตัว
สภาพศพสวมเสื้อยืดคอกลมแขนกุดสีเทา ท่อนล่างนุ่งกางเกงในสีดำ ส่วนกางเกงขาสั้นหลุดออกไปอยู่ที่ข้อเท้า ที่ลำคอมีเชือกไนลอนยาวประมาณ 5 เมตร รัดอยู่อย่างแน่นหนา แพทย์ชันสูตรศพมีบาดแผลถูกแทงด้วยเหล็กแหลมที่บริเวณกรามซ้าย ทะลุกกหูซ้ายเลือดเริ่มแห้ง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชม.
ตรวจในสอบที่บริเวณห้องโถงภายในบ้าน พบกองเลือดจำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบชะแลง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นิ้ว ยาวประมาณ 1 เมตร วางอยูที่ขนำ ข้างบ้าน เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ตายได้พักอยู่ในบ้าน พร้อมด้วยลูกชาย ทราบชื่อคือ นายสมโชค สำเภา อายุประมาณ 30 ปี ซึ่งมีอาการทางประสาท และติดยาเสพติดด้วย
คาดว่าก่อนเกิดเหตุขณะที่ผู้ตายกำลังนอนดูทีวีอยู่ที่ห้องโถงในบ้าน นายสมโชค ก็ได้ใช้เหล็กชะแลงทิ่มไปที่ใบหน้าของผู้เป็นพ่อย่างแรงจนทะลุกราม เสียชีวิต จากนั้นด้วยความกลัวความผิดจึงใช้เชือกไนลอนรัดที่ลำคอแล้วลากศพออกไปทิ้งในสวนปาล์มข้างบ้าน รุ่งเช้าหลังเกิดเหตุ นายสมโชค ก็เดินไปบอกญาติว่าพ่อตายแล้ว ก่อนกลับมานอนที่หน้าบ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และบอกเพียงว่าเป็นลม จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัว นายสมโชค ไปทำการสอบปากคำที่ สภ.คลองท่อม
ส่วนสาเหตุการสังหารเจ้าหน้าที่สันนิษฐาน ว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหาน่าจะไปเสพยานอกบ้านจนเกิดอาการประสาทหลอน จากนั้นก็ได้กลับมาบ้าน และ เห็นผู้ตายนอนอยู่ จึงได้ลงมือก่อเหตุดังกล่าว และเมื่อประมาณ 3-4 ปีที่ผ่านมาก็เคยก่อเหตุใช้มีดฟันหน้าผู้ตายจนได้รับบาดเจ็บมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป