กระบี่ - สาวเขาพนมโอด! โร่พาแม่เข้าพบตำรวจ จ.กระบี่ หลังมีใบสั่งจาก สภ.วิชิต จ.ภูเก็ต ให้ไปจ่ายค่าปรับข้อหาไม่สวมหมวกกันน็อก ทั้งที่ก่อนหน้าได้แจ้งความรถถูกยืม และหายไปก่อนแล้ว
วันนี้ (27 ก.ค.) น.ส.สุวดี ชนาเชต อายุ 34 ปี ได้พามารดา คือ นางวรรณา โมฬี อายุ 50 ปี อยู่บ้านเลขที่ 321 หมู่ 8 ต.สินปุน อ.เขาพนม จ.กระบี่ เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมต่อ พ.ต.ท.จรัญ แนบเพชร สว.(สอบสวน) สภ.เขาพนม จ.กระบี่ ในคดีที่นางวรรณา เข้าแจ้งความไว้เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่า รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำ ทะเบียน 1 กท 6613 นครศรีธรรมราช ซึ่ง นางวรรณา เป็นผู้เช่าซื้อถูกขโมยไป เพื่อจะเร่งติดตามหาตัวคนร้าย และรถคันดังกล่าวกลับมา แต่อยู่ๆ กลับมีใบสั่งมาให้ทางไปรษณีย์ แจ้งให้ นางวรรณา ไปชำระค่าปรับในข้อหาไม่สวมหมวกนิรภัย จำนวน 400 บาท สร้างความสับสน และกังวลใจแก่สองแม่ลูกเป็นอย่างมาก
ขณะที่เรื่องดังกล่าว ก่อนหน้านี้ ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกโซเชียลมีเดีย หลังจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “สุวดี เกตุรัตน์” หรือ น.ส.สุวดี ชนาเชต ลูกสาว นางวรรณา ได้โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพ โดยมีเนื้อหาสำคัญว่า รถคันดังกล่าวเป็นรถของ น.ส.สุวดี แต่ใช้ชื่อ นางวรรณา เป็นผู้เช่าซื้อรถตามป้ายทะเบียน ซึ่งได้แจ้งความรถหายไว้ที่ สภ.เขาพนม เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา ต่อมา เมื่อวันที่ 12 ก.ค. มีใบสั่งจาก สภ.วิชิต จ.ภูเก็ต ส่งกลับมาที่บ้านว่าให้ไปจ่ายค่าปรับ 400 บาท ในคดีจราจรข้อหาไม่สวมหมวกนิรภัย ตาม พ.ร.บ.จราจร โดยมีภาพประกอบในใบสั่งเป็นภาพรถจักรยานยนต์คันที่แจ้งหายไว้ ส่วนคนขับขี่เป็นผู้ชาย คาดว่าจะเป็นคนร้ายที่เอารถไป ซึ่งมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย
โดย น.ส.สุวดี ได้เปิดเผยว่า รถคันดังกล่าวเป็นรถจักรยานยนต์ของตน แต่ใช้ชื่อแม่คือ นางวรรณา เป็นเจ้าของ ก่อนหน้านี้ เมื่อประมาณวันที่ 8 ก.ค.61 อดีตลูกจ้างของคนในพื้นที่รายหนึ่งที่สนิทกับพี่สาวตนได้มาขอยืมรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวไปทำธุระที่ อ.อ่าวลึก ตนเห็นว่าเป็นคนรู้จักกันจึงให้ยืมรถไป แต่พอผ่านไป 1 วัน ยังไม่มีใครนำรถกลับมาคืน ตนเห็นผิดสังเกตจึงได้พาแม่ไปแจ้งความรถหายไว้ โดยแจ้งไว้เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา เพื่อหวังให้ตำรวจช่วยติดตามรถมาคืน และดำเนินคดีต่อคนร้าย ผ่านไปหลายวันยังไม่ได้รถคืนกลับมา รู้สึกเจ็บใจเป็นอย่างมาก
น.ส.สุวดี กล่าวต่อไปว่า แต่ที่เจ็บใจไปกว่านั้น คือ ได้มีใบสั่งมาให้ทางไปรษณีย์ สภ.วิชิต จ.ภูเก็ต แจ้งให้แม่ตนไปชำระค่าปรับในคดีไม่สวมหมวกนิรภัย จำนวน 400 บาท ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่า ในเมื่อแจ้งความไว้แล้ว แทนที่ทางตำรวจจะติดตามรถคืนให้กลับส่งใบสั่งมาแทน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่เร่งติดตามรถมาคืนโดยเร็ว เพราะยังต้องผ่อนชำระอยู่ทุกๆ เดือน
ภายหลังการสอบปากคำเสร็จ ตำรวจ สภ.เขาพนม ได้ประสานข้อมูลรถคันดังกล่าวไปยังพื้นที่เกิดเหตุ สภ.วิชิต จ.ภูเก็ต รวมทั้งแจ้งข้อมูลไปยังโรงพักต่างๆ ให้ช่วยกันติดตามคนร้ายในคดีโจรกรรมรถคันดังกล่าว และจะเร่งตามตัวชายที่ถูกอ้างว่าสนิทกับผู้เสียหาย และเป็นคนยืมรถให้คนร้ายมาสอบปากคำ ส่วนใบสั่งคดีจราจรที่ผู้เสียหายได้รับมานั้น ได้ประสานให้ทางตำรวจ สภ.วิชิต ดำเนินการตรวจสอบให้ถูกต้องอีกครั้ง โดยผู้เสียหายยังไม่ต้องจ่ายค่าปรับดังกล่าว
ทั้งนี้ พ.ต.ท.จรัญ เปิดเผยว่า หลังรับแจ้งได้ให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนประสานไปยังโรงพักในท้องที่ สภ.อ่าวลึก ซึ่งเป็นที่พักของคนที่ยืมรถผู้เสียหายไป แต่ปรากฏว่า ไม่พบตัว และยังไม่พบรถจักรยานยนต์คันที่แจ้งหาย แต่ได้ประสาน สภ.ใกล้เคียงเพื่อติดตามคนร้ายที่เอารถไป จนกระทั่งผู้เสียหายก็มาแจ้งว่า มีใบสั่งจาก สภ.วิชิต มาให้เสียค่าปรับ ซึ่งในการออกไปสั่งนั้น ทางเจ้าหน้าที่จะดูหมายเลขทะเบียนรถเป็นหลัก เพื่อต้องการติดต่อให้เจ้าของผู้ครอบครองรถให้ติดต่อคนที่เอารถไปใช้มาจ่ายค่าปรับ ไม่ได้เอาผิดเจ้าของรถแต่อย่างใด ซึ่งขณะนี้ทาง สภ.วิชิต รับทราบแล้ว ส่วนรถของผู้เสียหายเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการติดตาม คาดว่าจะได้คืนในเร็วๆ นี้