xs
xsm
sm
md
lg

เปิดฉากแล้ว! “ติดปีกธุรกิจยางด้วยนวัตกรรม” ที่ ธพว.หนุนเงินทุนดอกเบี้ยต่ำให้ผู้ประกอบการสู่ตลาดโลก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - รูดม่านเปิดหลักสูตร “ติดปีกธุรกิจยางด้วยนวัตกรรม” แล้ว ตามแผน “ธพว.” หนุนทั้งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำและความรู้ต่อยอดกลุ่มสตาร์อัพและ SMEs สร้างเศรษฐกิจชุมชนติดดาวให้กลุ่มท่องเที่ยวชุมชนและเกษตรแปรรูป หวังเพิ่มมูลค่ามุ่งสู่ตลาดโลก
 
วันนี้ (17 ก.ค.) ที่โรงแรมโฟร์ซีซั่น อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ได้มีพิธีเปิดโครงการอบรมหลักสูตร SME- D Scaleup Rubber Innovation ติดปีกธุรกิจยางพาราด้วยนวัตกรรม ซึ่งจัดขึ้นโดยธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว. หรือ SME Development Bank) ร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (ม.อ.) โดยสถาบันวิจัยและพัฒนานวัตกรรมยางพารา เพื่อขับเคลื่อนภารกิจการสนับสนุนผู้ประกอบการ และดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาลในการเพิ่มมูลค่ายาง โดยสร้างผู้ประกอบการใหม่ผ่านกระบวนการการบ่มเพาะที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการส่งเสริมผู้ประกอบการกลุ่ม SMEs และ Startup ให้สามารถยกระดับขีดความสามารถด้านเทคโนโลยี การตลาดและการจัดการ
 

 
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธพว. กล่าวว่า ธนาคารมีนโยบายในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยแนวทางการพัฒนาผู้ประกอบการกลุ่มสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอี 3 กลุ่ม ซึ่งแผนงานดังกล่าวริเริ่มดำเนินการแล้วตั้งแต่ปี 2560 ในโครงการ SME-D Scaleup ต่อยอดติดปีกธุรกิจ SMEs และ Startup เน้นกลุ่มสตาร์อัพด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างสูง มีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการเกือบ 600 กิจการและผ่านการคัดเลือก 56 กิจการเข้าเรียนหลักสูตรเข้มข้นเครื่องมือการตลาดยุคดิจิทัล โดยเป็นหลักสูตรแรกที่เคยมีในประเทศไทยที่ให้ความรู้บวกเงินทุนดอกเบี้ยต่ำเพื่อใช้ต่อยอดธุรกิจ โดยเป็นสินเชื่อจากกองทุนพัฒนา SME ตามแนวประชารัฐดอกเบี้ย 1% และสินเชื่อ SME Tranformation Loan ดอกเบี้ย 3%
 
“เมื่อต้นปี 2561 นี้ธนาคารได้จัดสัมมนาเปลี่ยนบ้านเป็นบูติกโฮเต็ล เน้นการท่องเที่ยวชุมชนและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องตามกระแสการเปลี่ยนแปลงของประเทศที่รายได้หลักมาจากการท่องเที่ยวเติบโตขึ้น โดยวิทยากรชั้นนำกูรูของประเทศเดินสายบรรยายตั้งเป้าทั่วประเทศ 25 จังหวัด ขณะนี้ดำเนินการไปแล้ว 20 จังหวัด ปรากฎว่าผลตอบรับดีมาก มีผู้สนใจร่วมงานสัมมนากว่า 3,000 ราย และมีประสงค์ขอสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจากธนาคารกว่า 400 ราย วงเงินเกือบ 1,000 ล้านบาท เพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจ ขยายกิจการและเงินทุนหมุนเวียนต่อไป” นายมงคลกล่าวและว่า
 
ล่าสุดการจัดหลักสูตร SME-D Scale Up ติดปีกธุรกิจยางด้วยนวัตกรรม ธพว. เข้าดูแลกลุ่มเกษตรแปรรูป โดยร่วมมือกับ ม.อ. โดยเปิดรับสมัครตั้งแต่ 18 พ.ค.-18 มิ.ย.2561 ปรากฏว่ามีผู้ประกอบการธุรกิจยางให้ความสนใจสมัครจำนวนมากกว่า 100 กิจการทั่วประเทศ และคัดเลือกผู้มีคุณสมบัติตามเกณฑ์เหลือ 51 กิจการ โดยเป็นกลุ่มผู้ประกอบการที่มาจากการแปรรูปยางหลากหลายธุรกิจ อาทิ ที่นอนหมอนยาง ถุงมือเคลือบยาง กระเป๋า รองเท้า เบาะรองหลังคนขับ ชิ้นส่วนอุตสาหกรรมยานยนต์ เสื่อพรมละหมาด แผ่นยางรองส้นรองเท้า เฟอร์นิเจอร์ ของใช้ ของเล่นและของตกแต่งบ้าน แม่พิมพ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นต้น ทั้งนี้กลุ่มดังกล่าวมีศักยภาพที่พัฒนาธุรกิจด้วยนวัตกรรมให้เกิดความเข้มแข็งเพื่อต่อยอดธุรกิจสู่เชิงพาณิชย์ต่อไป
 
กลุ่มถุงมือยาง อ.นาทวี จ.สงขลาและพรมปูละหมาด จ.สงขลา
 
ทั้งนี้หลักสูตร “Scaleup Rubber Innovation ติดปีกธุรกิจยางพาราด้วยนวัตกรรม” เป็นหลักสูตรในการสร้างแนวคิดในการผลิตสินค้ายางเชิงนวัตกรรม โดยมุ่งเน้นแบ่งปันความรู้และประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม เสริมด้วยทักษะสื่อสารผลิตภัณฑ์ กระบวนการจัดการบัญชี ทรัพย์สินทางปัญญา สู่ผลิตภัณฑ์ยางพาราที่ออกสู่ตลาดได้จริง โดยผ่านกระบวนการคิดเชิงกระบวนการแบบนวัตกรรม รวมถึงโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อความสำเร็จอย่างยั่งยืนของธุรกิจ ซึ่งจะจัดขึ้นทั้งหมด 21 หลักสูตรย่อยภายใน 3 แคมป์ ช่วง กค.-ก.ย.2561 ระยะเวลา 3 เดือน ได้แก่ Networking and Inspiration, Rubber Innovation and Technology, Intellectual Property (IP), Accounting and Marketing, Systematic Innovative Thinking, Communication Skill, กิจกรรม Pitching, การศึกษาดูงาน (Field Trips) ด้านยางตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า และจะมีพี่เลี้ยงให้คำปรึกษาแนะนำในรูปแบบ Coaching ภายหลังการอบรมช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย.2561 เป็นระยะเวลา 2 เดือนด้วย เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถนำผลการอบรมไปดำเนินการได้จริงจังต่อไป
 
โดยคาดหวังโครงการนี้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมยาง ที่มาพร้อมกับโอกาสก่อเกิดประโยชน์ยกระดับรายได้จากมูลค่ายางดิบที่ราคาตกต่ำสู่การแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่มของตลาดภายในประเทศ และความสามารถในการแข่งขันสู่ตลาดโลก โดยส่งออกในรูปแปรรูปผลิตภัณฑ์จากยาง แทนการส่งออกในรูปวัตถุดิบ อันจะส่งผลดีกลับสู่เศรษฐกิจโดยภาพรวมของประเทศต่อไป โดยหลักสูตรนี้เพื่อให้เกิดการใช้ยางภายในประเทศสามารถเพิ่มมูลค่า 4-10 เท่า โดยทุก 1% ที่เพิ่มการใช้ สามารถสร้างมูลค่าเศรษฐกิจไทยเพิ่มขึ้น 15,000 ล้านบาท และเป็นไปตามนโยบายรัฐบาลที่ตั้งเป้าลดพื้นปลูกยาง และกลับมาสร้างมูลค่าเพิ่มจากการแปรรูปยางแทน
 
“นอกจากนี้ ธพว.จะให้การสนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ อาทิ สินเชื่อเถ้าแก่ 4.0 อัตราดอกเบี้ยต่ำสุดเพียง 1% ตลอดระยะเวลา 7 ปี ปลอดชำระเงินต้น 3 ปีแรก และสินเชื่อเศรษฐกิจติดดาว ดอกเบี้ยต่ำ 3% กับผู้เข้าร่วมอบรมที่มีศักยภาพในการแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางออกสู่ตลาด เพื่อการสร้างและต่อยอดธุรกิจ รวมถึงการส่งเสริมการตลาดเพื่อให้ผลิตภัณฑ์สามารถเติบโตแบบยั่งยืนด้วย” นายมงคลกล่าว
 

 
ด้าน รศ.อาซีซัน แกสมาน ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนานวัตกรรมยางพารา ม.อ. กล่าวว่า การสร้างผู้ประกอบการธุรกิจยางด้วยนวัตกรรมเป็นโครงการที่มหาวิทยาลัยให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง สอดคล้องกับพันธกิจตั้งแต่เริ่มก่อตั้งมหาวิทยาลัย ซึ่งยางเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่สำคัญของภาคใต้และของประเทศในปัจจุบัน เกี่ยวข้องกับเกษตรกรและผู้ประกอบการยางเป็นจำนวนมาก การสนับสนุนและผลักดันธุรกิจยางให้เติบโตเป็นแนวทางที่สร้างความยั่งยืนในการแก้ไขปัญหายาง
 
“ม.อ.และเครือข่ายมีความพร้อมด้านงานวิจัย ความเชี่ยวชาญของบุคลากร และความเข้มแข็งของหน่วยงานพันธมิตร ในการดำเนินโครงการนี้เพื่อพัฒนาและสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบธุรกิจยางสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้” รศ.อาซีซันกล่าวตบท้าย
 



กำลังโหลดความคิดเห็น