ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - อธิบดีกรมสรรพสามิตลงพื้นที่ จ.สงขลา ติดตามการปราบปรามสินค้าผิดกฎหมาย พร้อมแถลงการณ์จับกุมสินค้าเถื่อนในรอบ 9 เดือน ซึ่งสามารถจับกุมได้ 2,459 คดี คิดเป็นมูลค่าที่รัฐต้องสูญเสียรายได้รวม 322.69 ล้านบาท
วันนี้ (26 มิ.ย.) นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมสรรพาสามิต ลงพื้นที่ จ.สงขลา เพื่อติดตามมาตรการเชิงรุกในการป้องกันและปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายสรรพสามิต สินค้าเถื่อน และสินค้าหนีภาษี โดยเฉพาะตามแนวชายแดน พร้อมกับแถลงผลการปราบปรามในส่วนของสำนักงานสรรพสามิตภาคที่ 9 ในรอบ 9 เดือน นับตั้งแต่เดือนกันยายนปี 2560-พฤษภาคม 2561
ซึ่งสามารถจับกุมได้ 2,459 คดี คิดเป็นมูลค่าของกลาง ค่าปรับ และค่าภาษีที่รัฐต้องสูญเสียรายได้รวม 322.69 ล้านบาท ของกลางที่ยึดได้มีทั้งบุหรี่ สุราทั้งในประเทศและต่างประเทศ น้ำมันเถื่อนทั้งดีเซลและเบนซิน และสินค้าอื่นๆ เช่น ไพ่ ซึ่งลักลอบนำเข้ามาตามแนวชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน
นายกฤษฎา จีนิจารณะ อธิบดีกรมสรรพาสามิต เปิดเผยว่า ในส่วนของผลการปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายสรรพสามิตทั่วประเทศปีงบประมาณ 2561 ตั้งแต่เดือนกันยายนถึงเดือนพฤษภาคมปีนี้ หลังจากที่พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.2560 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 16 กันยายน ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการปรับปรุงโครงสร้างภาษีสรรพสามิตใหม่ พบว่า มีการกระทำผิด จำนวน 23,058 คดี คิดเป็นมูลค่าของกลางค่าปรับและภาษีที่รัฐต้องสูญเสียรายได้ รวมเป็นเงินกว่า 719.61 ล้านบาท โดยเฉพาะบุหรี่ ซึ่งมีสัดส่วนมากที่สุดโดยเฉพาะในพื้นที่ อ.หาดใหญ่
“โดยหลังจากนี้ ทางเจ้าหน้าที่สรรพสามิตทั่วประเทศจะประสานกำลังกับทหาร ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปราบปรามสินค้าผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเป็นธรรมแก่ผู้ประกอบการที่สุจริต และคุ้มครองผู้บริโภคที่อาจได้รับอันตรายจากสินค้าที่ผิดกฎหมาย” นายกฤษฎา จีนิจารณะ อธิบดีกรมสรรพาสามิต กล่าวปิดท้าย