ตรัง - โครงการก่อสร้างแก้มลิงขุดคลองแม่น้ำตรัง ใกล้จะหมดสัญญาในอีก 6 เดือนข้างหน้า แต่กลับมีความคืบหน้าไปเพียง 18 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ทั้งที่นายกฯ เคยบินมาจี้ด้วยตัวเอง ขณะที่ผู้รับเหมาอ้างฝนตกหนัก และน้ำท่วม จนไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้อย่างรวดเร็ว
นายประพิศ จันทร์มา รองอธิบดีกรมชลประทานฝ่ายก่อสร้าง พร้อมด้วย นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบความคืบหน้าโครงการก่อสร้างแก้มลิงขุดคลองแม่น้ำตรัง ช่วง ต.บางรัก ต.นาโต๊ะหมิง และ ต.หนองตรุด อ.เมืองตรัง หลังจากโครงการดังกล่าวได้มีการดำเนินการก่อสร้างมาใกล้จะหมดสัญญาแล้ว แต่กลับมีความคืบหน้าไปเพียง 18 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น โดยผู้รับเหมาอ้างว่า ปัญหาเกิดจากฝนตกหนัก และน้ำท่วม จึงไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างได้อย่างรวดเร็ว
กระทั่งต่อมา ได้มีการยืดระยะเวลาสัญญาให้ผู้รับเหมาออกไปจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2561 นี้ แต่ก็ดูทีท่าว่าการก่อสร้างคงไม่แล้วเสร็จตามกำหนด ทั้งๆ ที่โครงการนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบ และสั่งเร่งรัดให้ดำเนินการด้วยตนเอง หลังจากมีการร้องเรียนจากชาวบ้านที่เดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก
นายศิริพัฒ พัฒกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า ผลจากการที่รองอธิบดีชลประทาน ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าติดตามโครงการก่อสร้างแก้มลิงขุดคลองแม่น้ำตรังในครั้งนี้ ได้สั่งเร่งรัดทุกกระบวนการ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องจักร หรือคน ซึ่งคาดว่ามวลน้ำก้อนใหญ่จะมาในเดือนกันยายนถึงตุลาคม และโครงการนี้จะสามารถระบายน้ำได้ครึ่งหนึ่งจากที่ตั้งเป้าไว้ หรือประมาณ 300-350 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยที่ผ่านมา ทางราชการได้พยายามเร่งรัดถึงที่สุดแล้ว แต่ผู้รับเหมาก็ยังมีสิทธิเพราะอยู่ในสัญญา และได้ทำหนังสือเตือนไปหลายครั้งแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่การก่อสร้างยังไม่เสร็จสมบูรณ์อาจมีผลกระทบต่อชาวบ้านได้ในกรณีน้ำหลาก จึงจำเป็นที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้นำชุมชนจะต้องเข้ามาพูดคุยกันว่าความจริงคืออะไร ปัญหาที่เกิดขึ้นจะแก้อย่างไร เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ชาวบ้านต่อผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับอาชีพ บ้านเรือน หรือความเป็นอยู่
