ศูนย์ข่าวภาคใต้ - ฟังเพลง “แสงดาวแห่งศรัทธามั่น” ร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปของ “อ้ายแสงดาว” กวีชาวล้านนาเชียงใหม่ ที่กลับคืนสู่ฟากฟ้าเมื่อวันศุกร์ 22 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมา
เพลง "แสงดาวแห่งศรัทธามั่น"
คำร้อง : "ปิยะโชติ อินทรนิวาส"
ขับร้อง/ทำนอง : “เดช อัสดง"
คลิปโดย : "ณขจร จันทวงศ์"
(เนื้อเพลงดัดแปลงมาจากบทกวี)
เผด็จการคงกระหยิ่มยิ้มเยาะ
นายทุนยั่วหัวเราะระเริงร่า
แต่เหล่านักสู้คู่เคียงประชา
ต้องหลั่งน้ำตาท่วมปฐพี
อ้ายคือขบถโรมานซ์ผู้หาญกล้า
ลุกขึ้นท้าอยุติธรรมทุกถิ่นที่
ใช้อาวุธสุดแสลงสำแดงกวี
เข้ารุมกระหน่ำตีพวกต่ำทราม
กลาง-เหนือ-ใต้-ออก-ตก พกจอกไผ่
เสื้อผ้าใส่ง่ายๆ สะพายย่าม
ที่ไหนๆ อ้ายก็ไปไร้นิยาม
ยืนอยู่ท่ามแถวชุมนุมอยู่เนืองๆ
แม้ร่างกายอ้ายนั้นบอบบางนัก
แต่ใจปักหลักลุยทุกราวเรื่อง
ใครถูกเหยียบย่ำใจให้แค้นเคือง
อ้ายจะเยื้องย่างร่วมรวมพลัง
จึงเป็นแสงแห่งศรัทธามหาชน
ในคืนหม่นมืดม่านมากมนต์ขลัง
เป็นดวงดาวเด่นทวีและจีรัง
ส่องนำสังคมซึ้งซึ่งธรรมา
วันนี้แสงแห่งศรัทธาลาลับแล้ว
ดั่งร้าวแก้วเก็จมณีที่มากค่า
ขอดาวอื่นหมื่นแสนในแดนฟ้า
ร่วมสืบสานศรัทธาทอทอดไป
แม้เผด็จการกระหยิ่มยิ้มเยาะ
และทุนยั่วหัวเราระเริงไล่
แต่ “แสงดาว ศรัทธามั่น” ยังมั่นใน
เจิดจรัสจรุงใจไทประชา
แม้ “แสงดาว ศรัทธามั่น” ไม่คงมั่น
แต่ผลงานที่ผ่านผันรังสรรค์ค่า
จะสืบสานตำนานสู้คู่พารา
สร้าง “แสงดาวแห่งศรัทธา” ทั่วถิ่นไทย
“แสงดาว ศรัทธามั่น” เป็นนามปากกาของ “นายศักดิ์ ไชยดวงสิงห์” หรือ “อ้าย” ของน้องๆ ในวงการวรรณกรรม ถือกำเนิดบนดาวโลกดวงนี้เมื่อต้นฤดูหนาวปี พ.ศ.2488 เป็นคนล้านนาเชียงใหม่ การศึกษา ระดับปริญญาตรี คณะศึกษาศาสตร์ (วิชาเอกภาษาอังกฤษ วิชาโทภูมิศาสตร์) จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่
อาชีพ อดีตเคยเป็นครูสอนหนังสือเด็กโรงเรียนบ้านนอก อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ รับราชการนานร่วม 28 ปี ลาออกจากครูปี พ.ศ.2538 เพราะอยากเดินทาง ท่องเที่ยว เขียน-อ่านหนังสือ และเข้าร่วมกิจกรรมการเคลื่อนไหวที่เป็นประโยชน์ต่อรากเหง้าวิถีชีวิตของแผ่นดิน ฯลฯ
เขียนบทความครั้งแรกชื่อ “ต้นหางนกยูงที่คูเมืองกำลังร้องไห้” ในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น “คนเมือง” สมัยนุ่งกางเกงขาสั้นชั้นมัธยมต้น ราวปี พ.ศ. 2506 เพื่อเรียกร้องให้เทศบาลเมืองเชียงใหม่ช่วยดูแลรักษาต้นหางนกยูงรอบ ๆ คูเมืองเชียงใหม่ที่ถูกน้ำเซาะตลิ่งล้มลงทีละต้น
มาเขียนหนังสือค่อนข้างจริงจังบ้าง เมื่อปี พ.ศ. 2517 จนถึงปี 2561เขียนทั้งในนามจริงและทั้งในนามปากกานี้ตลอดจนนามปากกาอื่นๆ และตั้งใจจะเขียนหนังสือจนไม่มีคนอ่าน ผลงานเช่น “ความรักที่งดงาม” และ “ขบถโรมานซ์”
“แสงดาว ศรัทธามั่น” มีข้อความสั่งเสียประหนึ่งพินัยกรรมว่า “ฉันได้บอกให้เพื่อนๆในวงเหล้า และไม่ในวงเหล้าว่าถ้าฉันตาย ไมต้องเศร้าโศกเสียใจ พี่น้องประชาชนคนใดที่จักมาส่งศพฉันขึ้นเมรุเผาให้พกเหล้าเบียร์ ทุกชนิดมาเลย”
“ไม่ต้องใส่ชุดดำ ใส่เสื้อหลากสีสันที่งดงาม ใครจะเล่นดนตรี อ่านบทกวี เปอร์ฟอมม้านซ์ เล่นกันไปเลย รู้กัน เพราะฉันเป็นคนม่วนงันสันเล้า ม่วนซื่นโฮแซว ฯลฯ สนุกสนานกันให้สนั่น ป่าเฮ้ว (ป่าช้า) จริงๆ ฉันพูดเรื่องนี้จริงๆ”
“ฉันชอบการเขียนพินัยกรรมของท่านผู้หญิง “พูนศุข พนมยงค์” ภริยาคู่ทุกข์คู่ยากของท่าน “ปรีดี พนมยงค์” อดีตหนึ่งในมันสมองของคณะราษฎรที่เปลี่ยนแปลงจากระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์มาเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง ท่านมีคุณูปการต่อประเทศชาติเรามากมาย”
“ท่านผู้หญิงพูนศุข พนมยงค์ เขียนบอกว่า "ไม่ขอรับเกียยรติยศใดใดทั้งสิ้น" ทำนองว่าไม่ต้องมามอบให้ฉันหากฉันตาย ท่านเจ็บช้ำน้ำใจมาก ที่ถูกกลั่นแกล้งจากพวกศักดินาจารีตนิยมเผด็จการ โดยที่พวกความคิดศักดินาจารีตนิยมเผด็จการ แสดงความงี่เง่า ดูถูกว่าประชาชนยังไม่พร้อม ไอ้พวกหอกหัก พวกมะลึงค์งี่เง่า จบข่าวทีวีสีของประชาชน”