xs
xsm
sm
md
lg

คืบหน้า! เด็กพลัดตกจากรถโรงเรียน ล่าสุดมีอาการศีรษะบวมและกระข้อเท้าร้าว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


 
ยะลา - คืบหน้ากรณีเด็กนักเรียนประสบอุบัติเหตุพลัดตกจากรถโรงเรียนขณะกำลังกลับบ้าน ล่าสุดมีอาการศีรษะบวมและกระข้อเท้าร้าว ขณะที่ทางพ่อแม่ไม่ติดใจเอาความเชื่อเป็นอุบัติเหตุ แต่อยากให้มีการดูแลความปลอดภัยให้มากขึ้น

วันนี้ (21 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีเด็กนักเรียนหญิงอายุ 10 ขวบของโรงเรียนรังสีอนุสรณ์ อ.เมืองยะลา ประสบอุบัติเหตุพลัดตกลงจากรถรับส่งนักเรียนบนเส้นทางกลับบ้าน ระหว่าง อ.ยะหา - อ.กาบัง จ.ยะลา เมื่อวานนี้ เวลา 15.00 น. ซึ่งมีคลิปภาพจากกล้องหน้ารถของ อบต.กู้ภัยลำพะยา สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ได้พอดี และมีการแชร์ในสื่อออนไลน์เพื่อเป็นการเตือนให้มีความระมัดระวังมากขึ้น

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ไปติดตามความคืบหน้าของกรณีดังกล่าวที่โรงเรียนรังษีอนุสรณ์ อ.เมืองยะลา ก็ทราบว่านักเรียนที่ประสบเหตุชื่อ ด.ญ.ฮากีมี คาเดร์ อายุ 10 ขวบ อยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งหลังจากที่ประสบเหตุเมื่อวานนี้ นายชัยชนะ กฤตยานาต นายอำเภอยะหา ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ อส.ชุดคุ้มครองตำบล ซึ่งอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุที่เด็กนักเรียนหญิงคนดังกล่าวพลัดตกจากรถโรงเรียน ก็ได้ให้เจ้าหน้าที่นำตัวเด็กนักเรียนที่ประสบเหตุ ส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหาเป็นการด่วน
 

 
โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา ทางโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยะหา ได้ส่งตัว ด.ญ.ฮากีมี คาเดน์ มารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลยะลา โดยในเบื้องต้นนั้นพบว่า ด.ญ.ฮากีมี คาเดร์ ได้รับบาดเจ็บบริเวณข้อเท้าขวา คาดว่าจะมีอาการกระดูกร้าว และที่ศีรษะมีอาการบวมจากการตกกระแทกบนพื้นถนน แพทย์ต้องให้การรักษาและดูแลอย่างใกล้ชิดภายในห้องไอซียู อุบัติเหตุโรงพยาบาลยะลา

โดยเมื่อช่วงเวลาประมาณ 10.00 น.นายประสิทธิ์ ชาตรี รองผู้อำนวยการโรงเรียนรังษีอนุสรณ์ พร้อมด้วยขณะครู ได้เดินทางไปยังโรงพยาบาลยะลา เพื่อเยี่ยมให้กำลังใจกับพ่อแม่ของ ด.ญ.ฮากีมี คาเดร์ ซึ่งทางพ่อและแม่ของน้องที่ประสบเหตุยังอยู่ในอาการกังวลและเป็นห่วงบุตรสาว

จากการสอบถาม นายประสิทธิ์ ชาตรี รองผู้อำนวยการโรงเรียน ก็ทราบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น จากการสอบถามผู้ขับรถ คือ นายคารม พลอยสมบูรณ์ ซึ่งได้ทำสัญญาเช่ารถของโรงเรียนคันดังกล่าวไปขับ เพื่อรับส่งนักเรียนเส้นทางสาย อ.ยะหา อ.กาบัง จ.ยะลา มาแล้วเป็นเวลา 13 ปี ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ทราบว่าเป็นอุบัติเหตุและเป็นเหตุสุดวิสัย เนื่องจากขณะขับรถใกล้ถึงบ้านของ ด.ญ.ฮากีมี คาเดร์ อีกประมาณ 500 เมตร บนถนนมีจุดตรวจที่มีแผงกั้นทาง และรถก็ต้องขับเข้าซ้ายและขวาตามช่องทาง อีกทั้งเส้นทางดังกล่าวกำลังทำการก่อสร้างเส้นทางทำให้ถนนแคบ และรถนักเรียนก็ไม่ได้ขับเร็ว และขณะเกิดเหตุคนขับรถได้ตะโกนเตือนเด็กๆ แล้วว่าอย่าลงไปที่ประตูรถเดี๋ยวจะเกิดอันตราย แต่แล้วก็เกิดเหตุจนได้
 

 
“อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ทางโรงเรียนทราบเหตุ เมื่อวานนี้ คุณครูประจำชั้นก็ได้เดินทางไปเยี่ยมนักเรียนที่ประสบเหตุและครอบครัว เพื่อสอบถามถึงสาเหตุที่เกิดขึ้น อีกทั้งให้กำลังใจกับผู้เป็นแม่และพ่อ ซึ่งทางโรงเรียนไมได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด อีกทั้งได้กำชับให้ผู้ขับรถรับส่งนักเรียนทุกคนที่มารับบุตรหลานที่โรงเรียน ให้ขับขี่รถด้วยความระมัดระวังและตรวจสอบความปลอดภัยอยู่ตลอดเวลา” รองผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าว

ทางด้าน นายอดุลย์ คาเดย์ อายุ 42 ปี ผู้เป็นพ่อ ยอมรับว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุ ไม่ติดใจเอาความกับผู้ใด ตอนนี้บุตรสาวก็ถึงมือแพทย์เรียบร้อยแล้ว และกำลังรอดูอาการอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่เมื่อวานนี้ได้มีการตรวจร่างกาย และเอกซเรย์ร่างกายในส่วนที่คิดว่าจะได้รับบาดเจ็บ ซึ่งมีที่ข้อเท้าขวาและที่ศีรษะที่ยังคงมีอาการบวม อย่างไรก็ตาม ตนเองก็อยากฝากให้มีการดูแลความปลอดภัยในส่วนของรถให้มากขึ้น เพื่อป้องกันเหตุสุดวิสัยที่อาจจะเกิดขึ้นได้ อย่างกรณีของบุตรสาวตนเอง
 

 
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ทางด้าน นายคารมณ์ พลอยสมบูรณ์ คนขับรถที่ประสบเหตุก็มีอาการที่ตกใจและกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยบอกเล่าว่า ขณะเกิดเหตุวานนี้ จุดที่ประสบเหตุนั้นมีด่านตรวจที่ตั้งกรวยและแผงกั้น ทำให้ต้องเลี้ยวรถซ้ายขวาเพื่อไปตามช่องทางจราจร และคาดว่าขณะที่รถได้เหวี่ยงตัว ด.ญ.ฮากีมี คาเดร์ ได้เดินลงไปรอที่บันไดรถและคงเปิดประตูรอเพื่อจะลงที่บ้านอีกประมาณ 300-400 เมตร 

“โดยตนเองได้ตะโกนบอกเด็กๆ ตลอดว่า อย่าลงไปที่บันไดและอย่างรีบร้อนที่จะลง เพราะเกรงว่าจะเกิดอุบัติเหตุ แต่ก็มาประสบเหตุจนได้ ตนเองกังวลใจและเป็นห่วงอาการของ ด.ญ.ฮากีมี เป็นอย่างมาก เนื่องจาก ด.ญ.ฮากีมี โดยสารรถเป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ทุกคนก็เหมือนลูกหลาน ซึ่งตนเองก็ไม่สบายใจเลยที่เกิดเหตุขึ้น” นายคารมณ์ พลอยสมบูรณ์

อย่างไรก็ตาม อาการของ ด.ญ.ฮากีมี คาเดย์ ยังคงต้องเฝ้ารอดูอาการ และให้แพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินอาการที่ได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากว่ายังคงมีอาการสะลึมสะลือ และยังคงต้องรอผลตรวจการเอกซเรย์สมองอีกครั้ง
 


กำลังโหลดความคิดเห็น