ตรัง - สนธิกำลังร่วม 20 นาย บุกตรวจค้นวัดชื่อดังเมืองตรัง หลังรับเรื่องร้องเรียนพระ และแม่ชีลักลอบจำหน่ายยารักษาโรคโดยไม่ได้รับอนุญาต แถมอ้างสรรพคุณเกินจริง ก่อนยึดของกลางกว่า 200 ขวด เพื่อนำไปตรวจสอบเข้าข่ายความผิดหรือไม่
วันนี้ (18 มิ.ย.) ที่วัดสิทธิโชค (วัดยางขาคีม) ม.4 ต.ลำภูรา อ.ห้วยยอด จ.ตรัง กำลังเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จ.ตรัง ร่วมกับตำรวจภูธร จ.ตรัง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ห้วยยอด ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ทหารจากค่ายพระยารัษฎานุประดิษฐ์ ร.15 พัน 4 เจ้าหน้าที่จากสาธารณสุขอำเภอห้วยยอด รวมกว่า 20 คน สนธิกำลังลงตรวจสอบหลังได้รับการร้องเรียนว่า ที่วัดสิทธิโชค ซึ่งเป็นวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ สะเดาะเคราะห์กรรม และการทำพิธีขอขมากรรม แห่งหนึ่งของ จ.ตรัง โดยในแต่ละวันมีผู้เลื่อมใสศรัทธาเข้าร่วมพิธีจำนวนมาก ได้มีการลักลอบขายยารักษาโรคโดยไม่ได้รับอนุญาต
หลังได้รับการร้องเรียน เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าทำการตรวจสอบ ปรากฏพบว่า ที่วัดดังกล่าวมีการจำหน่ายยาที่อ้างว่าสามารถรักษาโรคได้จริง โดยประกอบด้วย ยาสมุนไพรรักษาโรคต่างๆ ยาสมุนไพรว่านที่ช่วยรักษาการปวดข้อเข่า เป็นลักษณะน้ำมันที่ใช้ทาภายนอกเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด บรรจุอยู่ในลังกระดาษอยู่ภายในกุฏิพระพิน กมมฺสุทฺโธ เจ้าอาวาสวัดสิทธิโชค และกุฏิแม่ชีนภัสรพี บุญค้ำรัศมีโชติ ซึ่งบวชชีพราหมณ์อาศัยอยู่ภายในวัดดังกล่าว จำนวน 6 ลัง ประมาณ 200 ขวด เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เพื่อส่งมอบให้สำนักงานสาธารณสุขอำเภอ ทำการตรวจสอบสรรพคุณของยาสมุนไพรว่า มีการแอบอ้างเกินจริงหรือไม่ และมีการได้รับอนุญาตให้มีการจำหน่ายถูกต้องหรือไม่
พระพิน กมมฺสุทฺโธ เจ้าอาวาสวัดสิทธิโชค หรือวัดยางขาคีม กล่าวว่า ยาสมุนไพรน้ำมันว่านพุทธคุณ เป็นยาใช้สำหรับกิน มีสรรพคุณขับสารพิษออกจากร่างกาย และเชื่อว่าเป็นยาศักดิ์สิทธิ์ ผู้ใช้ต้องมีความเชื่อ และศรัทธาจึงจะหายจากโรคได้ โดยยาดังกล่าวได้รับมาจากวัดเขาแดงออก จ.พัทลุง ส่งมาให้จำหน่ายในราคาขวดละ 130 บาท ซึ่งทางวัดไม่ได้ผลิตเอง โดยกรณีเจ้าหน้าที่เข้าทำการตรวจสอบในครั้งนี้ส่วนตัวตนคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี จะได้รู้ว่าอะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ ทางวัดก็จะได้ทำให้ถูกต้อง และไม่คิดว่าจะทำความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้แก่วัด เพราะวัดไม่ได้ทำอะไรเสียหาย และไม่มีเจตนาหมกเม็ด หรือแอบอ้างใดๆ
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจยึดยาสมุนไพรทั้งหมด เพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอห้วยยอด ดำเนินการตรวจสอบส่วนผสม และสรรพคุณอีกครั้งว่าจะเข้าข่ายความผิดหรือไม่ และห้ามทางวัดจำหน่ายยาสมุนไพรดังกล่าวไว้ก่อนเป็นการชั่วคราว