สุราษฎร์ธานี - ป.ป.ช.สุราษฎร์ธานี สรุปผลการสืบสวนข้อเท็จจริง ผอ.ขนมจีนคลุกน้ำปลา ส่อทุจริตโดรงการอาหารกลางวัน นำส่งคณะ ป.ป.ช.ส่วนกลางเพื่อลงมติในวันพฤหัสบดีที่ 21 มิ.ย.นี้ โดยมีครูในโรงเรียนเข้าข่ายร่วมกันกระทำความผิดประมาณ 10 คน
จากกรณีมีผู้เผยแพร่คลิปนักเรียนในโรงเรียนบ้านท่าใหม่ ม.17 ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ให้เด็กนักเรียนอนุบาลกิน “ขนมจีนคลุกน้ำปลา” ในถาดหลุม จนกลายเป็นข่าวอื้อฉาว ล่าสุดวันนี้ (15 มิ.ย.) นายพล ศรัทโธ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ระบุว่า หลังจากมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน ผลการสอบสวนข้อเท็จจริงโครงการอาหารกลางวันไม่ได้คุณคุณภาพ “ขนมจีนคลุกน้ำปลา” นั้นเสร็จลงแล้ว และเตรียมนำผลสรุปเนื้อหาข้อเท็จจริง จำนวน 30 หน้า
โดยทาง ป.ป.ช.ได้ตรวจพบความไม่โปร่งใสในโครงการดังกล่าว ที่มี นายสมเชาว์ สิทธิเชนทร์ อดีต ผอ.โรงเรียน และครูในโรงเรียนที่เข้าข่ายร่วมกันกระทำความผิดอีกประมาณ 10 คน ที่ส่วนใหญ่เป็นความผิดด้านเอกสารในโครงการอาการกลางวัน ซึ่งจะนำส่งให้องค์คณะ ป.ป.ช.ส่วนกลางเข้าที่ประชุมในวันพฤหัสบดีที่ 21 นี้ ว่า ทางที่ประชุมจะมีมติรับหรือไม่รับ หากทางที่ประชุมมีมติรับ ขั้นตอนต่อไปก็จัดตั้งคณะกรรมสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นายพล กล่าวต่อว่า การสอบสวนข้อเท็จจริงในครั้งนี้ มี 10 ข้อ และมี 5 ข้อ ทุจริตผิดวินัยร้ายแรง 1 ข้อผิดวินัยไม่ร้ายแรง ซึ่งทาง ป.ป.ช.จะดำเนินสืบสวนข้อเท็จจริง จำนวน 9 ข้อ เนื่องจากโครงการอาหารกลางวันไม่ได้คุณภาพนั้นได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ส่วนที่เหลือยังอยู่ในระหว่างการสืบสวน
จากกรณีมีผู้เผยแพร่คลิปนักเรียนในโรงเรียนบ้านท่าใหม่ ม.17 ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ให้เด็กนักเรียนอนุบาลกิน “ขนมจีนคลุกน้ำปลา” ในถาดหลุม จนกลายเป็นข่าวอื้อฉาว ล่าสุดวันนี้ (15 มิ.ย.) นายพล ศรัทโธ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ระบุว่า หลังจากมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวน ผลการสอบสวนข้อเท็จจริงโครงการอาหารกลางวันไม่ได้คุณคุณภาพ “ขนมจีนคลุกน้ำปลา” นั้นเสร็จลงแล้ว และเตรียมนำผลสรุปเนื้อหาข้อเท็จจริง จำนวน 30 หน้า
โดยทาง ป.ป.ช.ได้ตรวจพบความไม่โปร่งใสในโครงการดังกล่าว ที่มี นายสมเชาว์ สิทธิเชนทร์ อดีต ผอ.โรงเรียน และครูในโรงเรียนที่เข้าข่ายร่วมกันกระทำความผิดอีกประมาณ 10 คน ที่ส่วนใหญ่เป็นความผิดด้านเอกสารในโครงการอาการกลางวัน ซึ่งจะนำส่งให้องค์คณะ ป.ป.ช.ส่วนกลางเข้าที่ประชุมในวันพฤหัสบดีที่ 21 นี้ ว่า ทางที่ประชุมจะมีมติรับหรือไม่รับ หากทางที่ประชุมมีมติรับ ขั้นตอนต่อไปก็จัดตั้งคณะกรรมสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นายพล กล่าวต่อว่า การสอบสวนข้อเท็จจริงในครั้งนี้ มี 10 ข้อ และมี 5 ข้อ ทุจริตผิดวินัยร้ายแรง 1 ข้อผิดวินัยไม่ร้ายแรง ซึ่งทาง ป.ป.ช.จะดำเนินสืบสวนข้อเท็จจริง จำนวน 9 ข้อ เนื่องจากโครงการอาหารกลางวันไม่ได้คุณภาพนั้นได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ส่วนที่เหลือยังอยู่ในระหว่างการสืบสวน
