สุราษฎร์ธานี - อดีต ผอ.โรงเรียนให้เด็กกินขนมจีนคลุกน้ำปลา ย่องเงียบเข้ารายงานตัวพร้อมยื่นใบลากิจต่ออีก 5 วันตั้งแต่เช้าวันนี้ ด้านประธานกรรมการสอบข้อเท็จจริง ส่งสำนวนให้ศึกษาธิการพิจารณาให้ออกจากราชราชการแล้ว พร้อมระบุ อดีต ผอ.ฉาว ให้การแบ่งรับแบ่งสู้ข้อกล่าวหาส่อทุจริตผิดวินัยร้ายแรงและประพฤติชั่ว อ้างพยานบุคคลแต่ไม่สามารถหักลบพยานหลักฐานด้านเอกสารและพยานบุคคลของคณะกรรมการได้
ความคืบหน้า โรงเรียนบ้านท่าใหม่ ม.17 ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี ให้เด็กนักเรียนอนุบาลกิน ขนมจีนคลุกน้ำปลา จนมีคำสั่งย้ายนายสมเชาว์ สิทธิเชนทร์ ผอ.โรงเรียนดังกล่าว ออกจากพื้นที่ ไปช่วยราชการประจำสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สุราษฎร์ธานี เขต2 (สพป.สฎ เขต 2 ) ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.61 เป็นต้นมา และคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงตามคำร้องเรียนได้สรุปผลการตรวจสอบ ว่า อดีต ผอ.มีความผิดจริง มีโทษปลดออกหรือไล่ออกจากราชการนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 08.00 น.วันนี้ (11 มิ.ย.) นายสมเชาว์ สิทธิเชนทร์ อดีต ผอ.โรงเรียนบ้านท่าใหม่ ได้เดินทางมารายงานตัวต่อนายประทีป ทองด้วง ผอ.สพป.สฎ เขต 2 ซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี หลังครบกำหนดลากิจเป็นเวลา 5 วัน และได้ยื่นลากิจต่ออีก 5 วันนี้ตามสิทธิ ตั้งแต่เวลา 07.30 น.ของวันนี้ หลังจากนั้นได้เดินทางออกจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สุราษฎร์ธานี เขต 2 ทันที
นายจักรรินทร์ อภิสมัย รองผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สุราษฎร์ธานี เขต2 (สพป.สฎ เขต 2 ) ในฐานะประธานการสอบสวนข้อเท็จจริงตามคำร้องเรียน กล่าวว่า วันนี้นายสมเชาว์ สิทธิเชนทร์ อดีต ผอ.โรงเรียนบ้านท่าใหม่ ได้เดินทางมาที่รายงานตัวที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สุราษฎร์ธานี เขต 2 ตั้งแต่เช้าในเวลาประมาณ 07.30 น.พร้อมกับได้ยื่นหนังสือลากิจต่ออีก 5 วันตามสิทธิต่อฝ่ายบริหารงานบุคคล จากนั้นจึงได้เดินทางกลับในทันที ส่วน ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาฯ จะอนุมัติหรือไม่นั้นเป็นอำนาจหน้าที่ของ ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาฯ หากไม่อนุมัติก็จะเรียกตัวกลับมาทันที
นายจักรรินทร์ กล่าวต่อว่า ผลการสอบปาก คำนายสมเชาว์ สิทธิเชนทร์ ผอ.โรงเรียนบ้านท่าใหม่ ในเบื้องต้นได้รับสารภาพบางข้อ และบางข้อแบ่งรับแบ่งสู้ โดยอ้างพยานบุคคล แต่ไม่สามารถหักลบกับพยานหลักฐานของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ที่มีทั้งพยานเอกสารจำนวน 586 หน้า และพยานบุคคลจำนวนหนึ่ง ที่ปรากฏว่านายสมเชาว์ มีความผิด ส่อเจตนาทุจริตผิดวินัยร้ายแรง และประพฤติชั่ว มีโทษร้ายแรง ให้ออกจากราชการไว้ก่อน เพื่อรอการสอบสวนดำเนินการทางวินัยและดำเนินคดีอาญาต่อไป ซึ่งตนได้เซ็นสรุปสำนวนเอกสารทั้งหมดส่งให้ศึกษาธิการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พิจารณาดำเนินการต่อไปในวันนี้แล้ว