ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - บรรยากาศวันฮารีรายออิฎิลฟิตตรี ในพื้นที่ภาคใต้ ชาวไทยมุสลิมต่างออกมาร่วมกันละหมาดด้วยความสุข และร่วมเฉลิมฉลองวันรายอ หลังสิ้นสุดการถือศีลอด
วันนี้ (15 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศวันฮารีรายออิฎิลฟิตตรี ในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง ซึ่งถือเป็นวันสำคัญทางศาสนาอิสลาม คือ วันเฉลิมฉลองของชาวไทยมุสลิมทั่วโลก หลังจากที่ได้ถือศีลอดมาตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา และยังถือเป็นการเริ่มต้นฮิจเราะห์ศักราช 1439 ได้มีชาวไทยมุสลิมต่างพาครอบครัวออกไปร่วมละหมาดตามมัสยิดต่างๆ อย่างเนืองแน่นตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งถือเป็นศาสนกิจสำคัญที่ต้องปฏิบัติเป็นอันดับแรก
จังหวัดสงขลา ที่มัสยิดปากีสถาน ใน อ.หาดใหญ่ มีทั้งชาวไทยมุสลิมเชื้อสายปากีสถาน และชาวไทยมุสลิมใน อ.หาดใหญ่ รวมทั้งผู้คนต่างถิ่นได้ร่วมกันประกอบพิธีละหมาดฮารีรอยอ อีดิลฟิตรีจนล้นมัสยิด ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเปี่ยมสุข และรอยยิ้มของผู้คนทุกเพศทุกวัยที่ออกมาละหมาด โดยหลังละหมาดมีการฟังคุตบะห์ หรือคำสอนทางศาสนาอิสลาม รวมทั้งการพบปะเพื่ออภัยซึ่งกันและกัน ก่อนที่จะออกไปเยี่ยมเยียนญาติพี่น้อง และรับประทานอาหารร่วมกัน
จังหวัดปัตตานี ที่มัสยิดกลางประจำจังหวัดปัตตานี มีพี่น้องชาวไทยมุสลิมแต่งกายด้วยเสื้อผ้าใหม่ และสวยงาม ต่างพาบุตรหลานเดินทางมาเข้าร่วมละหมาดกว่า 5 พันคน เพื่อขอประทานอภัยโทษต่อพระผู้เป็นเจ้า ต่อการกระทำบาปในรอบหนึ่ง 1 ปีที่ผ่านมา และเป็นการให้อภัยซึ่งกันและกัน นอกจากนี้ ยังขอพรจากพระผู้เป็นเจ้าให้เกิดความสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้โดยเร็ว
หลังจากเสร็จพิธี ผู้เข้าร่วมละหมาดก็จะเดินทางกลับบ้านเพื่อร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในวันฮารีรายอร่วมกับญาติพี่น้อง และขออภัยในสิ่งที่ได้ล่วงเกินซึ่งกันและกัน พร้อมทั้งร่วมรับประทานอาหารร่วมกัน ซึ่งถือเป็นมื้อแรกของวัน และเป็นมื้อเช้ามื้อแรก หลังจากที่ถือศีลอดมาตลอดเดือนรอมฎอน
จังหวัดยะลา ที่สนามศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลา ผู้นับถือศาสนาอิสลามในจังหวัดยะลา และใกล้เคียงจำนวนนับพันคนได้เดินทางมาร่วมกันประกอบพิธีละหมาดในวันฮารีรายออิฎิลฟิตตรี เพื่อเป็นการปฏิบัติตามหลักศาสนา หลังสิ้นสุดเดือนรอมฎอนไปแล้ว และมีการฟังการบรรยายธรรม เรื่องสังคมน่าอยู่ให้แก่พี่น้องมุสลิมได้ฟังกัน
ซึ่งภายหลังเสร็จสิ้นการประกองพิธีละหมาดแล้ว ก็มีกิจกรรมการบริจาคทาน และการเลี้ยงอาหารให้แก่ผู้ที่มาเข้าร่วมพิธี โดยภายหลังจากเสร็จสิ้นการประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว พี่น้องมุสลิมก็จะเดินทางกลับไปพบปะครอบครัว และญาติพี่น้อง ร่วมไปถึงการไปอ่านคัมภีร์อัลกุรอานให้แก่บรรพบุรุษผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ณ กุโบร์ฝังศพ เพื่อเป็นการระลึกถึงผู้ที่ล่วงลับไปแล้วด้วย