ปัตตานี - รองแม่ทัพภาค 4 สั่งกองกำลังดูแลประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้อย่างเข้มงวด ในช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน
วันนี้ (11 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรณีในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอนของชาวไทยมุสลิม หลังจากในห่วงที่ผ่านมา ได้เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบฝ่ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงประชาชนเสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง สร้างความสะเทือนใจ ทำให้ประชาชนในพื้นที่เริ่มมีความรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินมากขึ้น
ล่าสุด พล.ต.วัลลภ ฐิติกุล รองแม่ทัพ ภาค 4 กล่าวว่า ได้สั่งการทุกหน่วยเน้นย้ำการปฏิบัติในช่วง 10 วันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน ให้ทุกหน่วยควบคุมพื้นที่อย่าให้เกิดเหตุ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.สุคีริน จ.นราธิวาส, อ.บันนังสตา จ.ยะลา ให้ทำความเข้าใจกับญาติผู้เสียชีวิตว่าไม่ได้เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ
ด้าน พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผบ.ฉก.ปัตตานี กล่าวว่า ได้สั่งให้ทุกหน่วยประสานกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้จัดชุกรักษาความปลอดภัยหมูบ้านออกมาดูแลประชาชนที่มาละหมาดในมัสยิด ช่วงก่อน ระหว่าง และช่วงหลังการละหมาด เพราะที่ผ่านมา เหตุได้เกิดขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวจะต้องมี ชรบ.ดูแล และให้เพ่งเล็งบุคคลแปลกหน้าที่เข้ามาละหมาด มือปืนเป็นคนต่างพื้นที่ โดยมีคนในพื้นที่เป็นผู้ชี้เป้า ส่วนสาเหตุเขาก็ทำตามวงรอบไปเรื่อยๆ
และเจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตามผู้ก่อความไม่สงบกลุ่ม นายสมันดี สะนิ นายอาหามะ สะอิ ที่เคลื่อนไหวอยู่บริเวณเขตรอยต่อทุ่งยางแดง กะพ้อ ยะรัง มายอ ยะหริ่ง ที่อาจจะก่อเหตุสังหารหมู่กับประชาชนซึ่งเกิดขึ้นแล้วในนราธิวาส และยะลา เพื่อไม่ให้เกิดในพื้นที่ปัตตานีเด็ดขาด
โดยเจ้าหน้าที่พบการเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้ายประกอบระเบิดแสวงเครื่องในรถยนต์เพื่อเตรียมการก่อเหตุขนาดใหญ่ โดยซุกซ่อนรถยนต์ประกอบระเบิดแสวงเครื่องไว้ในมัสยิด หรือปอเนาะ ให้ทุกหน่วยจัดกำลังเข้าไปพบปะเยี่ยมเยียนเพื่อตรวจสอบรถยนต์ต้องสงสัยในมัสยิด และปอเนาะทุกแห่งแล้ว
นอกจากนั้น คนร้ายยังมีแผนที่จะก่อเหตุต่อไปอีกในช่วงนี้ เจ้าหน้าที่ได้เน้นหนักในการดูแลพื้นที่อย่างเข้มงวด และเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เตรียมพร้อมระดับ 2 และให้ทุกหน่วยจัดเตรียมกองหนุนพร้อมเข้าคลี่คลายสถานการณ์ได้ทันที
