ปัตตานี - กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ชี้แจงกรณีคนร้ายยิงราษฎรเสียชีวิต จำนวน 5 ราย ที่อำเภอบันนังสตา จ.ยะลา ขอความร่วมมือผู้นำ 4 เสาหลักสร้างความเข้าใจประชาชน อย่าหลงเชื่อข่าวลือที่ว่าเป็นการกระทำของรัฐ
วันนี้ (11 มิ.ย.) พ.อ.ธนาวีร์ สุวรรณรัตน์ รองโฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ตามที่เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่บ้านเรือนราษฎร จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 5 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2561 เวลา 00.55 คนร้ายไม่ทราบจำนวน ขับขี่รถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน ใช้อาวุธสงคราม และอาวุธปืนลูกซองยิงใส่บ้านเลขที่ 228 หมู่ที่ 4 ต.ตาเนาะปูเต๊ะ อ.บันนังสตา จ.ยะลา เป็นเหตุให้ราษฎรเสียชีวิต จำนวน 5 ราย นั้น กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอชี้แจงดังนี้
1.ภายหลังรับแจ้งเหตุ หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 33 ได้จัดกำลังเข้าไปทำการตรวจสอบ พบราษฎรถูกยิงเสียชีวิต จำนวน 5 ราย ประกอบด้วย 1) นายอิบรอเฮง มูเซะ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 228 หมู่ที่ 4 ตำบลตาเนาะปูเต๊ะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา กระสุนถูกบริเวณศีรษะ และลำตัว เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2) นายอามะ มูเซะ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 33/1 หมู่ที่ 4 ตำบลตาเนาะปูเต๊ะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา กระสุนถูกบริเวณศีรษะ และลำตัว เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
3) นายอุสมาน ยูโซ๊ะ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 136/3 หมู่ที่ 4 ตำบลตาเนาะปูเต๊ะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา กระสุนถูกบริเวณศีรษะ และลำตัว เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 4) นายฟูรกอน ราโซ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 258/1 หมู่ที่ 4 ตำบลตาเนาะปูเต๊ะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา กระสุนถูกบริเวณศีรษะ และลำตัว เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ และ 5) นายอรัญชัย ดอแฮะ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 182 หมู่ที่ 9 ตำบลตาเนาะปูเต๊ะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา กระสุนถูกบริเวณศีรษะ และลำตัว เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ
2.จากการสอบถามผู้เกี่ยวข้องในขั้นต้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย นั่งอยู่บริเวณหลังบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านพักของ นายอิบรอเฮง มูเซะ จนเวลา 00.55 น. ได้มีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์เข้ามายิงทั้ง 5 รายเสียชีวิต ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. จำนวน 1 ปลอก และปลอกปืนลูกซอง จำนวน 1 ปลอก จากการตรวจสอบในขั้นต้นสาเหตุน่าจะเกิดจากความขัดแย้งส่วนตัว แต่เจ้าหน้าที่ยังไม่ตัดประเด็นด้านความมั่นคง
3.กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอแสดงความเสียใจต่อญาติ และครอบครัวของผู้ที่เสียชีวิต ทั้งนี้ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการให้หน่วยที่เกี่ยวข้องทำการตรวจสอบข้อมูลเชิงลึก รวบรวมวัตถุพยาน และพยานแวดล้อมอื่นๆ เพื่อติดตามจับกุมกลุ่มที่ก่อเหตุมาลงโทษตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป
พร้อมทั้งได้เน้นย้ำให้หน่วยร่วมกับผู้นำ 4 เสาหลัก สร้างความเข้าใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพื่อป้องกันกลุ่มผู้ไม่หวังดีใช้การโฆษณาชวนเชื่อและบิดเบือนข้อเท็จจริง กล่าวหาว่า เป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐดังเช่นหลายๆ เหตุการณ์ที่ผ่านมา และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนช่วยกันตรวจสอบหากพบเบาะแสคนร้ายให้โทร.แจ้ง 1341 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง