ปัตตานี - รองศึกษาธิการ จ.ปัตตานี โต้สื่อบิดเบือนข่าว ยันไม่ได้ขัดคำสั่งรัฐมนตรีกรณีนักเรียน ร.ร.อนุบาลปัตตานี สวมใส่ฮีญาบ เผยเร่งตั้งคณะทำงานร่วมกันจากตัวแทนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อสรุปแนวทางการแก้ไขปัญหาที่พึงพอใจกันทุกฝ่ายในเร็วๆ นี้
วันนี้ (31 พ.ค.) จากกรณีปัญหาการแต่งชุดฮีญาบของนักเรียนมุสลิมโรงเรียนอนุบาลปัตตานี บานปลายกลายเป็นความขัดแย้งทางความคิดระหว่างคนพุทธ และมุสลิม หลายฝ่ายได้แสดงความกังวล และมีการวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานาทางโซเชียลมีเดีย มาตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค.นั้น
ล่าสุด ดร.ชูสิน วรเดช รองศึกษาธิการจังหวัดปัตตานี ได้กล่าวแสดงความเห็นถึงกรณีปัญหานักเรียนมุสลิมโรงเรียนอนุบาลปัตตานี ต้องการแต่งชุดฮีญาบ ว่า ในฐานะที่เป็นคนกลางในการเจรจา ทำให้รับทราบปัญหามาตลอดตั้งแต่ต้น และในฐานะที่ต้องรักษาราชการแทนศึกษาธิการจังหวัด ซึ่งเป็นตัวแทนของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมีหน้าที่ดูแลโรงเรียนอนุบาลปัตตานีด้วย จำเป็นต้องลงพื้นที่เพื่อรับทราบสถานการณ์ และเมื่อวันที่ 30 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้ไปเยี่ยมพบปะคุณครู และนักเรียนเพื่อสอบถามนักเรียนว่ามีดัชนีความสุขเป็นอย่างไรบ้าง ด้วยความเป็นห่วงว่าครูและนักเรียนจะเครียดต่อเหตุการณ์ ซึ่งจากการสอบถามเด็กนักเรียนบอกว่า มีความสุข ไม่มีใครมากดดัน และยังได้มีการประชุมครูเพื่อให้ขวัญกำลังใจ และมอบแนวทางการทำงาน ความร่วมแรงร่วมใจกันในช่วงระยะเวลาปัจจุบันแก่ผู้บริหาร และคณะครู
ส่วนที่มีการออกข่าวทางสื่อ มองว่า ไปห้ามไม่ให้เด็กใส่ชุดฮีญาบ และขัดคำสั่งรัฐมนตรีนั้นไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ตนไม่ได้พูดห้าม หรือมีเจตนาอย่างนั้น เพราะเข้าใจในวิถีพี่น้องมุสลิมเป็นอย่างดี และที่สำคัญได้เน้นเรื่องคุณภาพการศึกษาของเด็ก ครู และความร่วมมือของผู้ปกครองอย่างมาก
รองศึกษาธิการจังหวัดปัตตานี กล่าวอีกว่า ขณะนี้มีนักเรียนแต่งชุดฮีญาบ และกางเกงยาวประมาณ 15 คน ซึ่งมีรูปแบบที่แตกต่างกัน จึงจำเป็นที่จะต้องมีการกำหนดชุดเครื่องแบบที่เหมือนกันเป็นการเฉพาะที่เป็นอัตลักษณ์ของโรงเรียนอนุบาลปัตตานี โดยเฉพาะคนที่จะแต่งใหม่จะได้ไม่ต้องให้ผู้ปกครองเดือดร้อน
“การที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรต้องให้เวลากับทุกฝ่ายได้บริหารความรู้สึก ซึ่งเป็นคนกลางลำบากใจ และต้องรับฟังทั้งสองฝ่าย ขณะนี้กำลังประสานผู้เกี่ยวข้องเพื่อจัดตั้งคณะทำงานร่วมจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดในเรื่องการกำหนดแบบฟอร์มการแต่งกายนักเรียน รวมทั้งวันเวลาที่จะต้องมีการแต่งกายชุดอะไร ดังนั้น ขอให้ทุกฝ่ายได้เข้าใจถึงวิธีการทำงาน ต้องเคารพในกฎระเบียบ จารีตประเพณีของบ้าน ของโรงเรียน ของชุมชน และของประเทศชาติ ทุกปัญหาย่อมมีทางออก ขอฝากไปยังสื่อต่างๆ ขอให้สร้างสรรค์ในการนำเสนอข่าวด้วย ขอฝากไปถึงทุกๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ในช่วงเดือนรอมฎอนอันประเสริฐของพี่น้องชาวไทยที่นับถือศาสนาอิสลาม ขอร้องอย่าเอาเรื่องของศาสนา หรือเอาเด็กนักเรียนมาเป็นเครื่องมือในการทำร้ายซึ่งกันและกัน ขอพรพระเจ้าดลบันดาลให้ทุกคนที่คิดดีทำดี เจตนาดีต่อชาติบ้านเมือง ประสบแต่ความสุขความเจริญด้วย” ดร.ชูสิน กล่าว