ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - หนุ่มชาวเลสละเรือประมงคู่ชีพ หันมาทำเกษตรผสมผสาน ทั้งปลูกพืชผัก และเลี้ยงปลา ในพื้นที่ประมาณไร่ครึ่งบริเวณหลังบ้าน ทำเงินกว่า 1,000 บาทต่อวัน เหยียบ 2 แสนบาทต่อปี
วันนี้ (21 พ.ค.) มีตัวอย่างความสำเร็จของการทำเกษตรแบบผสมผสาน ที่ใช้เนื้อที่เพียงแค่ 1 ไร่ครึ่ง และสามารถทำเงินแสนได้เลยทีเดียว โดยผู้สื่อข่าวจะพาไปดูที่สวนของ นายเจ๊ะวารี ทัพพันธ วัย 53 ปี ชาวบ้านหมู่ 8 บ้านบ่ออิฐ ต.เกาะแต้ว อ.เมือง จ.สงขลา ซึ่งก่อนหน้านี้มีอาชีพทำการประมงออกทะเลหาปลามาค่อนชีวิตกว่า 40 ปี
แต่ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้ผันชีวิตมาทำการเกษตร และทำแบบผสมผสาน ซึ่งมีรายได้หมุนเวียนต่อเนื่องทุกวัน ทุกเดือน และทั้งปี ภายในเนื้อที่เพียงไร่ครึ่งบริเวณข้างบ้าน ได้แบ่งขุดบ่อเลี้ยงปลาดุก 2 บ่อ ในร่องสวนก็เลี้ยงปลาหมอเทศ และที่ว่างก็ปลูกพืชผักผลไม้ และผักสวนครัว เช่น มะละกอ พริกขี้หนู มะเขือ ตะไคร้ จนเต็มพื้นที่
อีกทั้งปุ๋ยก็หมักจากเศษอาหารในครัวเรือนมาใช้เอง หรือไม่ก็ใช้มูลวัว มูลไก่ แต่จะไม่ใช้สารเคมี จึงเป็นเกษตรอินทรีย์ล้วน สวนปลาดุก ก็ใช้เครื่องในจากโรงเชือดมาเลี้ยงเพื่อลดต้นทุนการผลิตร่วมกับอาหารสำเร็จรูป พืชผักภายในสวนก็ใช้กินในครัวเรือน เหลือก็ขายให้แก่เพื่อนบ้าน หรือตามตลาดนัด
นายเจ๊ะวารี บอกว่า ในเนื้อที่แค่ไร่ครึ่งสามารถสร้างสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวประมาณ 1,000 บาทต่อวัน เช่น จากพริกขี้หนู ราคาขีดละ 20 บาท หรือ 200 บาทต่อกิโลกรัม ปลาดุก ราคา 70 บาทต่อกิโลกรัม ในปีที่ผ่านมา ครอบครัวมีรายได้จากการทำเกษตรผสมผสานพื้นที่ว่างข้างบ้านกว่า 200,000 บาท ซึ่งอยู่ได้อย่างสบายเพราะแทบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ในครัวเรือน ปลูกเองกินเองที่เหลือก็ขาย จึงตัดสินใจขายเรือทิ้งหันหลังให้อาชีพประมง มาทำการเกษตรแบบผสมผสานเต็มตัว
