xs
xsm
sm
md
lg

“เลี้ยงปลาในนาข้าว” ต้นทุนต่ำจับขายได้ตลอดปี อีกทางเลือก!พี่น้องชาวนายุคข้าวยากหมากแพง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ยโสธร - อีกกรณีตัวอย่างของชาวนาที่ยโสธรที่ปรับตัวในยุคต้นทุนทำนาสูงลิบ เลี่ยงการขาดทุน โดยหันมาเลี้ยงปลาในนาข้าวแทนเน้นให้หากินตามธรรมชาติเพื่อลดค่าใช้จ่าย เผยรายได้ดีเพราะจับปลาขายได้ต่อเนื่องทั้งปี

ชาวนาจำนวนไม่น้อยประสบปัญหาการขาดทุนเพราะขายข้าวไม่ได้ราคา ขณะที่ต้นทุนการทำนาสูงขึ้นทุกปี ทั้งค่าปุ๋ย ค่าจ้างแรงงาน หลายรายต้องทิ้งนาพากันไปขายแรงในเมืองใหญ่ อย่างไรก็ตามยังมีชาวนาจำนวนหนึ่งที่สู้ไม่ถอย ปรับเปลี่ยนจากการทำนาข้าวไปปลูกพืชหรือเลี้ยงสัตว์เศรษฐกิจแทน

อย่างกรณีของนายประเดิม แสงสว่าง อายุ 65 ปี ชาวบ้านดงบัง ต.หนองคู อ.เมือง จ.ยโสธร ได้ปรับเปลี่ยนพื้นที่นาข้าวเป็นบ่อเลี้ยงปลานานาชนิด โดยเน้นการเลี้ยงแบบธรรมชาติ ให้กินพืชผักและปลูกต้นข้าวเอาไว้เป็นอาหารของปลา เพื่อลดต้นทุนการเลี้ยงด้วยหัวอาหาร ปลาที่เลี้ยงในนาข้าวสามารถจับขาย มีรายได้เข้าครัวเรือนได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี

นายประเดิมเล่าว่า ปลาเลี้ยงในนาข้าวจะใช้ระยะเวลาเลี้ยงราว 5 เดือน ก็สามารถจับปลาออกขายได้ในราคากิโลฯละ 50-60 บาท ขึ้นอยู่กับชนิดของปลา หลังจากจับปลาขึ้นมาจากบ่อเลี้ยงแล้วก็จะคัดแยกเลือกเฉพาะปลาตัวโตได้ขนาดส่งให้ลูกค้าที่เป็นพ่อค้าแม่ค้าปลาตามตลาดสด ส่วนปลาที่มีขนาดเล็กก็จะปล่อยกลับลงนาข้าวเช่นเดิมเพื่อให้เจริญเติบโตก่อนที่จะจับส่งขายในรอบต่อไป การเลี้ยงปลาแบบธรรมชาติในนาข้าวลักษณะนี้สามารถจับขายได้ต่อเนื่องทั้งปี

นายประเดิมบอกอีกว่า ตนมีที่นาอยู่ทั้งหมด จำนวน 23 ไร่ แบ่งพื้นที่ 6 ไร่เพื่อทำนาข้าวเอาไว้รับประทานในครอบครัว ส่วนที่เหลือก็จะปรับทำเป็นบ่อเลี้ยงปลาและปลูกข้าวเอาไว้ให้เป็นอาหารของปลาอีกด้วย ปลาที่เลี้ยงจะมีเกือบทุกชนิด ทั้งปลานิล ปลาตะเพียน ปลาใน ปลาช่อน ปลาดุก ปลาบู่ และปลาหมอเทศ ในแต่ละวันจะมีลูกค้าตามหมู่บ้านต่างๆ สั่งซื้อปลาไม่ต่ำกว่า 100 กิโลกรัม

หลังจากปรับนาข้าวหันมาเลี้ยงปลาเป็นอาชีพหลักทำให้ครอบครัวของนายประเดิมมีรายได้อย่างต่อเนื่อง แม้ค่าครองชีพทุกวันนี้จะถีบตัวสูงขึ้นมากขนาดไหนก็ไม่เดือดร้อน ทั้งยังมีเงินเหลือเก็บสร้างความมั่นคงให้แก่ครอบครัวได้เป็นอย่างดี


กำลังโหลดความคิดเห็น