ศูนย์ข่าวภูเก็ต - “เนตรพิรุณ สุขศรี” ตำรวจจิตอาสา ทำดีโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เห็นแค่รอยยิ้มจากคนที่รอความช่วยเหลือ และคุณเดินทางกลับถึงบ้านไปหาคนที่รออยู่อย่างปลอดภัย ก็พอใจแล้ว ประกาศเดินหน้าทำดีต่อไป
หลายๆ คนที่ขับรถอยู่ในเขตพื้นที่ สภ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต อาจจะเคยเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรนายหนึ่งที่คอยให้บริการชาร์จแบตเตอรี่ให้กับรถยนต์ รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ริมถนนบ่อยครั้ง หรือที่ชักชวนชาวบ้านมาช่วยกันเข็นรถบัสที่จอดเสียอยู่กลางถนนเพื่อให้ออกมาอยู่นอกเส้นทาง เพื่อไม่ให้เกิดปัญหารถติด ซึ่งเป็นภาพที่สร้างความประทับใจให้แก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก รวมทั้งยังเป็นการช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่วงการตำรวจอีกทางหนึ่งจนมีการนำภาพไปโพสต์ในโลกโซเชียล
จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนายนี้คือ ส.ต.ต.เนตรพิรุณ สุขศรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร สักกัดสถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจรุ่นใหม่ไฟแรง บรรจุเข้าเป็นตำรวจเมื่อประมาณปี 2558 ที่ผ่านมา และเคยโด่งดังในโลกโซเชียลมาแล้วครั้งหนึ่งในการโชว์ฝีเท้าเต้นบีบอย เพื่อสร้างสีสัน และคลายเครียดให้แก่ประชาชนที่ประสบปัญหาการจรจรติดขัด แต่มาวันนี้ จะพาไปรู้จักกับตำรวจหนุ่มนายนี้ที่นอกจากจะมีความตั้งใจทำงานเกินร้อยแล้ว ยังมีความเป็นตำรวจจิตอาสาอีกด้วย
ส.ต.ต.เนตรพิรุณ เล่าให้ฟังว่า ตนเองเป็นลูกชาวนา มาจากจังหวัดนครศรีธรรมราช พ่อขับรถจักรยานรับจ้าง แต่ก็มีความใฝ่ฝันที่จะทำงานเพื่อช่วยเหลือคนอื่นมาตลอด ซึ่งสมัยเรียนมหาวิทยาลัยก็จะออกค่ายอาสาเพื่อช่วยเหลือคนที่ได้รับความเดือดร้อนมาโดยตลอด ก่อนที่จะมารับราชการตำรวจ เคยฝันว่าอยากที่จะเป็นทหารเพราะจากข่าวสารต่างๆ จะเห็นภาพทหารออกไปช่วยเหลือประชาชนในที่ต่างๆ แต่เมื่อก่อนไม่มีใครที่จะมาชี้แนะแนวทางให้แก่ตัวเองในการเดินทางไปสู่ความฝันตามที่ว่างไว้ นอกจากนั้น สมัยเป็นเด็กสิ่งที่พ่อพร่ำบอกมาตลอดคือ ถ้าเรามีปัญหา หรือต้องการความช่วยเหลือให้ไปหาตำรวจ เพราะตำรวจจะช่วยเราได้ พอเรียนจบก็ตัดสินใจมาสอบเป็นตำรวจ และได้เป็นตำรวจสมใจ
ที่แรกที่ได้รับการบรรจุให้มาเป็นตำรวจ คือ สถานีตำรวจภูธรเมืองภูเก็ต โดยไปทำหน้าที่ตำรวจจราจร และในการทำหน้าที่ตำรวจจราจรทำให้มองเห็นปัญหาอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหารถติด คือ ปัญหารถเครื่องยนต์ดับกลางถนน กว่าจะช่วย หรือซ่อมให้รถขับออกไปอยู่ในไหลทางได้ก็มีความยากลำบาก ทำให้รถติดยาวซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้แก่คนที่สัญจรไปมาเป็นอย่างมาก ก่อนหน้านี้ ถ้าเกิดรถเสีย หรือสตาร์ทไม่ติดก็จะระดมคนที่ขับรถผ่านมาให้ช่วยกันเข็นไปไว้ไหล่ทาง แต่ก็รอนานกว่าจะมีช่างมาดู หรือขับรถออกไปได้ บางครั้งเหตุเกิดตอนกลางคืน ผู้หญิงขับรถมาคนเดียวก็อาจจะไม่ปลอดภัยได้
ตนเองจึงไปศึกษาข้อมูล เพราะจากการตรวจสอบพบว่า รถที่ดับระหว่างจอดรอไฟแดงส่วนใหญ่จะมีปัญหาเรื่องแบตเตอรี่ และจากการศึกษาพบว่า มีที่ชาร์จแบตเตอรี่แบบพกพาขาย ซึ่งมีขนาดเล็ก สามารถใส่ใต้เบาะรถจักรยานยนต์นำติดตัวไปไหนมาไหนได้สะดวก จึงตัดสินใจซื้อมาใช้ ด้วยงบประมาณของตัวเอง เพื่อนำมาทดลองใช้ และให้บริการประชาชนที่มีปัญหาเรื่องรถที่จอดเสียบนถนน ซึ่งจากการทดลองใช้พบว่า ได้ผลสามารถแก้ปัญหารถติดได้ และในการให้บริการนั้นตนออกไปให้บริการทั้งในเวลาราชการ และหลังเวลาราชการ ซึ่งก็ได้รับแจ้งเข้ามาตลอดเวลา เพราะตนสามารถไปถึงที่เกิดเหตุได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ปัญหารถติดที่เกิดจากรถเสียลดลง
แต่การใช้เพาเวอร์แบงก์ชาร์จแบตเตอรี่ที่ตัวเองมีอยู่พบว่า ยังมีขนาดเล็ก สามารถใช้ได้กับรถยนต์ รถเก๋ง และรถจักรยานยนต์เท่านั้น ยังไม่รองรับรถบัส หรือรถขนาดใหญ่ ซึ่งในภูเก็ตพบว่ารถบัสที่ให้บริการนักท่องเที่ยวมีจำนวนมาก เวลารถเหล่านี้มีปัญหาบนถนนทำให้รถติดมหาศาล จึงได้ไปศึกษาเพิ่มเติม และพบว่า มีเพาเวอร์แบงก์ที่มีกำลังไฟมากขึ้น และตัดสินใจซื้อมาเพื่อใช้ในงานช่วยเหลือประชาชน 1 ตัว ซึ่งต่อไปนี้ก็สามารถแก้ไขปัญหารถเหล่านี้ได้ส่วนหนึ่งอย่างแน่นอน
ส.ต.ต.เนตรพิรุณ ยังได้กล่าวต่อไปว่า การออกมาทำจิตอาสาด้วยการช่วยเหลือประชาชนนั้นตนได้ทำมาตั้งแต่สมัยเรียน และเหมือนกับอยู่ในสายเลือด นอกจากจะให้บริการชาร์จแบตแก่ประชาชนแล้ว ตนยังอยู่ในกลุ่มรถใหญ่ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใช้เวลาว่างในการขับขี่รถไปบริจาคสิ่งของให้แก่คนที่กำลังเดือดร้อน ซึ่งสิ่งของที่นำไปบริจาคเป็นสิ่งของที่สมาชิกในกลุ่มช่วยกันซื้อมา กิจกรรมเหล่านี้ก็เป็นกิจกรรมที่ทำต่อเนื่องกันมาตลอด ซึ่งนอกจากจะนำของไปมอบให้แก่คน หรือเด็กที่เขารออย่างมีความหวังแล้ว ทางสมาชิกในกลุ่มให้ช่วยกันชี้แนะแนวทาง เส้นทางในการเดินไปสูงความสำเร็จของเด็กๆ ด้วย
เพราะมองว่าที่ผ่านมา ความเป็นเด็ก เป็นลูกชาวบ้านธรรมดาๆ ไม่ค่อยมีโอกาสที่จะไปหาคำชี้แนะจากที่ไหน เมื่อเรามีโอกาสก็อยากชี้ช่องทางให้แก่เด็กๆ แม้ว่าเราจะยังไม่ประสบความสำเร็จ แต่เมื่อเรารู้ช่องทางก็อยากจะถ่ายทอดให้แก่คนอื่นได้รับรู้เช่นกัน ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้จะทำต่อไปเพราะยังมีคนอีกจำนวนมากที่ยังรอการช่วยเหลือ
นอกจากนั้น สิ่งหนึ่งที่ตำรวจหนุ่มคนนี้ทำ คือ การเดินเก็บขยะ ส.ต.ต.เนตรพิรุณ บอกว่า การเก็บขยะก็เป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่ทำ ถ้าตนมีเวลาว่างก็จะไปออกกำลังกายที่เขาโต๊ะแซะ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เส้นทางที่ไปออกกำลังกายก็จะเป็นเส้นทางที่จะต้องผ่านป่า ซึ่งบริเวณนั้นจะมีลิงที่นำอาหารมากิน ก็จะมีถุงพลาสติกบ้าง กระป๋องน้ำบ้าง และขยะอย่างอื่น เมื่อวิ่งผ่านก็จะแวะเก็บรวบรวม และนำไปทิ้งถังขยะ ซึ่งการเก็บขยะดังกล่าวไม่ใช่เฉพาะตนที่ทำ แต่คนที่ไปวิ่งส่วนใหญ่ก็จะช่วยกันทำ เพราะมองว่าถ้าเราไม่ช่วยกันเก็บปัญหาขยะก็จะไม่หมดไป ลิงก็ยังนำมาทุกวัน
ส.ต.ต.เนตรพิรุณ ยังได้กล่าวปิดท้ายว่า การทำงานจิตอาสาของตนนั้นทำด้วยใจ แต่ไม่หวังผลตอบแทน การออกไปช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนแต่ละครั้งก็แค่ต้องการเห็นรอยยิ้มของคนที่ได้รับความช่วยเหลือยิ้มตอบกลับมาก็พอแล้ว และทุกครั้งคิดอยู่เสมอว่า ถ้าคนที่ประสบเหตุเดินทางกลับถึงบ้านช้าคนที่รออยู่ก็จะรอด้วยความเป็นห่วง และกังวล จึงอยากช่วยให้เขาสามารถเดินทางถึงบ้านได้เร็วที่สุด ซึ่งสิ่งเหล่านี้พ่อแม่ไม่เคยสอนด้วยการบอกให้เราทำ แต่จะสอนโดยการทำให้ดู และทำมาตลอด
“พ่อเคยขับรับจักรยานยนต์รับจ้าง ที่ผ่านมา พ่อจะไปส่งลูกค้าทุกคนไม่ว่าจะมีเงินจ่ายค่าบริการหรือไม่ ถึงไม่มีจ่ายก็ไปส่งเพราะพ่อบอกว่า คนที่รอลูก หรือญาติกลับบ้านจะรอด้วยความหวัง และรอด้วยความเป็นห่วง ตนได้รับการปลูกฝังเรื่องการช่วยเหลือมาจากครอบครัว และสานต่อสิ่งที่พ่อทำมาโดยตลอด”