ตรัง - กลุ่มชนเผ่ามันนิ หรือเงาะป่าซาไก ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง กว่า 30 ชีวิต วอนขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐ โดยเฉพาะจากศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัด เพราะยังใช้ชีวิตกันอย่างลำบากในหลายๆ ด้าน
วันนี้ (10 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจาก นายบ่าว ศรีสันติราษฎร์ อายุ 32 ปี หัวหน้าชนเผ่ามันนิ หรือเงาะป่าซาไก ในพื้นที่หมู่ 14 ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกอยู่ทั้งหมดกว่า 30 คน และยังคงใช้ชีวิตแบบชนเผ่ามันนิดั้งเดิมที่ยังไม่มีทั้งประปา และไฟฟ้า ตลอดจนเลี้ยงชีพด้วยการหาของป่ามาขายแลกข้าว แลกอาหาร และยารักษาโรคที่จำเป็น
โดยระบุว่า ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมานี้ ชนเผ่ามันนิของตนยังไม่เคยได้รับความช่วยเหลือใดๆ จากหน่วยงานราชการ คงเป็นเพราะเนื่องจากถนนหนทางที่ยังเข้ามาค่อนข้างลำบาก ต้องอาศัยการเดินเท้าเป็นระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร หรือต้องใช้รถจักรยานยนต์ที่ต้องให้คนในพื้นที่ที่ชำนาญเส้นทางเป็นคนขับขี่เท่านั้น อีกทั้งถนนบางช่วงบางตอนยังแคบมาก และด้านข้างก็เป็นเหวลึก เนื่องจากที่ตั้งของชนเผ่าอยู่บนยอดเขาสูง
โดยเฉพาะงบประมาณจากศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดตรัง ซึ่ง นายบ่าว กล่าวยืนยันว่า ยังไม่เคยมีหนังสือแจ้งมา หรือมีเงินใดๆ มาถึงพวกตนเลย รวมทั้งเงินช่วยเหลือคนจน ก็เคยแค่ได้ยินชาวบ้านในหมู่บ้านข้างนอกพูดให้ฟัง แต่ขณะนี้ชนเผ่ามันนิกลุ่มของตนก็ไม่เคยได้รับ
อย่างไรก็ตาม หากจะให้พวกตนต้องเปลี่ยนไปใช้ชีวิตเหมือนกับคนเมือง เป็นเรื่องที่ต้องคิดกันดูก่อน อีกทั้งปัจจุบัน เด็กๆ ในชนเผ่าแห่งนี้ก็ยังไม่มีใครได้เล่าเรียนหนังสือ เพราะวันๆ พวกตนต้องใช้เวลาไปกับการทำมาหากินจนไม่สามารถรับส่งลูกหลานไปโรงเรียนที่ตั้งอยู่ห่างไกลได้ จึงวอนขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในด้านต่างๆ เช่น เรื่องเงินสวัสดิการ การเล่าเรียนหนังสือ หรือการเดินทางเข้าออกมายังชนเผ่าที่ยังลำบากมาก
ด้าน นายสมโชค หนูวงษ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 14 ต.ปะเหลียน อ.ปะเหลียน จ.ตรัง กล่าวว่า ชนเผ่ามันนิที่นี่ยังไม่เคยได้รับเงินช่วยเหลือใดๆ จากหน่วยงานราชการ โดยเฉพาะจากศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง และที่ผ่านมา ก็ยังไม่เคยมีเจ้าหน้าที่เดินทางมาติดต่อเลย อย่างไรก็ตาม ล่าสุด สมาชิกชนเผ่ากลุ่มนี้ได้ทำบัตรประจำตัวประชาชนทั้งหมดแล้ว และเป็นปีแรกที่จะได้เข้าร่วมโครงการเงินผู้สูงอายุ ซึ่งคาดว่าจะได้รับในเดือนตุลาคมนี้