นครศรีธรรมราช - จนท.เร่งกู้เส้นทางในหลายหมู่บ้านของ ต.เสาธง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช หลังถูกพายุงวงช้างเข้าพัดถล่มตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่ชาวบ้านนับพันครัวเรือนยังไม่มีไฟฟ้าใช้ เนื่องจากระบบจ่ายเสียหายอย่างหนัก
วันนี้ (9 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ชาวบ้านในท้องที่หมู่ 8 ต.เสาธง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งได้รับความเสียหายจากพายุงวงช้างเมื่อช่วงค่ำของวานนี้ พยายามช่วยเหลือตัวเองเบื้องต้นด้วยการซ่อมแซมบ้าน และรื้อเศษซากต้นไม้ที่โค่นล้มสร้างความเสียหายให้ตัวบ้านออก เช่น ที่บ้านของ จ.ส.อ.ไพโรจน์ จุติรัตน์ อายุ 75 ปี ซึ่งวิ่งหนีออกจากบ้านรอดชีวิตหวุดหวิดจากต้นยางนาขนาดใหญ่กว่า 10 คนโอบ อายุกว่า 200 ปี ถูกพายุพัดโค่นล้มเข้าตีตัวบ้านได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง
นอกจากนั้น จ.ส.อ.ธรรมนูญ มูณีวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเสาธง ได้นำเครื่องจักรกล และเจ้าหน้าที่เข้าเลื่อยต้นไม้ที่โค่นล้มปิดกั้นเส้นทางเข้าสู่หมู่บ้านในพื้นที่หมู่ 1 หมู่ 3 หมู่ 6 และหมู่ 8 อย่างทุกลักทุเล เนื่องจากเกิดความเสียหายอย่างรุนแรง โดยเฉพาะไม้ที่โค่นล้มมีขนาดใหญ่ และบางต้นแม้ว่าจะมีขนาดใหญ่ แต่ยังคงมีร่องรอยของพายุที่พัดบิดเอาเรือนยอดหักสะบั้นหายไปทั้งหมด ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ระบุว่า พายุเกิดขึ้นจากฝั่งภูเขาทิศตะวันตกของหมู่บ้าน และพัดม้วนเป็นเกลียวหมุนขนาดใหญ่พัดเข้าสร้างความเสียหายให้แก่สวนยางพารา ไม้ผล และบ้านเรือนจำนวนมาก แต่โชคดีที่ที่ไม่มีผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต
ส่วนการกู้ถนนสายต่างๆ นั้น เจ้าหน้าที่กำลังเร่งมืออย่างเต็มที่ พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่มีสภาพบ้านพังเสียหายจำนวนมาก ขณะเดียวกัน การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอร่อนพิบูลย์ ยังไม่สามารถกู้ระบบสายส่งได้ เนื่องจากต้องรอให้มีการรื้อถอนไม้โค่นล้มออกจากแนวสายส่ง จากนั้นจะเข้าทำการสำรวจความเสียหายของเสาไฟฟ้าที่โค่นล้ม สายส่ง และจะเข้าทำการปักเสาพาดสายใหม่ อาจใช้เวลาอีกราว 1 สัปดาห์จึงจะแล้วเสร็จ และสามารถจ่ายไฟฟ้าได้ โดยจะทำการทยอยไปเป็นโซนๆ
จ.ส.อ.ธรรมนูญ มูณีวรรณ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเสาธง เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างรวบรวมความเสียหาย ทั้งบ้านเรือน และพื้นที่ทางการเกษตร ซึ่งถือเป็นวิกฤตของหลายหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบ เหตุการณ์เช่นนี้ผู้เฒ่าผู้แก่ยืนยันว่า ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และเพิ่งเคยประสบเป็นครั้งแรก ความเสียหายที่เกิดขึ้นต้องใช้เวลาอีกระยะในการประเมิน แต่ขณะนี้ที่กำลังเดือดร้อน คือ ชาวบ้านไม่มีไฟฟ้าใช้นับพันครัวเรือน ซึ่งต้องเร่งประสานงานกับการไฟฟ้าเพื่อเร่งกู้ระบบให้เร็วที่สุด
