ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เสื่อม! เก็บตกหลังสงกรานต์ เจ้าของรถภูเก็ต โพสต์โดนสาดสีช่วงวันสงกรานต์ขณะขับรถผ่านกลุ่มบุคคลที่กำลังเล่นน้ำบริเวณทางเข้าหาดในยาง จนล้างไม่ออก คาดเป็นสีอะคริลิกทาบ้าน รุดแจ้งความไว้เป็นหลักฐานแล้ว 3 ราย ตร.เร่งล่าตัวมาดำเนินคดี
วันนี้ (17 พ.ค.) ผู้สื่อรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 เม.ย.61 ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กแฟนเพจแหม่มโพธิ์ดำ มีการโพสต์ภาพนิ่ง จำนวน 3 ภาพ พร้อมระบุข้อความ ควันหลงสงกรานต์ รถเราเพิ่งไปทำสีมา พอวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา เรากับแฟนขับรถไปเล่นน้ำที่หาดในยาง จ.ภูเก็ต ก็มีสาดน้ำ สาดสีก็คิดว่าสีที่สาดใส่รถเป็นสีผสมอาหารตามปกติ แต่ตอนเย็นกลับมาเปิดเจอในเพจคนภูเก็ต มีคนไปเล่นน้ำที่นั่นแล้วเจอมือดีเอา #สีทาบ้านมาสาดรถโดนกันหลายคนด้วย
เราสองคนรีบไปดูรถโดนเหมือนกันค่ะตรงกระจกฝั่งคนนั่งด้านข้างคนขับ กับตัวรถด้านเดียวกันลองเอามือลูบดู คือ ไม่ออกเลยติดเป็นก้อนแน่นมาก ตอนนี้หาร้านคาร์แคร์ที่สามารถเอาสีทาบ้านออกโดยไม่กระทบต่อสีรถได้แล้วค่ะ อยากเอามาแบ่งปันให้เห็นความสนุกเกินขอบเขตของคนบางกลุ่ม ความสนุก ความไม่ยับยั้งชั่งใจ หรืออะไรก็แล้วแต่ของพวกเขา มันสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นค่ะ สุดท้าย สวัสดีปีใหม่ไทยทุกคนนะคะ รตน Cr. สายลับโพธิ์ดำ หลังจากมีการโพสต์ข้อความและภาพดังกล่าว มีคนแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก และบางคนยังเอาภาพรถที่โดนลักษณะดังกล่าวมาให้ดูเช่นกัน และมีการแชร์เป็นจำนวนมาก
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง พ.ต.อ.กิติพงษ์ คล้ายแก้ว ผกก.สภ.สาคู กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีผู้เสียหายประมาณ 3 ราย เดินทางมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต่อทาง พนักงานสอบสวน สภ.สาคู แล้ว ประกอบด้วย รายแรก นายธนโชติ เอี่ยวศิริ อายุ 40 ปี มาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.สาคู เมื่อวันที่ 15 เม.ย.2561 เวลาประมาณ 09.32 น. ว่า เมื่อวันที่ 13 เม.ย.61 ตนได้ขับรถแท็กซี่ป้ายเขียว หมายเลขทะเบียน 1864 ภูเก็ต เป็นรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รับผู้โดยสารมาจากสถานีขนส่งภูเก็ต เพื่อมาส่งที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่หาดในยาง ซึ่งก่อนถึงโรงแรมประมาณ 50 เมตร มีกลุ่มผู้ชายยืนเล่นน้ำอยู่บริเวณนั้นได้สาดน้ำเข้ามาที่รถของตนที่บริเวณกระจกหน้ารถ ตนได้เปิดที่ปัดน้ำฝนเพื่อชำระคราบหน้ารถ แต่ไม่สามารถล้างออกได้ ซึ่งน้ำที่สาดมานั้นเป็นน้ำผสมสีอะคริลิก ตนจึงเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนรายที่ 2 คือ นายสรายุทธ นาวีว่อง อายุ 35 ปี มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.สาคู เมื่อวันที่ 15 เม.ย.2561 เวลาประมาณ 09.50 น. แจ้งว่า เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2561 เวลาประมาณ 15.00 น. ตนได้เดินทางโดยรถยนต์โตโยต้า ยาริส สีขาว ทะเบียน กต 3604 กระบี่ เมื่อมาถึงบริเวณถนนเลียบหาดในยาง ขณะที่ขับรถผ่านบริเวณหน้าโรงแรมแห่งหนึ่งภูเก็ต ถูกคนที่เล่นน้ำสงกรานต์บริเวณนั้น สาดสีใส่จนไม่สามารถล้างออกได้ จึงได้มาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน
และรายที่ 3 คือ นายมนตรี จุนพิสิทธิ์ อายุ 33 ปี มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.สาคู เมื่อวันที่ 16 เม.ย.2561 เวลาประมาณ 10.29 น. ว่า ตนได้เดินทางมาเล่นน้ำที่หน้าหาดในยาง โดยมาทางวัดในยาง เมื่อถึงบริเวณตลาดนัดในยาง มีกลุ่มชายยืนเล่นน้ำอยู่บริเวณนั้นได้สาดน้ำเข้ามาที่รถของตนด้านหน้าข้างซ้ายของตัวรถ โดยเป็นรถยนต์โตโยต้า หมายเลขทะเบียน บฉ 2037 พังงา ซึ่งน้ำที่สาดมานั้นเป็นน้ำผสมสีอะคริลิด ทำให้ไม่สามารถล้างออกได้ จึงเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ไว้เป็นหลักฐาน
พ.ต.อ.กิติพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า หลังจากที่ตนได้รับรายงานจากพนักงานสอบสวนจึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้เคียงที่เกิดเหตุทันที เพื่อที่จะติดตามจับกุมมาดำเนินคดี เนื่องจากกลุ่มคนดังกล่าวทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของจังหวัดภูเก็ต โดยวันนี้เวลา 14.00 น. จะเรียกประชุมชุดสืบสวนเพื่อลงพื้นที่หาตัวกลุ่มบุคคลที่ใช้สีสาดใส่รถของผู้เสียหายต่อไป
วันนี้ (17 พ.ค.) ผู้สื่อรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 เม.ย.61 ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กแฟนเพจแหม่มโพธิ์ดำ มีการโพสต์ภาพนิ่ง จำนวน 3 ภาพ พร้อมระบุข้อความ ควันหลงสงกรานต์ รถเราเพิ่งไปทำสีมา พอวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา เรากับแฟนขับรถไปเล่นน้ำที่หาดในยาง จ.ภูเก็ต ก็มีสาดน้ำ สาดสีก็คิดว่าสีที่สาดใส่รถเป็นสีผสมอาหารตามปกติ แต่ตอนเย็นกลับมาเปิดเจอในเพจคนภูเก็ต มีคนไปเล่นน้ำที่นั่นแล้วเจอมือดีเอา #สีทาบ้านมาสาดรถโดนกันหลายคนด้วย
เราสองคนรีบไปดูรถโดนเหมือนกันค่ะตรงกระจกฝั่งคนนั่งด้านข้างคนขับ กับตัวรถด้านเดียวกันลองเอามือลูบดู คือ ไม่ออกเลยติดเป็นก้อนแน่นมาก ตอนนี้หาร้านคาร์แคร์ที่สามารถเอาสีทาบ้านออกโดยไม่กระทบต่อสีรถได้แล้วค่ะ อยากเอามาแบ่งปันให้เห็นความสนุกเกินขอบเขตของคนบางกลุ่ม ความสนุก ความไม่ยับยั้งชั่งใจ หรืออะไรก็แล้วแต่ของพวกเขา มันสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นค่ะ สุดท้าย สวัสดีปีใหม่ไทยทุกคนนะคะ รตน Cr. สายลับโพธิ์ดำ หลังจากมีการโพสต์ข้อความและภาพดังกล่าว มีคนแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก และบางคนยังเอาภาพรถที่โดนลักษณะดังกล่าวมาให้ดูเช่นกัน และมีการแชร์เป็นจำนวนมาก
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง พ.ต.อ.กิติพงษ์ คล้ายแก้ว ผกก.สภ.สาคู กล่าวว่า ขณะนี้ได้มีผู้เสียหายประมาณ 3 ราย เดินทางมาแจ้งความไว้เป็นหลักฐานต่อทาง พนักงานสอบสวน สภ.สาคู แล้ว ประกอบด้วย รายแรก นายธนโชติ เอี่ยวศิริ อายุ 40 ปี มาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.สาคู เมื่อวันที่ 15 เม.ย.2561 เวลาประมาณ 09.32 น. ว่า เมื่อวันที่ 13 เม.ย.61 ตนได้ขับรถแท็กซี่ป้ายเขียว หมายเลขทะเบียน 1864 ภูเก็ต เป็นรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รับผู้โดยสารมาจากสถานีขนส่งภูเก็ต เพื่อมาส่งที่โรงแรมแห่งหนึ่งที่หาดในยาง ซึ่งก่อนถึงโรงแรมประมาณ 50 เมตร มีกลุ่มผู้ชายยืนเล่นน้ำอยู่บริเวณนั้นได้สาดน้ำเข้ามาที่รถของตนที่บริเวณกระจกหน้ารถ ตนได้เปิดที่ปัดน้ำฝนเพื่อชำระคราบหน้ารถ แต่ไม่สามารถล้างออกได้ ซึ่งน้ำที่สาดมานั้นเป็นน้ำผสมสีอะคริลิก ตนจึงเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนรายที่ 2 คือ นายสรายุทธ นาวีว่อง อายุ 35 ปี มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.สาคู เมื่อวันที่ 15 เม.ย.2561 เวลาประมาณ 09.50 น. แจ้งว่า เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2561 เวลาประมาณ 15.00 น. ตนได้เดินทางโดยรถยนต์โตโยต้า ยาริส สีขาว ทะเบียน กต 3604 กระบี่ เมื่อมาถึงบริเวณถนนเลียบหาดในยาง ขณะที่ขับรถผ่านบริเวณหน้าโรงแรมแห่งหนึ่งภูเก็ต ถูกคนที่เล่นน้ำสงกรานต์บริเวณนั้น สาดสีใส่จนไม่สามารถล้างออกได้ จึงได้มาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน
และรายที่ 3 คือ นายมนตรี จุนพิสิทธิ์ อายุ 33 ปี มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.สาคู เมื่อวันที่ 16 เม.ย.2561 เวลาประมาณ 10.29 น. ว่า ตนได้เดินทางมาเล่นน้ำที่หน้าหาดในยาง โดยมาทางวัดในยาง เมื่อถึงบริเวณตลาดนัดในยาง มีกลุ่มชายยืนเล่นน้ำอยู่บริเวณนั้นได้สาดน้ำเข้ามาที่รถของตนด้านหน้าข้างซ้ายของตัวรถ โดยเป็นรถยนต์โตโยต้า หมายเลขทะเบียน บฉ 2037 พังงา ซึ่งน้ำที่สาดมานั้นเป็นน้ำผสมสีอะคริลิด ทำให้ไม่สามารถล้างออกได้ จึงเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ไว้เป็นหลักฐาน
พ.ต.อ.กิติพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า หลังจากที่ตนได้รับรายงานจากพนักงานสอบสวนจึงได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้เคียงที่เกิดเหตุทันที เพื่อที่จะติดตามจับกุมมาดำเนินคดี เนื่องจากกลุ่มคนดังกล่าวทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของจังหวัดภูเก็ต โดยวันนี้เวลา 14.00 น. จะเรียกประชุมชุดสืบสวนเพื่อลงพื้นที่หาตัวกลุ่มบุคคลที่ใช้สีสาดใส่รถของผู้เสียหายต่อไป