พังงา - แชร์ภาพวอนช่วยเหลือเด็กวัย 12 ปี ประสบเหตุเรือสปีดโบ๊ตชมเกาะสิมิลันระเบิดที่ท่าเรือทับละมุ ถูกไฟไหม้ต้องพักฟื้นร่างกายอยู่ในห้องปลอดเชื้อ ครอบครัวเดือดร้อนไม่มีเงินรักษา ประกันไม่คุ้มครอง เพราะไม่ใช่พนักงานบริษัท
จากเหตุเรือสปีดโบ๊ตนำเที่ยวหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา เกิดระเบิดที่บริเวณเครื่องยนต์ท้ายเรือ ขณะกัปตันเรือจอดซ่อมอยู่ที่ท่าเทียบเรือทับละมุ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เมื่อช่วงเช้าวันที่ 11 เม.ย.61 ทำให้เกิดไฟใหม้ ลุกลามไปยังเรือลำที่จอดติดกัน มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย ถูกนำส่งโรงพยาบาล ได้แก่ นายณัฐพงศ์ เครือจันทร์ อายุ 40 ปี กัปตันเรือต้องพักฟื้นร่างกายอยู่ในห้อง ICU ด.ช.อภิรักษ์ แดงคุณ อายุ 12 ปี ขณะนี้อยู่ในห้องปลอดเชื้อ ส่วนชายชาวพม่ากลับบ้านเป็นที่เรียบร้อย
ล่าสุด วานนี้ (16 เม.ย) ผู้ที่ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Kongkrit Nai Thongkhao ได้โพสต์ข้อความว่า ฝากบอกบุญทุกๆ คน ลูกชายเพื่อนที่ทำงาน ด.ช.อภิรักษ์ แดงกุล น้องบิ๊ก อายุ 12 ขวบ ประสบเหตุเรือสปีดโบ๊ตระเบิดที่ทับละมุ เมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมา อาการหนักมาก ครอบครัวเขาเดือดร้อนเงินค่ารักษา ใครพอมีกำลังทรัพย์คนละนิดคนละหน่อยโอนเข้าบัญชีแม่น้องเขาได้ (ธ.กรุงเทพ) รับบุญกันถ้วนหน้านะคับ คนไทยไม่ทิ้งกัน (ปกติน้องอยู่จังหวัดสตูล น้าชายน้องเขาทำงานบนเรือ น้องขอไปเที่ยวด้วย เมื่อเกิดเหตุขึ้น ความคุ้มครองของประกันไม่รองรับ เนื่องจากน้องไม่ใช่พนักงาน หรือลูกค้าของบริษัท
ซึ่งทำให้ผู้ที่อยู่ในโลกออนไลน์ได้ทำการแชร์ข้อความดังกล่าวไปเกือบ 700 ครั้ง มีการแสดงความคิดเห็นกว่า 150 ความคิดเห็น และมีการแสดงสัญลักษณ์ทางอารมณ์อีกกว่า 1,400 ครั้ง นอกจากนั้น ยังพบว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊กจำนวนมากเกิดความสงสารเด็กชายคนดังกล่าว ได้ทำการโอนเงินตั้งแต่ 100 บาท ไปจนถึงหลายร้อยบาทเพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาล ผ่านบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาโคกกลอย เลขที่ 400-032687-8 น.ส.สุกัญญา แดงกุล ซึ่งเป็นแม่ของเด็กชายคนดังกล่าว เพื่อนำเงินไปจ่ายเป็นค่ารักษาให้แก่โรงพยาบาล และเป็นค่าใช้จ่ายในการค่ารักษาตัวต่อไป
ด้าน น.ส.อุมากร แพใหญ่ กำนันตำบลลำแก่น เปิดเผยว่า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นได้มีการติดตามความคืบหน้าทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นด้านคดี หรือการรักษาพยาบาลของผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 ราย โดยพบว่า ขณะนี้ชายชาวพม่า แพทย์อนุญาตให้กลับมารักษาตัวต่อที่บ้านได้ ส่วน นายณัฐพงศ์ เครือจันทร์ กัปตันเรือ ทีมแพทย์ได้ทำการรักษาแผลพุพองที่เกิดจากไฟลวก ขณะนี้ยังคงต้องพักรักษาตัวอยู่ในห้อง ICU และไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าเยี่ยม ส่วน ด.ช.อภิรักษ์ แดงกุล ซึ่งอยู่ขณะใช้ช่วงเวลาปิดเทอมกลับมาอยู่กับแม่ ทีมแพทย์ก็ได้รักษาแผลพุพองที่เกิดจากการถูกไฟไหม้เช่นกัน ซึ่งขณะนี้แพทย์ได้ย้ายมาอยู่ที่ห้องปลอดเชื้อ และไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าเยี่ยมเช่นกัน
ส่วนความคืบหน้าในส่วนของคดี ขณะนี้อยู่ในระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการเรียกตัวเจ้าของเรือเข้ามาสอบสวน ซึ่งตนเองได้พยายามเร่งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการในส่วนนี้โดยเร็วเพื่อที่จะมีข้อสรุปเบื้องต้นในเรื่องของการรักษาพยาบาลผู้ที่ประสบเหตุ ส่วนสาเหตุของการระเบิดจะต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานสรุปผลร่วมกับเจ้าท่าอีกครั้ง
จากเหตุเรือสปีดโบ๊ตนำเที่ยวหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา เกิดระเบิดที่บริเวณเครื่องยนต์ท้ายเรือ ขณะกัปตันเรือจอดซ่อมอยู่ที่ท่าเทียบเรือทับละมุ ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา เมื่อช่วงเช้าวันที่ 11 เม.ย.61 ทำให้เกิดไฟใหม้ ลุกลามไปยังเรือลำที่จอดติดกัน มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย ถูกนำส่งโรงพยาบาล ได้แก่ นายณัฐพงศ์ เครือจันทร์ อายุ 40 ปี กัปตันเรือต้องพักฟื้นร่างกายอยู่ในห้อง ICU ด.ช.อภิรักษ์ แดงคุณ อายุ 12 ปี ขณะนี้อยู่ในห้องปลอดเชื้อ ส่วนชายชาวพม่ากลับบ้านเป็นที่เรียบร้อย
ล่าสุด วานนี้ (16 เม.ย) ผู้ที่ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Kongkrit Nai Thongkhao ได้โพสต์ข้อความว่า ฝากบอกบุญทุกๆ คน ลูกชายเพื่อนที่ทำงาน ด.ช.อภิรักษ์ แดงกุล น้องบิ๊ก อายุ 12 ขวบ ประสบเหตุเรือสปีดโบ๊ตระเบิดที่ทับละมุ เมื่อวันที่ 11 เมษายน ที่ผ่านมา อาการหนักมาก ครอบครัวเขาเดือดร้อนเงินค่ารักษา ใครพอมีกำลังทรัพย์คนละนิดคนละหน่อยโอนเข้าบัญชีแม่น้องเขาได้ (ธ.กรุงเทพ) รับบุญกันถ้วนหน้านะคับ คนไทยไม่ทิ้งกัน (ปกติน้องอยู่จังหวัดสตูล น้าชายน้องเขาทำงานบนเรือ น้องขอไปเที่ยวด้วย เมื่อเกิดเหตุขึ้น ความคุ้มครองของประกันไม่รองรับ เนื่องจากน้องไม่ใช่พนักงาน หรือลูกค้าของบริษัท
ซึ่งทำให้ผู้ที่อยู่ในโลกออนไลน์ได้ทำการแชร์ข้อความดังกล่าวไปเกือบ 700 ครั้ง มีการแสดงความคิดเห็นกว่า 150 ความคิดเห็น และมีการแสดงสัญลักษณ์ทางอารมณ์อีกกว่า 1,400 ครั้ง นอกจากนั้น ยังพบว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊กจำนวนมากเกิดความสงสารเด็กชายคนดังกล่าว ได้ทำการโอนเงินตั้งแต่ 100 บาท ไปจนถึงหลายร้อยบาทเพื่อเป็นค่ารักษาพยาบาล ผ่านบัญชีธนาคารกรุงเทพ สาขาโคกกลอย เลขที่ 400-032687-8 น.ส.สุกัญญา แดงกุล ซึ่งเป็นแม่ของเด็กชายคนดังกล่าว เพื่อนำเงินไปจ่ายเป็นค่ารักษาให้แก่โรงพยาบาล และเป็นค่าใช้จ่ายในการค่ารักษาตัวต่อไป
ด้าน น.ส.อุมากร แพใหญ่ กำนันตำบลลำแก่น เปิดเผยว่า หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นได้มีการติดตามความคืบหน้าทุกวัน ไม่ว่าจะเป็นด้านคดี หรือการรักษาพยาบาลของผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 ราย โดยพบว่า ขณะนี้ชายชาวพม่า แพทย์อนุญาตให้กลับมารักษาตัวต่อที่บ้านได้ ส่วน นายณัฐพงศ์ เครือจันทร์ กัปตันเรือ ทีมแพทย์ได้ทำการรักษาแผลพุพองที่เกิดจากไฟลวก ขณะนี้ยังคงต้องพักรักษาตัวอยู่ในห้อง ICU และไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าเยี่ยม ส่วน ด.ช.อภิรักษ์ แดงกุล ซึ่งอยู่ขณะใช้ช่วงเวลาปิดเทอมกลับมาอยู่กับแม่ ทีมแพทย์ก็ได้รักษาแผลพุพองที่เกิดจากการถูกไฟไหม้เช่นกัน ซึ่งขณะนี้แพทย์ได้ย้ายมาอยู่ที่ห้องปลอดเชื้อ และไม่อนุญาตให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าเยี่ยมเช่นกัน
ส่วนความคืบหน้าในส่วนของคดี ขณะนี้อยู่ในระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการเรียกตัวเจ้าของเรือเข้ามาสอบสวน ซึ่งตนเองได้พยายามเร่งให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการในส่วนนี้โดยเร็วเพื่อที่จะมีข้อสรุปเบื้องต้นในเรื่องของการรักษาพยาบาลผู้ที่ประสบเหตุ ส่วนสาเหตุของการระเบิดจะต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานสรุปผลร่วมกับเจ้าท่าอีกครั้ง