พังงา - “รองผู้การโจ๊ก “นำกำลังตรวจยืดท่าเทียบเรือท่องเที่ยว 4 แห่ง บุกรุกพื้นที่ป่า ที่พังงา ย้ำจัดการเด็ดขาดนอมินีต่างชาติ งัดทุกกฎหมายมาใช้ ประกาศถึงเวลาคนไทยต้องมีที่ยืน
วันที่ (10 เ.ย.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สนธิกำลังลงพื้นที่ป่าสงวนป่าคลองทุ่งมะพร้าว เพื่อตรวจยึดท่าเทียบเรือท่องเที่ยว หลังจากมีการร้องเรียนว่า มีท่าเรือเป็นจำนวนมากสร้างบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองทุ่งมะพร้าว ซึ่งได้มีการเข้าตรวจสอบท่าเทียบเรือ จำนวน 4 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.3 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา
โดยเบื้องต้น ขณะเจ้าของที่ดินกำลังนำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่ พบไกด์นำเที่ยว จำนวน 3 ราย ที่ไม่มีใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ จึงให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำการแจ้งข้อกล่าวหา ส่วนการตรวจสอบพื้นที่ยังพบมีการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก มีส่วนที่เป็นท่าเทียบเรือ และทางเดินผู้โดยสารยื่นออกไปในแม่น้ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดเพื่อทำการตรวจสอบเอกสารของเจ้าของที่ดินว่าถูกต้องหรือไม่ ก่อนจะดำเนินคดี
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล กล่าวว่า ในวันนี้เป็นการตรวจสอบร่วมกัน ในส่วนของเจ้าท่า อุทยานแห่งชาติ ป่าไม้ จังหวัดพังงา และตำรวจภูธรจังหวัดพังงา ซึ่งเป็นการลงพื้นที่ตรวจสอบการบุกรุกแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ซึ่งพบว่า ปัจจุบันประเทศไทยเรามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาหลากหลายโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญจะต้องไม่มีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงสงวน ไม่มีการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ไม่มีการเอารัดเอาเปรียบพื้นที่ของแผ่นดินไทย หากมีการทำธุรกิจการท่องเที่ยวไม่เป็นไร มิได้คัดค้านการท่องเที่ยวจนทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวสูญเสียไป
ในส่วนของการส่งเสริมการท่องเที่ยวรัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับกำกับอยู่แล้วว่าการท่องเที่ยวไทยจะต้องเป็นไปอย่างยั่งยืน และการเข้ามาทำกินในผืนแผ่นดินไทยจะต้องไม่มีการลุกล้ำพื้นที่ที่เป็นสาธารณประโยชน์เพื่อจะให้คนไทยมีที่ยืน
สำหรับการตรวจยึดเบื้องต้นในส่วนการรุกกล้ำพื้นที่พบว่า ในจุดที่ยืนมีการรุกล้ำประมาณ 5 ไร่เศษ ส่วนความชัดเจนจะต้องมีการประชุมร่วมกันในส่วนของกรมป่าไม้ กรมอุทยาน เจ้าท่า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อได้ร่วมกันทำงาน และให้ความเป็นธรรมต่อทุกส่วน และขอย้ำว่าใครที่เป็นนอมินีให้แก่นายทุนต่างชาติต้องเลิกทั้งหมด
หากยังไม่เลิกจะมีการดำเนินคดีทั้งในส่วนของการฟอกเงิน ยึดทรัพย์ ซึ่งมีข้อมูลอยู่ในมือทั้งหมดแล้ว การเป็นนอมินีข้ามชาติทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวไม่เข้าประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป การท่องเที่ยวจะต้องยั่งยืน คนไทยจะต้องมีที่ยืน รวมทั้งจะต้องเป็นการทำรายได้เข้าสู่ประเทศอย่างแท้จริง ซึ่งวันนี้ก็ถือเป็นการเตือนสำหรับนอมินี หากเคยเป็นให้หยุดซะ
วันที่ (10 เ.ย.) พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว สนธิกำลังลงพื้นที่ป่าสงวนป่าคลองทุ่งมะพร้าว เพื่อตรวจยึดท่าเทียบเรือท่องเที่ยว หลังจากมีการร้องเรียนว่า มีท่าเรือเป็นจำนวนมากสร้างบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองทุ่งมะพร้าว ซึ่งได้มีการเข้าตรวจสอบท่าเทียบเรือ จำนวน 4 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ ม.3 ต.ลำแก่น อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา
โดยเบื้องต้น ขณะเจ้าของที่ดินกำลังนำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่ พบไกด์นำเที่ยว จำนวน 3 ราย ที่ไม่มีใบอนุญาตเป็นมัคคุเทศก์ จึงให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทำการแจ้งข้อกล่าวหา ส่วนการตรวจสอบพื้นที่ยังพบมีการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก มีส่วนที่เป็นท่าเทียบเรือ และทางเดินผู้โดยสารยื่นออกไปในแม่น้ำ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจยึดเพื่อทำการตรวจสอบเอกสารของเจ้าของที่ดินว่าถูกต้องหรือไม่ ก่อนจะดำเนินคดี
พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล กล่าวว่า ในวันนี้เป็นการตรวจสอบร่วมกัน ในส่วนของเจ้าท่า อุทยานแห่งชาติ ป่าไม้ จังหวัดพังงา และตำรวจภูธรจังหวัดพังงา ซึ่งเป็นการลงพื้นที่ตรวจสอบการบุกรุกแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ซึ่งพบว่า ปัจจุบันประเทศไทยเรามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาหลากหลายโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญจะต้องไม่มีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงสงวน ไม่มีการเอารัดเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ไม่มีการเอารัดเอาเปรียบพื้นที่ของแผ่นดินไทย หากมีการทำธุรกิจการท่องเที่ยวไม่เป็นไร มิได้คัดค้านการท่องเที่ยวจนทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวสูญเสียไป
ในส่วนของการส่งเสริมการท่องเที่ยวรัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับกำกับอยู่แล้วว่าการท่องเที่ยวไทยจะต้องเป็นไปอย่างยั่งยืน และการเข้ามาทำกินในผืนแผ่นดินไทยจะต้องไม่มีการลุกล้ำพื้นที่ที่เป็นสาธารณประโยชน์เพื่อจะให้คนไทยมีที่ยืน
สำหรับการตรวจยึดเบื้องต้นในส่วนการรุกกล้ำพื้นที่พบว่า ในจุดที่ยืนมีการรุกล้ำประมาณ 5 ไร่เศษ ส่วนความชัดเจนจะต้องมีการประชุมร่วมกันในส่วนของกรมป่าไม้ กรมอุทยาน เจ้าท่า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อได้ร่วมกันทำงาน และให้ความเป็นธรรมต่อทุกส่วน และขอย้ำว่าใครที่เป็นนอมินีให้แก่นายทุนต่างชาติต้องเลิกทั้งหมด
หากยังไม่เลิกจะมีการดำเนินคดีทั้งในส่วนของการฟอกเงิน ยึดทรัพย์ ซึ่งมีข้อมูลอยู่ในมือทั้งหมดแล้ว การเป็นนอมินีข้ามชาติทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวไม่เข้าประเทศ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป การท่องเที่ยวจะต้องยั่งยืน คนไทยจะต้องมีที่ยืน รวมทั้งจะต้องเป็นการทำรายได้เข้าสู่ประเทศอย่างแท้จริง ซึ่งวันนี้ก็ถือเป็นการเตือนสำหรับนอมินี หากเคยเป็นให้หยุดซะ