ศูนย์ข่าวภูเก็ต - คนร้ายเหิมเปิดหลังคาร้านขายโทรศัพท์มือถือพังฝ้าเพดานลงมาขโมยโทรศัพท์มือถือทั้งเครื่องใหม่ และเครื่องรับจำนำไปประมาณ 70 เครื่อง เงินสดกว่า 7,000 บาท ก่อนยกเครื่องบันทึกกล้องวงจรปิดหลบหนีไป นอกจากนั้น ยังใช้ผ้าเช็ดเท้าปิดกล้องที่หน้าร้าน แต่คนร้ายทำหมวกไหมพรมตกอยู่ 1 ใบ
วันนี้ (10 เม.ย.) เมื่อเวลา 08.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า มีเหตุลักทรัพย์ภายในร้านขายโทรศัพท์มือถือ ชื่อว่า NO.1 เลขที่ 68/297 ซอย เคหะรัษฎา ม.7 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังจากรับแจ้ง ร.ต.ท.สุนันท์ เพชรหนู รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลรัษฎา
ที่เกิดเหตุร้านดังกล่าวอยู่ริมถนนภายในซอย เห็นประชาชนมุงดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก พบ น.ส. ZHOU YAN อายุ 36 ปี สัญชาติจีน ซึ่งเป็นเจ้าของร้านยืนอยู่ในอาการตื่นตระหนกตกใจ เห็นภายในร้านบนหลังคามีกระเบื้องเปิดอยู่ 1 แผ่น และด้านล่างพบว่าฝ้าเพดานพังตกลงมากระจัดกระจายเกลื่อนพื้น พบที่ตู้กระจกตู้แรกภายในชั้นวางมีโทรศัพท์มือถือยี่ห้อต่างๆ เครื่องใหม่หายไปหลายเครื่อง และที่ชั้นล่างของตู้ยังมีโทรศัพท์ที่รับจำนำไว้หายไป จำนวน 2 ตะกร้า และมีสมุดจดรับจำนำหายไปเช่นกัน นอกจากนั้น บนพื้นที่หลังตู้คนร้ายได้นำผ้าขนหนู และเสื้อมาวางรองโทรศัพท์ ห่างออกไปเล็กน้อยที่โต๊ะเก็บเงิน คนร้ายได้รื้อค้นเอาเงินสด และเหรียญไป และที่ชั้นวางของคนร้ายยังได้เอาเครื่องบันทึกกล้องวงจรของร้านไปอีกด้วย
โดยคนร้ายได้หมุนกล้องวงจรปิดที่อยู่ภายในร้าน จำนวน 2 ตัว หันขึ้นบนฝ้าเพดาน ส่วนกล้องวงจรปิดที่อยู่หน้าร้านตัวแรกคนร้ายได้ใช้ผ้าชิดเท้าปิดหน้ากล้องไว้ ส่วนอีก 1 ตัว คนร้ายได้หมุนขึ้นบนหลังคา นอกจากนั้น คนร้ายได้ทำหมวกไหมพรมตกอยู่บนโต๊ะกระจกอยู่ 1 ใบ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ได้ลงพื้นที่เก็บรายละเอียดต่างๆ และลายนิ้วมือแฝงไว้เป็นหลักฐานแล้ว
จากการสอบถาม น.ส. ZHOU YAN อายุ 36 ปี สัญชาติจีน ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ปิดร้านประมาณ 20.30 น. ของวันที่ 9 เม.ย.61 ตามปกติโดยปิดประตูหน้าร้านเป็นอย่างดี จากนั้นได้กลับบ้านพักที่ย่านสามกอง และเมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. วันนี้ (10เม.ย.) แม่บ้านซึ่งเป็นลูกน้องชาวพม่าได้มาเปิดร้านตามปกติ แต่เมื่อเปิดประตูร้านปรากฏว่า เห็นว่าฝ้าเพดานพังลงมา และเห็นโทรศัพท์มือถือที่วางขายหายไป จึงได้โทรศัพท์มาบอกตน ตนจึงได้รีบมาที่ร้าน เมื่อมาถึงเห็นตกใจเป็นอย่างมาก และพบว่าภายในตู้กระจกโทรศัพท์ได้หายไปหลายเครื่อง โดยในเบื้องต้น โทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ยี่ห้อ vivo ยี่ห้อ ooppo ยี่ห้อ huawei และยี่ห้อซัมซุง และยี่ห้ออื่นๆ ประมาณ 40 เครื่อง ราคาตั้งแต่ 4,000-12,000 บาท
นอกจากนั้น ยังมีโทรศัพท์มือถือที่ลูกค้ามาจำนำกับทางร้านประมาณ 30 เครื่อง มียี่ห้อต่างๆ ได้หายไป และเงินสดอีกประมาณ 7,000 บาท แต่ภายในร้านยังมีโทรศัพท์มือถือรุ่นต่างๆ อีกหลายเครื่อง และอุปกรณ์ต่างๆ คนร้ายไม่ได้ขโมยไปเนื่องจากราคาขายน้อยจึงไม่เอาไป โดยคนร้ายได้เอาผ้าปูที่นอนของลูกห่อโทรศัพท์มือถือแล้วหลบหนีออกไปทางฝ้าเพดาน และคิดว่าคนร้ายน่าจะปืนขึ้นทางข้างร้านแล้วเปิดหลังคาบ้านจากนั้นพังฝ้าเพดานลงมาขโมยดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายน่าจะเตรียมการมาปิดอย่างดี และรู้เวลาที่ร้านปิด และรู้ว่าไม่ใครพักอยู่ภายในร้านจึงตัดสินใจก่อเหตุ ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้อวงจรปิดใกล้เคียงที่เกิดเหตุเพื่อเร่งไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด
วันนี้ (10 เม.ย.) เมื่อเวลา 08.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งว่า มีเหตุลักทรัพย์ภายในร้านขายโทรศัพท์มือถือ ชื่อว่า NO.1 เลขที่ 68/297 ซอย เคหะรัษฎา ม.7 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ขอให้เดินทางไปตรวจสอบด้วย หลังจากรับแจ้ง ร.ต.ท.สุนันท์ เพชรหนู รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลรัษฎา
ที่เกิดเหตุร้านดังกล่าวอยู่ริมถนนภายในซอย เห็นประชาชนมุงดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก พบ น.ส. ZHOU YAN อายุ 36 ปี สัญชาติจีน ซึ่งเป็นเจ้าของร้านยืนอยู่ในอาการตื่นตระหนกตกใจ เห็นภายในร้านบนหลังคามีกระเบื้องเปิดอยู่ 1 แผ่น และด้านล่างพบว่าฝ้าเพดานพังตกลงมากระจัดกระจายเกลื่อนพื้น พบที่ตู้กระจกตู้แรกภายในชั้นวางมีโทรศัพท์มือถือยี่ห้อต่างๆ เครื่องใหม่หายไปหลายเครื่อง และที่ชั้นล่างของตู้ยังมีโทรศัพท์ที่รับจำนำไว้หายไป จำนวน 2 ตะกร้า และมีสมุดจดรับจำนำหายไปเช่นกัน นอกจากนั้น บนพื้นที่หลังตู้คนร้ายได้นำผ้าขนหนู และเสื้อมาวางรองโทรศัพท์ ห่างออกไปเล็กน้อยที่โต๊ะเก็บเงิน คนร้ายได้รื้อค้นเอาเงินสด และเหรียญไป และที่ชั้นวางของคนร้ายยังได้เอาเครื่องบันทึกกล้องวงจรของร้านไปอีกด้วย
โดยคนร้ายได้หมุนกล้องวงจรปิดที่อยู่ภายในร้าน จำนวน 2 ตัว หันขึ้นบนฝ้าเพดาน ส่วนกล้องวงจรปิดที่อยู่หน้าร้านตัวแรกคนร้ายได้ใช้ผ้าชิดเท้าปิดหน้ากล้องไว้ ส่วนอีก 1 ตัว คนร้ายได้หมุนขึ้นบนหลังคา นอกจากนั้น คนร้ายได้ทำหมวกไหมพรมตกอยู่บนโต๊ะกระจกอยู่ 1 ใบ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ได้ลงพื้นที่เก็บรายละเอียดต่างๆ และลายนิ้วมือแฝงไว้เป็นหลักฐานแล้ว
จากการสอบถาม น.ส. ZHOU YAN อายุ 36 ปี สัญชาติจีน ซึ่งเป็นเจ้าของร้าน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ปิดร้านประมาณ 20.30 น. ของวันที่ 9 เม.ย.61 ตามปกติโดยปิดประตูหน้าร้านเป็นอย่างดี จากนั้นได้กลับบ้านพักที่ย่านสามกอง และเมื่อเวลาประมาณ 08.20 น. วันนี้ (10เม.ย.) แม่บ้านซึ่งเป็นลูกน้องชาวพม่าได้มาเปิดร้านตามปกติ แต่เมื่อเปิดประตูร้านปรากฏว่า เห็นว่าฝ้าเพดานพังลงมา และเห็นโทรศัพท์มือถือที่วางขายหายไป จึงได้โทรศัพท์มาบอกตน ตนจึงได้รีบมาที่ร้าน เมื่อมาถึงเห็นตกใจเป็นอย่างมาก และพบว่าภายในตู้กระจกโทรศัพท์ได้หายไปหลายเครื่อง โดยในเบื้องต้น โทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ยี่ห้อ vivo ยี่ห้อ ooppo ยี่ห้อ huawei และยี่ห้อซัมซุง และยี่ห้ออื่นๆ ประมาณ 40 เครื่อง ราคาตั้งแต่ 4,000-12,000 บาท
นอกจากนั้น ยังมีโทรศัพท์มือถือที่ลูกค้ามาจำนำกับทางร้านประมาณ 30 เครื่อง มียี่ห้อต่างๆ ได้หายไป และเงินสดอีกประมาณ 7,000 บาท แต่ภายในร้านยังมีโทรศัพท์มือถือรุ่นต่างๆ อีกหลายเครื่อง และอุปกรณ์ต่างๆ คนร้ายไม่ได้ขโมยไปเนื่องจากราคาขายน้อยจึงไม่เอาไป โดยคนร้ายได้เอาผ้าปูที่นอนของลูกห่อโทรศัพท์มือถือแล้วหลบหนีออกไปทางฝ้าเพดาน และคิดว่าคนร้ายน่าจะปืนขึ้นทางข้างร้านแล้วเปิดหลังคาบ้านจากนั้นพังฝ้าเพดานลงมาขโมยดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายน่าจะเตรียมการมาปิดอย่างดี และรู้เวลาที่ร้านปิด และรู้ว่าไม่ใครพักอยู่ภายในร้านจึงตัดสินใจก่อเหตุ ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้อวงจรปิดใกล้เคียงที่เกิดเหตุเพื่อเร่งไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด