นราธิวาส - ตื่นตาตื่นใจกับต้นกะพงยักษ์ ที่มีขนาดลำต้น 27 คนโอบ สูงกว่า 30 เมตร และมีอายุมากกว่า 100 ปี ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลาบาลา ม.2 ต.ภูเขาทอง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส อีกทั้งยังประกาศให้เป็น “รุกข มรดกของแผ่นดิน ใต้ร่มพระบารมี”
วันนี้ (28 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับต้นสมพง หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ต้นกะพงยักษ์ ที่อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลาบาลา ม.2 ต.ภูเขาทอง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ซึ่งห่างจากถนนหน้าหน่วยพิทักษ์ภูเขาทอง ซึ่งเป็นหน่วยย่อยของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลาบาลา เพียง 100 เมตร ต้นกะพงยักษ์ต้นดังกล่าวถือเป็นไม้หวงห้ามยืนต้นขนาดใหญ่ และต้องเดินทางด้วยเท้าลัดเลาะไปตามโขดหินข้างลำห้วย ที่มีสภาพลงเนินและสูงชันสลับกันไป
ซึ่ง 2 ฟากฝั่งที่เดินเท้ามุ่งไปสู่ต้นสมพง หรือ ต้นกะพงยักษ์ จะปกคลุมไปด้วยป่าดงดิบที่สมบูรณ์ ซึ่งมีพันธุ์ไม้นานาชนิดขึ้นเขียวขจี โดยใช้เวลาเดินเท้าเข้าไปไกล 200 เมตร หรือ ประมาณ 15 นาทีก่อนที่จะพบต้นสมพง หรือต้นกะพงยักษ์ จะต้องเดินข้ามสะพานที่ใช้ต้นไม้ 2 ต้นขนาดใหญ่ยึดประกบติดกัน โดยใต้สะพานดังกล่าวจะมีน้ำในห้วยไหลผ่านโขดหิน เมื่อข้ามสะพานไปแล้วจะเห็นต้นสมพง หรือ ต้นกะพงยักษ์ ขึ้นตะหง่านอยู่เห็นได้อย่างเด่นชัด
โดยลักษณะเปลือกจะเรียบมันสีออกน้ำตาลแกมเทา ซึ่งมีขนาดเส้นรอบวงของลำต้น ประมาณ 25 เมตร สูง 30 เมตร หรือ ถ้าใช้คนจับมือแล้วยืนล้อมลำต้นโดยรอบ ต้องใช้คนประมาณ 27 คนโอบ และขณะเดินทางเข้าไปเพื่อพิสูจน์ต้นสมพง หรือ ต้นกะพงยักษ์นั้น ก็ได้พบกับนักท่องเที่ยวชายหญิงและเด็กกลุ่มหนึ่ง กำลังยืนจับมือโอบล้อมรอบลำต้นอยู่ โดยมีก้อนหินขนาดใหญ่ จำนวน 3 ก้อน อยู่บริเวณหน้าโคนต้นสมพง หรือ กะพงยักษ์ โดยเขียนข้อความเป็นภาษาไทย ด้วยสีขาวว่า ต้นกะพง พร้อมกับได้สลับกันถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก และส่งเสียงเฮฮาด้วยความตื้นตันใจ ที่ครั้งหนึ่งเมื่อมีโอกาสมาเยียน อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ได้ถ่ายรูปกับต้นสมพง หรือ ต้นกะพงยักษ์ ที่น้อยคนจะได้เห็น
ส่วนต้นสมพง หรือ ต้นกะพงยักษ์ ต้นนี้ ค้นพบครั้งแรก เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2543 เมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้เสด็จเยี่ยมราษฎร ต.ภูเขาทอง อ.สุคิริน ซึ่งทางกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ได้นำป้ายประกาศมาติดไว้ให้เป็น รุกข มรดกของแผ่นดิน ใต้ร่มพระบารมี