นราธิวาส - แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมคณะนั่งเฮลิคอปเตอร์บุกทลายเหมืองแร่ทองคำเถื่อน ในพื้นที่ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส รวบ 10 ผู้ต้องหานำสอบปากคำที่ฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 1112
วันนี้ (5 พ.ค.) พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาค 4 นั่งเฮลิคอปเตอร์เดินทางมายัง อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ได้ร่วมกับ พ.จ.ท.อนันต์ บุญสำราญ นายอำเภอสุคิริน พ.ท.ชัยวิชิต กิจนำชัย รอง ผบ.กรมทหารพรานที่ 11 และนายประสิทธิ์ ศรีพรหม ประจำ สนง.อุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เขต 1 จ.สงขลา พร้อมด้วยกำลัง 3 ฝ่าย บุกทลายเหมืองแร่เถื่อนในพื้นที่เชิงเขาบ้านไอร์ดีแย ม.3 ต.ร่มไทร อ.สุคิริน หลังจากชาวบ้านได้ร้องเรียนผ่าน สนง.อุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เขต 1 จ.สงขลา และศูนย์ดำรงธรรม จ.นราธิวาส โดยเจ้าหน้าที่ต้องนั่งรถยนต์จากตัวอำเภอสุคิริน ประมาณ 20 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวผ่านหมู่บ้านลัดเลาะไปตามถนนเชิงเขา ที่กลุ่มทำเหมืองแร่เถื่อนได้บุกเบิกทางไว้สำหรับสัญจรไปมา
และเมื่อถึงบริเวณพื้นที่ทำเหมืองแร่เถื่อน พบชาวบ้าน จำนวน 10 คน กำลังแยกย้ายกันควบคุมเครื่องแยกแร่ทองคำ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัว และควบคุมชาวบ้านทั้ง 10 คน ทำการสอบสวนในเบื้องต้น จนทราบว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นของ นายดุลรอมาน อัสนิ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66 ม.5 ต.ร่มไทร อ.สุคิริน จ.นราธิวาส ส่วนนายทุน คือ นายยามารูดิน การี อายุ 42 ปี และผู้ที่มีความเชี่ยวชาญมีประสบการณ์ในการดูแร่ทองคำ โดยผ่านงานจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นั่นคือ นายประสิทธิ์ อุณชาติ อายุ 49 ปี ส่วนอีก 7 คน เป็นชาวบ้าน และเยาวชนในหมู่บ้านไอร์ดีแย
จากการสอบถามถึงการเดินเครื่องคัดแยกแร่ทองคำ บุคคลทั้ง 3 ให้การตรงกันว่า เพิ่งประกอบเครื่องคัดแยกแร่ทองคำตอนต้นเดือนเมษายน 2560 ที่ผ่านมา และได้เดินเครื่องจริงจังเพียง 3 วันเท่านั้น จึงถูกเจ้าหน้าที่บุกจับกุม แต่เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากดู และประเมินที่บริเวณหน้างานพบว่า พื้นที่ดังกล่าวซึ่งเป็นร่องน้ำเดิมของแม่น้ำสายบุรี มีลักษณะคล้ายกับมีการบุกเบิกเดินเครื่องคัดแยกแร่ทองคำมาเป็นเวลานานพอสมควร เป็นเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ และลึก1.50 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แจ้งให้กลุ่มบุคคลทั้งหมดทราบว่า ในพื้นที่ จ.นราธิวาส ไม่มีการอนุญาตให้ผู้ประกอบการรายใดทำเหมืองแร่ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม นายดุลรอมาน อัสนิ เจ้าของที่ดินได้กล่าวต่อเจ้าหน้าที่ว่า ตนไม่คิดว่าเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เพราะถือว่าเป็นที่ดินของตนเองที่ทำลงไปโดยคิดว่าจะได้เงินในส่วนนี้นำมาเลี้ยงครอบครัว
เจ้าหน้าที่จึงได้ยึด และอายัดของกลางทั้งหมดไว้ พร้อมทั้งได้ควบคุมตัวบุคคลทั้ง 10 คน ไปสอบสวนปากคำที่ฐานปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 1112 อ.สุคิริน จ.นราธิวาส พร้อมทั้งได้จัดส่งตัวอย่างซึ่งเป็นก้อนหินกรวดเม็ดทรายมีส่วนผสมคล้ายๆ กับแร่ทองคำ ให้ทางมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ทำการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะแจ้งดำเนินคดีในข้อหาผิด พ.ร.บ.อุตสาหกรรม ด้วยการทำเหมืองและแต่งแร่ซึ่งได้มาโดยไม่ได้รับอนุญาต