กระบี่ - เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสอบปากคำพยาน เหตุคนร้ายลวนลามนักท่องเที่ยวสาวจีนจนประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บ ล่าสุด ได้เบาะแสคนร้ายแล้ว เป็นชายขับรถตามประกบผู้เสียหาย ก่อนใช้มือจับหน้าอกแล้วถ่ายเซลฟี่จนเหยื่อตกใจรถล้มกลางสามแยก และขับรถจากไป ขณะที่เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัว
จากกรณีได้มีการแชร์เรื่องราวในเฟซบุ๊กชื่อ เจ บุญเรือง เป็นเหตุการณ์เกี่ยวกับนักท่องเที่ยวสาวชาวจีนคนหนึ่ง อายุประมาณ 20 กว่าปี ถูกคนร้ายลวนลามขณะขับรถจักรยายนต์กลับจากท่องเที่ยวที่ท่าปอมคลองสองน้ำ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังเมืองกระบี่ จนได้รับบาดเจ็บ โดยมีภาพขาที่มีบาดแผลถลอกหลายแห่ง จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา บริเวณสามแยกบ้านหน้าหมี ม.1 ต.เขาทอง อ.เมืองกระบี่ ห่างจากท่าปอมคลองสองน้ำ ประมาณ 6 กม.
จากภาพในกล้องวงจรปิดเป็นภาพขณะรถที่หญิงสาวนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวขับมาเพียงลำพัง ได้เกิดไถลล้มเข้ามากลางสามแยก ซึ่งมีภาพเพียงมุมเดียว ขณะเดียวกัน ก็พบว่าเธอได้เดินมาที่รถพร้อมยกรถขึ้นมา และมีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาสอบถาม จากนั้นมีชาวบ้านที่ขับรถยนต์ผ่านมาลงมาช่วย แต่ไม่พบว่าหลังจากประสบอุบัติเหตุแล้วถูกลวนลามแต่อย่างใด
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัว น.ส.อัษฎาพร บุญเรือง อายุ 34 ปี ผู้ที่โพสต์เรื่องราวในเฟซบุ๊กดังกล่าว ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองกระบี่ มาให้ข้อมูล และชี้แจงทำความเข้าใจถึงเหตุการณ์ พร้อมให้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
น.ส.อัษฎาพร กล่าวว่า จากภาพวงจรปิดไม่ตรงกับที่นักท่องเที่ยวรายดังกล่าวเล่าให้ฟัง ตนอาจจะเข้าใจผิดระหว่างการสื่อสารเพราะตนไม่ถนัดภาษาจีน แต่ก็ไม่ทราบว่าก่อนที่รถมอเตอร์ไซค์จะล้มนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง ต้องเป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะสืบสวนหาสาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้น ขณะที่นักท่องเที่ยวรายนี้ได้เดินทางกลับประเทศแล้ว
อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลว่า ตำรวจท่องเที่ยวกระบี่ได้สอบถามข้อมูลจากล่ามภาษาจีนที่พูดคุยกับผู้เสียหายหลังเกิดเหตุ ได้ข้อมูลว่า คนร้ายที่ก่อเหตุมีคนเดียว ได้ขับรถตามหลังมาจนกระทั่งมาถึงบริเวณก่อนถึงสามแยก ได้ขับรถประกบแล้วพยายามถ่ายรูปแล้วเอามือจับหน้าอกผู้เสียหาย จนผู้เสียหายตกใจรถจักรยานยนต์จึงเกิดเสียหลักล้มลง และไถลไปกลางสามแยก ตามภาพในกล้องวงจรปิด ก่อนที่คนร้ายจะขับรถเลี้ยวไปอีกทางหนึ่ง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างติดตามตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
ขณะที่ นายธีระยุทธ ณ นคร ชาวจังหวัดพังงา เป็นพนักงานต้อนรับร้านอาหารวังทรายซีฟู้ด ในพื้นที่ ต.อ่าวนาง หนึ่งผู้ที่ให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวคนดังกล่าว กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะที่ตนเดินทางกลับมาจากบ้านที่จังหวัดพังงา เพื่อไปทำงานที่อ่าวนาง ซึ่งตอนเกิดเหตุได้ขับรถผ่านบริเวณดังกล่าว เป็นเส้นทางเปลี่ยวมีสวนปาล์มน้ำมันสองข้างทาง ไม่มีบ้านคนอยู่อาศัย
โดยก่อนที่ตนจะพบเหตุการณ์ พบว่า มีสองสามีภรรยาชาวไทยให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวรายดังกล่าว แต่สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง ตนจึงเข้าไปสอบถามแต่ก็พูดภาษจีนไม่ได้ จึงต้องใช้อุปกรณ์แปลภาษาช่วยจนได้ใจความว่า ถูกผู้ชายขับรถตามมาแล้วพยายามลวนลามจับหน้าอก และจะถ่ายรูป แล้วขับมอเตอร์ไซค์ปาดหน้าจนรถเสียหลัก และล้มลง แล้วพยายามที่จะลวนลามต่อ
นายธีระยุทธ กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นก็ได้ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวโดยได้ยกมอเตอร์ไซค์ขึ้นรถ กลับมาในพื้นที่อ่าวนาง พร้อมนำมอเตอร์ไซค์ไปคืนให้แก่ร้านเช่า โดยที่ทางร้านไม่ได้คิดค่าเสียหายของรถแต่อย่างใด เนื่องจากสงสารที่เกิดเหตุแก่นักท่องเที่ยวขึ้น ต่อมา ตนก็พานักท่องเที่ยวจีนไปร้านยา เพื่อซื้อยามาทาบาดแผลถลอกตามขา ซึ่งระหว่างนั้นนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวมีอาการหวาดกลัวตลอดเวลา หลังทำแผลเสร็จก็พาไปแจ้งความไว้ที่ตำรวจท่องเที่ยว และ สภ.อ่าวนาง ก่อนที่จะไปส่งที่คิวรถโดยสารเข้าเมืองกระบี่ ซึ่งตนเชื่อว่า นักท่องเที่ยวจีนคนดังกล่าวน่าจะถูกลวนลามจริงตามที่เขาพยายามสื่อสารให้เข้าใจ
จากกรณีได้มีการแชร์เรื่องราวในเฟซบุ๊กชื่อ เจ บุญเรือง เป็นเหตุการณ์เกี่ยวกับนักท่องเที่ยวสาวชาวจีนคนหนึ่ง อายุประมาณ 20 กว่าปี ถูกคนร้ายลวนลามขณะขับรถจักรยายนต์กลับจากท่องเที่ยวที่ท่าปอมคลองสองน้ำ แหล่งท่องเที่ยวชื่อดังเมืองกระบี่ จนได้รับบาดเจ็บ โดยมีภาพขาที่มีบาดแผลถลอกหลายแห่ง จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่า เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา บริเวณสามแยกบ้านหน้าหมี ม.1 ต.เขาทอง อ.เมืองกระบี่ ห่างจากท่าปอมคลองสองน้ำ ประมาณ 6 กม.
จากภาพในกล้องวงจรปิดเป็นภาพขณะรถที่หญิงสาวนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวขับมาเพียงลำพัง ได้เกิดไถลล้มเข้ามากลางสามแยก ซึ่งมีภาพเพียงมุมเดียว ขณะเดียวกัน ก็พบว่าเธอได้เดินมาที่รถพร้อมยกรถขึ้นมา และมีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาสอบถาม จากนั้นมีชาวบ้านที่ขับรถยนต์ผ่านมาลงมาช่วย แต่ไม่พบว่าหลังจากประสบอุบัติเหตุแล้วถูกลวนลามแต่อย่างใด
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัว น.ส.อัษฎาพร บุญเรือง อายุ 34 ปี ผู้ที่โพสต์เรื่องราวในเฟซบุ๊กดังกล่าว ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมแห่งหนึ่งในตัวเมืองกระบี่ มาให้ข้อมูล และชี้แจงทำความเข้าใจถึงเหตุการณ์ พร้อมให้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
น.ส.อัษฎาพร กล่าวว่า จากภาพวงจรปิดไม่ตรงกับที่นักท่องเที่ยวรายดังกล่าวเล่าให้ฟัง ตนอาจจะเข้าใจผิดระหว่างการสื่อสารเพราะตนไม่ถนัดภาษาจีน แต่ก็ไม่ทราบว่าก่อนที่รถมอเตอร์ไซค์จะล้มนั้นเกิดอะไรขึ้นบ้าง ต้องเป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะสืบสวนหาสาเหตุว่าเกิดอะไรขึ้น ขณะที่นักท่องเที่ยวรายนี้ได้เดินทางกลับประเทศแล้ว
อย่างไรก็ตาม มีข้อมูลว่า ตำรวจท่องเที่ยวกระบี่ได้สอบถามข้อมูลจากล่ามภาษาจีนที่พูดคุยกับผู้เสียหายหลังเกิดเหตุ ได้ข้อมูลว่า คนร้ายที่ก่อเหตุมีคนเดียว ได้ขับรถตามหลังมาจนกระทั่งมาถึงบริเวณก่อนถึงสามแยก ได้ขับรถประกบแล้วพยายามถ่ายรูปแล้วเอามือจับหน้าอกผู้เสียหาย จนผู้เสียหายตกใจรถจักรยานยนต์จึงเกิดเสียหลักล้มลง และไถลไปกลางสามแยก ตามภาพในกล้องวงจรปิด ก่อนที่คนร้ายจะขับรถเลี้ยวไปอีกทางหนึ่ง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างติดตามตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
ขณะที่ นายธีระยุทธ ณ นคร ชาวจังหวัดพังงา เป็นพนักงานต้อนรับร้านอาหารวังทรายซีฟู้ด ในพื้นที่ ต.อ่าวนาง หนึ่งผู้ที่ให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวคนดังกล่าว กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะที่ตนเดินทางกลับมาจากบ้านที่จังหวัดพังงา เพื่อไปทำงานที่อ่าวนาง ซึ่งตอนเกิดเหตุได้ขับรถผ่านบริเวณดังกล่าว เป็นเส้นทางเปลี่ยวมีสวนปาล์มน้ำมันสองข้างทาง ไม่มีบ้านคนอยู่อาศัย
โดยก่อนที่ตนจะพบเหตุการณ์ พบว่า มีสองสามีภรรยาชาวไทยให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวรายดังกล่าว แต่สื่อสารกันไม่รู้เรื่อง ตนจึงเข้าไปสอบถามแต่ก็พูดภาษจีนไม่ได้ จึงต้องใช้อุปกรณ์แปลภาษาช่วยจนได้ใจความว่า ถูกผู้ชายขับรถตามมาแล้วพยายามลวนลามจับหน้าอก และจะถ่ายรูป แล้วขับมอเตอร์ไซค์ปาดหน้าจนรถเสียหลัก และล้มลง แล้วพยายามที่จะลวนลามต่อ
นายธีระยุทธ กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นก็ได้ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวโดยได้ยกมอเตอร์ไซค์ขึ้นรถ กลับมาในพื้นที่อ่าวนาง พร้อมนำมอเตอร์ไซค์ไปคืนให้แก่ร้านเช่า โดยที่ทางร้านไม่ได้คิดค่าเสียหายของรถแต่อย่างใด เนื่องจากสงสารที่เกิดเหตุแก่นักท่องเที่ยวขึ้น ต่อมา ตนก็พานักท่องเที่ยวจีนไปร้านยา เพื่อซื้อยามาทาบาดแผลถลอกตามขา ซึ่งระหว่างนั้นนักท่องเที่ยวคนดังกล่าวมีอาการหวาดกลัวตลอดเวลา หลังทำแผลเสร็จก็พาไปแจ้งความไว้ที่ตำรวจท่องเที่ยว และ สภ.อ่าวนาง ก่อนที่จะไปส่งที่คิวรถโดยสารเข้าเมืองกระบี่ ซึ่งตนเชื่อว่า นักท่องเที่ยวจีนคนดังกล่าวน่าจะถูกลวนลามจริงตามที่เขาพยายามสื่อสารให้เข้าใจ