xs
xsm
sm
md
lg

แฉ! อดีตผู้ต้องสงสัยเผยถูกซ้อมทรมานเหมือนตาย ระหว่างถูกคุมตัวในค่ายทหาร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


 
ปัตตานี - อดีตผู้ต้องสงสัยในคดีความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เผยถูกซ้อมทรมานเหมือนตายแต่ไม่ตาย ในระหว่างถูกควบคุมตัวที่ค่ายทหาร เตือนระวังอาจกลายเป็นปมเงื่อนไขของการไม่ไว้เนื้อเชื่อใจเจ้าหน้าที่รัฐ

วันนี้ (5 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดปัตตานี ว่า ความรู้สึกของผู้ต้องสงสัย และญาติในคดีความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ถูกกล่าวถึงอย่างแพร่หลายจากญาติของผู้ที่ถูกกล่าวหา ว่า มีความเกี่ยวพันกับเหตุความไม่สงบ หรือผู้ตกเป็นผู้ต้องสงสัยก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่ว่า ถูกเจ้าหน้าที่ซ้อมทรมานเหมือนตายทั้งเป็น บางรายถึงขั้นสลบจากการทรมาน กระทุ้งทุบตีด้วยปลายด้ามอาวุธปืนยาว มีการสวมถุงพลาสติกที่หัวจนหายใจไม่ออกปางตายมาอย่างต่อเนื่อง สร้างความปวดร้าว และอาจกลายเป็นปมเงื่อนไขของการไม่ไว้เนื้อเชื่อใจเจ้าหน้าที่รัฐ จนนำไปสู่ความขัดแย้ง และความรุนแรงในอนาคตได้

ล่าสุด มีชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ออกมาเรียกร้องขอให้ผู้มีอำนาจรับฟังเสียงประชาชน โดยเฉพาะกรณีของกลุ่มที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ ที่ยังถูกซ้อมทรมานขณะถูกควบคุมตัวในสถานควบคุมของเจ้าหน้าที่ทหาร โดยเฉพาะที่หน่วยเฉพาะกิจ 43 และในศูนย์ซักถามค่ายอิงยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี

นายปะดอเลาะ (นามสมมติ) กล่าวว่า ตัวเองโดนซ้อมมาตลอดตั้งแต่ปี 2550 ปี 2555 ปี 2556 และปี 2560 จำนวน 4 ครั้งที่ถูกควบคุมตัว เจ้าหน้าที่ไปที่บ้านไม่เจออะไรเลย บอกแค่ว่าจับตามหมาย พ.ร.ก. ตกเป็นผู้ต้องสงสัย ระหว่างถูกควบคุมตัวถูกซ้อมตลอด พยายามเรียกร้องก็อ้างไม่ขึ้น ก็แค่ชาวบ้านค้านอำนาจรัฐไม่ขึ้นหรอก ครั้งสุดท้ายที่ถูกควบคุมตัวปี 2560 ที่ผ่านมา มือหัก และมีแผลตามตัวเต็มไปหมด ยังทำอะไรไม่ได้ รัฐบาล แม่ทัพไม่มีใครฟังเลย กลับมาว่าชาวบ้านใส่ร้ายเจ้าหน้าที่อีก

ในปี 2560 อยู่ในการควบคุมของทหารหน่วยเฉพาะกิจ 43 จำนวน 7 วัน อยู่ที่ศูนย์ซักถามอีก ถูกควบคุมตัว 35 วัน ถูกแจ้งข้อหามีอาวุธปืนในครอบครอง พาเข้าเมือง มีการยิงขึ้นฟ้า ถามเจ้าหน้าที่ว่าผมทำเมื่อไหร่ เขาก็ไม่บอก ทางครอบครัวใช้โฉนดในวงเงิน 5 แสนบาท ประกันตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมา แต่ประมาณ 3 เดือน ตำรวจโทร.มาบอกให้ไปเอาโฉนดกลับมา ก็ไม่ได้บอกว่าทำไมอยู่ๆ ถึงให้โฉนดกลับมา เพราะอะไร แต่บอกแค่ว่าคดีสิ้นสุดแล้ว

“ตลอด 7 วันที่อยู่ในหน่วยเฉพาะกิจ 43 โดนซ้อมตลอด คือ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ไปรับตัวมาที่บ้านบ่าย 2 ของวันนั้น ในช่วงเดือนรอมฎอนพอดี มาถึงที่หน่วยเฉพาะกิจ 43 บ่าย 2 ครึ่ง เขาก็ให้ยืนในห้องแคบๆ กว้าง 80 ซม. ความสูง 100 กว่า ซม. อากาศร้อนมาก ไม่มีแม้กระทั่งพัดลม บังคับให้ผู้ถูกคุมประมาณ 4 วัน 4 คืน จนขาบวมทำให้มีอาการชาทั้งตัว”

“เขาบอกให้ยอมรับ ถามว่ายอมรับเรื่องอะไรก็ไม่บอก ผมก็ไม่รู้จะยอมรับเรื่องอะไร ก็เลยโดนยืนตลอดทั้ง 4 วัน 4 คืน ในช่วงที่ครอบครัวมาเยี่ยม ทางเจ้าหน้าที่เขาก็จะให้พบ เขาพานั่งรถลงจากเขา ไปถึงสถานที่จุดเยี่ยม เขาให้เราพบญาติได้แค่จับมือสลาม เสร็จแล้วเขาเอาของฝากจากญาติที่มาเยี่ยม ก็เอาเข้าไปไม่ทันได้คุยอะไร ไม่รู้ว่า 1 นาทีถึงไหม ก็ไม่รู้เข้าไปก็ต้องยืนอีก ในช่วงที่เขาให้ยืน 4 วัน 4 คืน จะมีเจ้าหน้าที่เฝ้า 2 คน ก็จะสับเปลี่ยนตลอด และมีกล้องวงจรปิดติดภาพเฝ้าดูเรา ก็ไม่ได้ยอมรับก็ไม่รู้จะยอมรับเรื่องอะไร”

“จากนั้นเขาก็ถอดเสื้อผ้าเหลือเพียงกางเกงในตัวเดียว เอาไปโยนทิ้งในบ่อปลา เพื่อแช่น้ำอีก 2 ชั่วโมง จากนั้นยกขึ้นมาก็ประแป้งทาให้หน้าขาว เขาพูดว่าแต่งให้หล่อๆ เสร็จก็เอามาซักถาม พอตอบไม่ถูกใจ ก็โดนซ้อมอีกทั้งเตะ ทั้งต่อย โดน M16 กระทุ้งที่หน้าท้องก็หลายครั้ง ทำให้มีอาการจุกอกหายใจไม่ออก บอกไม่ถูกเลย ทั้งเจ็บทั้งชาสุดๆ ไม่รู้จะบอก เพราะพูดยังไงเขาก็หาว่าเราโกหก เขาถามเรื่องอาวุธปืน “เราบอกไม่มี” เขาก็ไม่เชื่อหาว่าเราโกหก ผมก็เลยบอกว่าบอกก็ได้ ก็เลยบอกว่าซ่อนอยู่ในค่ายทหารหน่วยเฉพาะกิจ 22 ซึ่งเป็นที่รับผิดชอบพื้นที่ อ.ยะรัง ทำให้ผมโดนตบอีก โดนต่อย โดนเตะสารพัด”
 

 
บางครั้งอยู่ๆ ก็ปิดไฟมืดไปหมด เจ้าหน้าที่ทหารหลายคน ก็เข้ามาจับมือไขว้หลัง ปิดตา ซ้อมเอาๆ ทั้งมือทั้งเท้าที่โดน ปากเขาพูดว่าปากแข็งนะ หาว่าเราเป็นคนร้ายบ้าง คนบาปบ้าง พูดสารพัดแล้วแต่เขาจะพูดออกมา เหมือนคนแค้นกันทำกัน เขาเตะมาต่อยมาที่ตัวเราเหมือนเราเป็นกระสอบทราย ปิดไฟแล้วยังปิดตาอีก แต่ก็ได้ยินชื่อที่เขาเรียกกัน

“ทุกครั้งที่เขามาเยี่ยมบ้าน และควบคุมตัว เขาไม่เคยได้อะไร แต่เราได้แผล และความเจ็บใจ ถูกดูถูกในศาสนา คนที่ดูถูกศาสนาอิสลามที่สุดก็คือ คนอิสลามด้วยกัน ซึ่งเป็นทหารข้างใน ไม่เว้นทั้งทหาร ผู้หญิง พูดไม่ถูกใจก็ตบต่อย”

เขาพูดกับเราว่า “มึงเป็นคนบาปของอัลลอฮ์” ไม่ต้องละหมาดก็ได้ ผมก็ถามเขาไปว่า “รู้ได้ไง ว่าเราเป็นคนบาป” ผมแค่ตกเป็นผู้ต้องสงสัย ยังไม่ได้เป็นผู้ต้องหา ไม่ได้ทำอะไรผิด เขาดูถูกมาก

ในส่วนของโครงการพาคนกลับบ้าน ที่ผ่านมา ถูกบังคับให้เข้ามาแล้ว 3 ครั้ง ทั้งมาเชิญด้วยตัวเอง และส่งหนังสือมา พอไม่ไปก็ขู่ว่าให้ระวัง แล้วไม่นานก็มาจับไปจริงๆ ตั้งแต่ปี 2556 เข้าไปแล้ว 3 ครั้ง โครงการพาคนกลับบ้าน

มีอยู่วันหนึ่งตำรวจมาที่บ้านจะเอาตัวไป ผมก็บอกเขาว่า ไหนให้ผมเข้าโครงการพาคนกลับบ้าน ยังไม่จบอีกหรือ เขาก็บอกว่า มึงจะกลับไปไหน ที่นี่ก็บ้านมึงแล้ว หรือมึงจะไปกูโบร์ (สุสาน) มีอยู่ครั้งหนึ่งไปร่วมโครงการพาคนกลับบ้าน แล้วเขาไปบอกนักข่าวว่า เราเป็นผู้มอบตัว เป็นคนจำนงของตน จะไม่ทำผิดแล้ว ถ้าเป็นแบบนั้นก็แปลว่าเราเป็นคนทำผิด ทั้งๆ ที่เราไม่ได้ไปทำอะไร หลังจากนั้น ก็ไม่ไปเข้าร่วมอีกเลย

ส่วนโครงการใหม่ที่แม่ทัพบอกว่า จะนับใหม่เฉพาะในยุคเขา ถามว่าคนทำงานระดับพื้นที่คนเดิมไหม ถ้าคนเดิมผมไม่เอา เพราะแน่นอนสภาพการแก้ปัญหา การถูกบังคับก็ต้องมาเหมือนเดิมๆ เหมือน 3 ครั้งที่เคยเจอมา แต่ถ้าคนใหม่มาทำก็จะขอคิดดูก่อน จะต้องดูว่าเขาทำตามนโยบายไหม เพราะบางครั้งนโยบายกับการกระทำของทหารในพื้นที่คนละเรื่องกัน

ก็ไม่อยากเรียกร้องอะไรกับแม่ทัพภาคที่ 4 และรัฐบาล เพราะคิดว่าเขาไม่ฟังเราพูด เรียกร้องไปก็เท่านั้น หมดหวังต่อรัฐบาล และทหารมาตลอดอยู่แล้ว

มีอยู่ครั้งหนึ่งหลังจากเข้าโครงการพาคนกลับบ้าน ทหารบอกว่า หมดแล้วกลับไปอยู่ใช้ชีวิตปกติได้แล้ว ไม่มีหมายแล้ว แต่อยู่ๆ ก็มาจับผมอีก แม้กระทั่งเหตุระเบิดที่ตลาดสดพิมลชัย อ.เมืองยะลา ก็มาหาผม

ส่วนตอนนี้แม้ว่าในทางคดี ป.วิอาญา ที่เคยโดนมาจะสิ้นสุด แต่หมาย พ.ร.ก.ไม่เคยสิ้นสุด เพราะถ้ามันสิ้นสุดจริงๆ ตามที่ทหารบอก ข้อมูลที่ฐานหน่วยเฉพาะกิจต่างๆ ก็จะต้องถูกลบไปด้วย สังเกตจากทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนกำลัง เจ้าหน้าที่ชุดใหม่ก็จะต้องมาที่บ้าน แล้วพอเคลียร์จบกับยุคนี้ ชุดใหม่มาก็ต้องทำความเข้าใจใหม่ โดนจับไม่รู้กี่รอบก่อนกว่าจะเข้าใจ

“ผมได้เจ็บตัวก่อนถึงจะปล่อย เพราะข้อมูลเก่าๆ เขาหาว่าผมเป็นครูฝึก เพราะเดิมผมสอนโรงเรียนตาดีกา ตอนนี้ผมจึงเลิกสอนแล้ว เขาจะได้เลิกว่าผม วันนี้ผมมาเลี้ยงลิงไว้ขึ้นต้นมะพร้าว ก็ถูกวางยาอีกทำให้ลิงผมตายไปหลายตัว ชีวิตในพื้นที่ไม่สุขสบายเลย”

“จนถึงตอนนี้ผมไม่กลัวอะไรแล้ว ก็เลยอยากบอกให้สังคมรับรู้ว่า ชาวบ้านถูกเจ้าหน้าที่กระทำยังไงบ้าง พยายามคิดมาตลอดว่าจะทำยังไงกับตัวเอง จึงจะไม่ถูกซ้อมอีก จะทำยังไงคนอื่นๆ จะไม่โดนซ้อม หลังจากนี้เหมือนกับผม และผมเชื่อว่าทุกคนก็โดนซ้อม แต่เขากลัวที่จะบอกให้ใครรู้ เพราะทุกคนถูกขู่ถ้ามีการเปิดเผย”
 


กำลังโหลดความคิดเห็น