ตรัง - “อนันตรา สิเกา รีสอร์ทฯ” โรงแรมดังริมหาดฉางลาง จ.ตรัง ยังเปิดบริการปกติ แม้ศาลฎีกาสั่งขับไล่ และรื้อถอนแล้ว ด้านหัวหน้าอุทยานแห่งชายหาดเจ้าไหม เผยรอคำสั่งลงดาบจากกระทรวง พร้อมเร่งดำเนินการตามกฎหมายทันที
วันนี้ (26 ม.ค.) หลังจากที่ศาลฎีกามีการพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ สว.(พ) 3/2556 และคดีหมายเลขแดงที่ 14/2557 โดยวิธีพิจารณาความแพ่ง เมื่อวันที่ 14 พ.ย.2560 ระหว่าง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เป็นโจทก์ฟ้องร้อง บริษัท เจบีบี จำกัด อ้างสิทธิเป็นเจ้าของที่ดินตามเอกสารโฉนดที่ดินเลขที่ 10548 บนเนื้อที่รวมกว่า 37 ไร่เศษ และให้ขับไล่จำเลยและบริวาร พร้อมกับรื้อถอน และขนย้ายทรัพย์สินออกจากที่ดินดังกล่าว เนื่องจากรุกที่เขตอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม อ.สิเกา จ.ตรัง โดยเอกสารสิทธิได้มาไม่ชอบด้วยกฎหมาย
โดยที่ดินแปลงดังกล่าว ปัจจุบัน มีการก่อสร้างดำเนินการธุรกิจโรงแรมอนันตรา สิเกา รีสอร์ท แอนด์ สปา (Anantara Si Kao Resort) เดิมทีชื่อ โรงแรมอมารีตรัง บีช รีสอร์ท ตั้งอยู่เลขที่ 198/199 หมู่ 5 ต.ไม้ฝาด อ.สิเกา จ.ตรัง เป็นโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ริมชายหาดฉางหลาง ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างประเทศนิยมมาพักกันมากในช่วงไฮซีซัน เหลือเพียงตำนานหลังจากต่อสู้คดีกันมาถึง 3 ศาล เป็นระยะกว่า 5 ปี หลังจากนี้ กรมอุทยานแห่งชาติฯ จะได้ดำเนินการสั่งรื้อถอนตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป
โดยบรรยากาศที่โรงแรมอมารีตรัง บีช รีสอร์ท ยังคงเปิดบริการ มีแขกทั้งชาวไทย และต่างชาติเข้าพักปกติ รวมถึงพนักงาน เจ้าหน้าที่ต่างก็ยังไม่ทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้มากนัก
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อขอสัมภาษณ์ผู้บริหารเกี่ยวกับคำพิพากษาของศาลฯ พบเพียง น.ส.มุกมณี เขี้ยวแก้ว ผช.ผจก.ฝ่ายขายและการตลาด และ MR.Adrian Stoppe General Manger ของโรงแรม มาพูดคุย ว่า ตอนนี้เหตุการณ์ปกติ ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ และยังไม่ได้รับการประสาน หรือติดต่อจากฝ่ายที่เกี่ยวข้อง คงต้องรอหลังจากนี้ ก็ยังไม่ทราบว่าทางผู้ใหญ่จะดำเนินการอย่างไร พร้อมปฏิเสธให้ผู้สื่อข่าวเก็บภาพบรรยากาศภายในโรงแรม และปฏิเสธการให้สัมภาษณ์ใดๆ
นายณรงค์ คงเอียด หน.อุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม กล่าวว่า หลังจากนี้ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยในวันจันทร์ที่ 29 ม.ค.นี้ จะมีการคัดสำเนาคำพิพากษาศาลฎีกา และรอคำสั่งจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ว่า จะให้ส่วนราชการในพื้นที่ดำเนินการด้านใดบ้าง ส่วนทางฝ่ายผู้เสียหายจะมีการยื่นอุทธรณ์คำสั่งเพื่อขอทุเลา ตามคำสั่งขับไล่ รื้อถอน เพื่อให้มีเวลาดำเนินการหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีนี้ต่อสู้กันมายืดเยื้อนานกว่า 5 ปี โดยกรมอุทยานแห่งชาติฯ ยื่นฟ้องขับไล่โรงแรมดังกล่าว เนื่องจากพบว่าเอกสารสิทธิออกมิชอบด้วยกฎหมาย ทับพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าคลองไหโละ ป่าเลนคลองปอ และป่าเลนคลองหละ พร้อมกับเรียกค่าเสียหาย 4.4 ล้านบาท
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2557 ต่อมาเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2558 ศาลอุทธรณ์ ภาค 9 พิพากษากลับ ให้กรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก. และโฉนดที่ดินเลขที่ดังกล่าวออกจากสารบบที่ดิน พร้อมกับสั่งให้รื้อถอนโรงแรมอนันตรา และขนย้ายทรัพย์สินออกจากที่ดินแปลงดังกล่าวทั้งหมด
จำเลยฎีกา ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ให้กรมที่ดินเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ดังกล่าว แต่จำเลยไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย เนื่องจากเป็นคนไปซื้อที่ดินต่อมา จึงไม่ทราบที่มาของเอกสารสิทธิ และคดีเป็นอันสิ้นสุด
