ศูนย์ข่าวภูเก็ต - เกิดซ้ำซาก! พนักงานขนกระเป๋าลักทรัพย์ผู้โดยสารที่สนามบินภูเก็ต สายการบินแจ้งตั้งแต่เดือน ธ.ค. 60 หายไปหลายรายการ ตร.สาคู ร่วมท่าอากาศยานภูเก็ต ตร.ท่องเที่ยว สืบสวนจับกุมได้ ยึดของกลางกว่า 100 รายการ ระบุทั้งลักเอง-รับซื้อจากพนักงานด้วยกัน
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สาคู นำโดย พ.ต.อ.จิระศักดิ์ เสียมศักดิ์ ผกก.สภ.สาคู พ.ต.ท.สลาน สันติศาสนกุล สว.อก.สภ.สาคู และ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.สาคู ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต นำโดย พ.ต.ต.เอกชัย ศิริ สว.ตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจท่องเที่ยว และเจ้าหน้าที่การท่าอากาศยานภูเก็ต ร่วมกันจับกุมและสอบปากคำ นายนิรุตต์ ศักดิ์ศรี อายุ 29 ปี, นายมาโนช นาคโพจิตร อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุลักทรัพย์ผู้โดยสารที่สนามบินภูเก็ต
นายชาคริต จันทร์ประเสริฐ อายุ 23 ปี ชาว จ.พิจิตร ข้อหาครอบครองยาเสพติด พร้อมตรวจยึดของกลาง ได้แก่ คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก โทรศัพท์มือถือ สุราต่างประเทศ นาฬิกา แว่นกันแดด เครื่องประดับ และ ทรัพย์สินอื่นรวมกว่า 100 รายการ จับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 93/18 ม.5 ต.สาคู อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ 19 ต่อเนื่องวันที่ 20 ม.ค.
สำหรับการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายการบินแห่งหนึ่งว่า สินค้าที่ขนส่งทางอากาศยาน ซึ่งเป็นสิ่งของส่วนตัวของผู้โดยสารได้หายไปหลายรายการ เหตุเกิดตั้งแต่เดือนธันวาคม 2560 เป็นต้นมา
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงได้ทำการสืบสวน และ ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด จนแน่ชัดว่า ผู้ก่อเหตุลักทรัพย์สินของผู้โดยสาร คือ นายนิรุตต์ และ นายมาโนช เป็นพนักงานขนกระเป๋าของบริษัท จึงได้ควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.สาคู พร้อมได้ตรวจยึดของกลางดังกล่าว
ในเบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันขโมยทรัพย์สินต่างๆ ของนักท่องเที่ยวจริงขณะทำงานขนกระเป๋าในสนามบิน รวมถึงยังรับซื้อมาจากผู้อื่น แต่มาถูกจับกุมได้ในที่สุด ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาต่อนายนิรุตต์ และนายมาโนช ว่าร่วมกันนำหรือพาของต้องห้ามต้องจำกัดเข้ามาในราชอาณาจักร โดยยังไม่ผ่านพิธีการศุลกากร โดยถูกต้องตามกฎหมาย ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร และร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กัญชา) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย
ส่วนนายชาคริตแจ้งข้อกล่าวหาว่ามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย
พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สาคู เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.จิระศักดิ์ เสียมศักดิ์ ผกก.สาคู กล่าวว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คนได้ก่อเหตุจริงและทำมานานแล้ว ทางเจ้าหน้าที่สืบหาข้อมูลมาอย่างต่อเนื่องจนสามารถจับกุมได้ แต่ยังไม่ได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเขตท่าอากาศยานและรับของโจร ต้องให้พนักงานสอบสวนเสร็จสิ้นก่อน และจะแจ้งข้อหาตามในภายหลัง นอกจากนั้นทางสายการบินต่างๆ จะต้องมาดูของกลางว่าแต่ละสายการบินมีทรัพย์สินใดของนักท่องเที่ยวหายบ้าง
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวว่า นอกจากมีการจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 รายแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ยังสืบสวนขยายผลและสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่มอีก 2 ราย ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม
ส่วนกรณีเกิดเหตุคนร้ายขโมยทรัพย์สินในกระเป๋านักท่องเที่ยวที่โหลดขึ้นเครื่องไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรก แต่เกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้ว ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ทั้งในส่วนของท่าอากาศยานภูเก็ตและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวมกันจับกุมดำเนินคดีมาแล้วหลายราย แต่ก็ยังมีการกระทำความผิดอยู่ซึ่งถือว่าเป็นการทำลายชื่อเสียของจังหวัดภูเก็ตและประเทศอย่างร้ายแรง
