ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ใจร้อน! แชร์ว่อนคลิป คนขับรถกระบะบรรทุกของปาดหน้ารถยนต์คันอื่นจนต้องบีบแตรใส่ ส่งผลให้คนขับรถกระบะไม่พอใจจอดรถพร้อมลากมีดยาวลงมาข่มขู่ และทุบรถหลายครั้ง ล่าสุดเข้ามอบตัวแล้ว ตำรวจเรียกคู่กรณีในที่สุดเจรจากันได้
ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “อนุรักษ์ ทายาทตระกูลคงเนียม” ได้โพสต์คลิปวิดีโอจำนวน 2 คลิป ความยาวรวมประมาณ 2 นาที พร้อมระบุข้อความว่า “ขออนุญาตคับ ช่วยกันแชร์คับ ใช้ถนนร่วมกัน แต่กลับพกมีดยาวขนาดนี้สมควรหรือไม่คับ ดูมันทำกับเพื่อนผม”
ในคลิปวีดีโอดังกล่าวเห็นรถกระบะบรรทุกสีบรอนซ์เทา ขับอยู่ที่ช่องจราจรตรงกลาง แล้วขับมาปาดหน้ารถยนต์ที่ขับอยู่ช่องจราจรด้านขวา ทำให้คนขับต้องบีบแตรเตือน แต่คนขับรถกระบะบรรทุกของได้หยุดรถกะทันหัน จากนั้นชายคนขับกระบะบรรทุกของรูปร่างผอม เตี้ย ลงมาจากรถ พร้อมกับอาวุธมีดขนาดยาว เดินปรี่มาทุบรถยนต์คันที่บีบแตรใส่จำนวนหลายครั้ง พร้อมตะโกนบอกให้เปิดประตู แต่คนขับไม่เปิดประตู ทำให้คนขับรถกระบะบรรทุกของได้ขับรถออกไป และได้ไปจอดที่จุดกลับรถเกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต
หลังจากนั้นคนขับรถกระบะได้ลงจากรถอีกครั้งและวิ่งมายังรถยนต์คู่กรณีที่จอดติดไฟแดง คนที่อยู่ภายในรถจึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากนั้นก็กลับขึ้นรถขับออกไป ซึ่งรถยนต์คันดังกล่าวมีกล้องหน้ารถ บันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดไว้อย่างชัดเจน
จากนั้นเพื่อนของเจ้าของรถยนต์คันที่เกิดเหตุได้นำคลิปมาโพสต์ในเฟซบุ๊กทำให้มีผู้ที่สนใจแชร์ไปยังกลุ่มต่างๆ หลายกลุ่ม และมีการกดถูกใจพร้อมแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง พ.ต.อ.กมล โอศิริ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต กล่าวว่า ตนได้ทราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมสั่งการให้ชุดสืบสวน โดย พ.ต.ท.นฤบดินทร์ ปังหลีเส็น สว.สส.สภ.เมืองภูเก็ต และ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองภูเก็ต ตรวจสอบป้ายทะเบียนรถคันที่ก่อเหตุ จนทราบตัวเจ้าของรถ จึงได้ประสานยังเจ้าของรถ ล่าสุดได้นำตัวคนขับรถกระบะที่ก่อเหตุมามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ทราบชื่อ คือ นายนพปฎล สายน้อย อายุ 21 ปี ที่อยู่ 240 ม.3 ต.ควนชุม อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช หลังจากนั้นจึงได้ควบคุมตัวมาสอบปากคำเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยนายนพปฎล ยอมรับว่าได้ขับปาดหน้าและลงไปก่อเหตุจริง ที่บริเวณ ถ.เทพกษัตรี (ขาเข้าเมือง) (หน้าบริษัทอีซูซุ) ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2561 เวลาประมาณ 09.00 น. และได้ถือมีดลงไปจากรถจริงแต่ไม่ได้ใช้มีดทุบรถ ใช้มือเท่านั้นทุบรถเพื่อเรียกให้คนขับเปิดกระจก
ทางเจ้าหน้าที่จึงตรวจยึดอาวุธมีดสปาต้าร์ ยาวประมาณ 77 ซม.จำนวน 1 ด้าม พร้อมแจ้งข้อกล่าว พกพาอาวุธมีดฯ, ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยฯ, ไม่มีใบอนุญาตขับรถ โดยนำตัวส่งฟ้องศาลจังหวัดภูเก็ตในวันนี้ (19 ม.ค.)
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่อีกชุดได้เรียกผู้เสียหายทราบชื่อนายสุริยา ยาบ้านทุ่ม ชาวจังหวัดเพชรบูรณ์ มาพบและสอบปากคำเช่นเดียวกัน ในเบื้องต้นนายสุริยาไม่ติดใจเอาความแต่อย่างใด ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำคู่กรณีทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยปรับความเข้าใจกันและจับมือขอโทษซึ่งกันและกัน