MGR Online - ก๊วนโจ๋แว้นซิ่งป่วนเมืองอุกอาจ ชักมีดแทงตำรวจ อคฝ.เจ็บหนัก เหตุเขม่นขับปาดหน้า ถูกตะโกนตักเตือนขับรถอันตรายไม่สวมหมวกกันน็อก
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อ วิเวกภาพข่าวทันเหตุการณ์ (เก่า) ได้โพสต์ภาพเจ้าหน้าที่ตำรวจสวมชุดเครื่องแบบปฏิบัติการ อคฝ.ถูกแทงด้วยอาวุธมีด และกำลังให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งทำการปฐมพยาบาล พร้อมระบุข้อความ “กะจะเอาให้ตายเลยหราเนี้ยไอ้เด็ก... ประมาณ 4 ทุ่ม วัยรุ่นขี่มอ'ไซค์ปาดหน้าแล้วไม่ยอมไปไหน ผมเลยบีบแตรใส่ พร้อมกับบอกว่า น้องขับรถแบบนี้มันอันตรายนะ มันบอกจอดคุยกันก่อนดีกว่าพี่ ไอ้ตัวเราคิดว่าคงไม่มีอะไร คุยกันได้สักพัก มันบอก ผมไม่ชอบให้ใครมาสอนว่ะ จากนั้นก็ชุลมุน รู้ตัวอีกทีเสื้อก็เปียกแล้ว มันแทงตรงหัวใจเลย กะเอาให้ตาย เด็กสมัยนี้ ส.ต.ท.ณัฐกรณ์ ปาละตา ผบ.หมู่ กองร้อย 1 กก.ควบคุมฝูงชน 2 บก.อคฝ โดนวัยรุ่นแทงเข้าหน้าอกซ้ายขณะะเดินทางมาเปลี่ยนเวรรอบ 1901 คืนนี้ เวลานี้อยู่ห้องฉุกเฉิน รพ.ตำรวจ” จนมีการแชร์ต่อ พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์ถึงความโหดเหี้ยม ขนาดเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังถูกกลุ่มเด็กแว้นป่วนเมืองทำร้ายได้ ตามที่นำเสนอไปแล้วนั้น
วันนี้ (15 เม.ย.) พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย ผบก.น.6 ได้รายงานเหตุด่วนถึง พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. ระบุว่า เมื่อวันที่ 12 เม.ย.เวลาประมาณ 22.00 น.ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ภากร สมุทรคีรี รอง ผกก.(สอบสวน) สน.สำราญราษฎร์ รับแจ้งเหตุตำรวจถูกทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ บริเวณหน้าหอศิลป์ ถนนราชดำเนินกลาง แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.ต่อเกียรติ พรหมบุตร ผกก.สน.สำราญราษฎร์ ตำรวจ สน.สำราญราษฎร์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุบนพื้นผิวถนนพบ ส.ต.ท.ณัฐกรณ์ ปาละตา ผบ.หมู่กองร้อย 1 กก.คฝ.2 บก.อคฝ.กำลังถอดเสื้อชุดเครื่องแบบปฏิบัติการควบคุมฝูงชนเพื่อให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งช่วยกันระดมปฐมพยาบาล หลังจากถูกแทงด้วยอาวุธมีดเข้าที่ราวนมฝั่งซ้าย ก่อนรีบนำตัวส่ง รพ.ตำรวจ เมื่อตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบมีดพกสั้นปลายแหลมยี่ห้อ Ying Guns ขนาดประมาณ 5 นิ้ว หลุดออกจากด้าม ใกล้กันพบด้ามมีดยาวประมาณ 11.5 ซม.และปลอกมีดเล่มดังกล่าวพันด้วยเทปกาวสีดำตกอยู่ พร้อมมีกองเลือดเป็นทางยาว ตำรวจจึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้นทางผู้บาดเจ็บอาการปลอดภัยสามารถถามตอบได้ ทางพนักงานสอบสวนจึงเดินทางไปสอบปากคำที่ รพ.ตำรวจ
สอบสวน ส.ต.ท.ณัฐกรณ์ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังขับขี่จักรยานยนต์เพื่อที่จะเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง เมื่อขับมาถึงบริเวณแยกป้อมมหากาฬ มีสัญญาณไฟแดงจึงหยุดรถแล้วสังเกตเห็นกลุ่มวัยรุ่นอายุประมาณ 17-20 ปี ประมาณ 10 คน ขับขี่จักรยานยนต์มาด้วยกัน 5-6 คัน โดยทั้งผู้ขับและผู้ซ้อนท้ายไม่สวมใส่หมวกกันน็อก ต่อมาสัญญาณไฟเขียวจึงขับขี่รถมาบนถนนราชดำเนินกลางมุ่งหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อมาถึงบริเวณช่วงด้านหน้าหอศิลป์ จู่ๆ ได้ถูกกลุ่มจักรยานยนต์ดังกล่าวขับขี่ปาดหน้า ตนจึงตะโกนว่าทำไมขับรถแบบนี้มันอันตราย และยังไม่สวมหมวกกันน็อกด้วย ทำให้กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวไม่พอใจได้ตะโกนกลับมาว่า “งั้นจอดรถคุยกันเลยดีกว่า ผมไม่ชอบให้ใครมาสอนว่ะ” ระหว่างพูดคุยกันอยู่นั้นได้เกิดเหตุการณ์ชุลมุน มีหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นใช้อาวุธมีดแทงตนจนได้รับบาดเจ็บก่อนพากันแยกย้ายหลบหนีไป
พล.ต.ต.ทรงพล วัธนะชัย ผบก.น.6 กล่าวว่า ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน ตำรวจ กก.สส.บก.น.6 และตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สน.สำราญราษฎร์ ออกเร่งไล่ล่าติดตามคนร้ายซึ่งขณะนี้ทางชุดสืบสวนทำการแกะรอยตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจนพบกล้องวงจรปิดบริเวณถนนราชดำเนินกลาง สามารถจับภาพกลุ่มคนร้ายไว้ได้ แต่จุดเกิดเหตุไม่สามารถบันทึกเหตุการณ์ดังกล่าวได้เนื่องจากเป็นมุมอับ ไม่มีกล้องวงจรปิด นอกจากนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าคนร้ายมาจากที่ใด เพราะภาพจากกล้องวงจรปิดขาดเป็นตอนๆ ต้องตีวงกว้างในการไล่ภาพกล้องวงจรปิดมากขึ้น แต่ยืนยันว่าคดีก็คืบหน้าไปมากพอสมควร โดยชุดสืบสวนสันนิษฐานว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มก๊วนซิ่งป่วนเมืองที่ออกมาขับขี่จักรยานยนต์เล่นในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ อย่างไรก็ตาม ตำรวจอยู่ระหว่างการติดตามตัวกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผบก.อคฝ.กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 เม.ย.ตนได้เดินทางไปเยี่ยม ส.ต.ท.ณัฐกรณ์ที่ รพ.ตำรวจ ทางแพทย์ระบุว่าคนไข้บาดแผลมีเลือดคั่งจึงต้องทำการผ่าตัดอีกครั้ง เบื้องต้นอาการพ้นขีดอันตราย ปลอดภัย สำหรับด้านคดีก็ต้องทำอย่างเต็มที่เนื่องจากกลุ่มที่ก่อเหตุไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทำร้ายแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงต้องเร่งรัดติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้ โดยเชื่อว่าผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มเด็กแว้นป่วนเมือง