xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ว่าฯ ภูเก็ตสั่งล้อมคอกป้องกันเหตุทางเรือ เตรียมฟันผู้ประกอบการไม่สนใจแจ้งจำนวนนักท่องเที่ยว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผู้ว่าฯภูเก็ต เรียกประชุมด่วน สั่งล้อมคอกป้องกันอุบัติเหตุทางเรือ สั่งจัดการท่าเรือให้เข้าระบบ เตรียมฟันผู้ประกอบการไม่แจ้งจำนวนนักท่องเที่ยว ระบุสร้างโปรแกรมแต่ยังไม่สนใจ

เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (15 ม.ค.) ที่ห้องรับรอง จวนผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เรียกประชุมหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกำหนดมาตรการในการป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุทางทะเลซ้ำ หลังเกิดเหตุเรือสปีดโบต คิงโพไซดอน 959 บรรทุกนักท่องเที่ยวจีน ไกด์ คนขับเรือ และเด็กเรือ จำนวน 31 คน ระเบิดจนไฟลุกไหม้กลางทะเล

โดยเหตุเกิดเมื่อวานนี้ (14 ม.ค.) หน้าถ้ำไวกิ้ง เกาะพีพี จ.กระบี่ ส่งผลให้นักท่องเที่ยว ไกด์ เด็กเรือ คนขับเรือได้รับบาดเจ็บ จำนวน 16 ราย ซึ่งขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต 1 ราย โรงพยาบาล อบจ.ภูเก็ต 1 ราย โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต 8 ราย โรงพยาบาลกระบี่ 1 ราย และโรงพยาบาลกระบี่นครินทร์อินเตอร์เนชั่นแนล 2 ราย ส่วนที่เหลือกลับบ้านได้ทั้งหมด

นายนรภัทร กล่าวว่า ในการประชุมครั้งนี้เพื่อสรุปปัญหา และหามาตรการในการป้องกันและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวให้เป็นระบบมากขึ้น เนื่องจากกรณีเมื่อวาน (14 ม.ค.) พบว่า มีปัญหาในหลายเรื่อง ทั้งเรื่องของการประสานงานในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยว รวมทั้งรายชื่อนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปกับเรือ การประสานงานระหว่างหน่วยงานราชการด้วยกัน ซึ่งจะต้องเร่งแก้ไข โดยเฉพาะมาตรการในการแก้ไขปัญหากรณีเรือท่องเที่ยวที่ออกจากท่าเรือเอกชน

ซึ่งจากการประชุมทราบว่า เรือที่เกิดเหตุเป็นเรือที่ออกจากท่าเรือไทยมอร์นิ่งซัน ซึ่งเป็นท่าเรือฝากกับท่าเรือเอกชนรายอื่น เนื่องจากเป็นท่าเรือขนาดเล็ก และจากการตรวจสอบพบว่า กำลังอยู่ระหว่างการขออนุญาตจัดทั้งท่าเรือ ท่าเรือแห่งนี้จึงเป็นท่าเรือฝาก ไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจตอนปล่อยเรือได้ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องมีการเพิ่มมาตรการในการดำเนินการได้มอบหมายให้เจ้าท่าไปดำเนินการแล้ว รวมทั้งสำรวจท่าเรือเอกชนทั้งหมดในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อกำหนดมาตรการในการจัดการ ซึ่งเรื่องนี้ทางจังหวัดภูเก็ต ไม่ได้นิ่งนอนใจเพราะเรือท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะออกจากท่าเรือภูเก็ต

และสิ่งที่จังหวัดทำเพื่อกำหนดเป็นมาตรการในการป้องกันเหตุก่อนหน้านี้ ซึ่งได้มอบหมายให้ทางดีป้า ดำเนินการคือ การสร้างโปรแกรมสำหรับแจ้งรายชื่อนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปกับทางเรือท่องเที่ยวของแต่ละบริษัท ซึ่งรายชื่อเหล่านี้ทั้งในส่วนของภาคเอกชน และหน่วยงานราชการจะทราบเหมือนกัน และสามารถที่จะส่งรายชื่อจากต้นทางไปให้ปลายทางได้ทันทีว่านักท่องเที่ยวเดินทางไปกี่คน มีใครบ้าง หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นจะทำให้ทราบชื่อ และจำนวนผู้โดยสารทันที แต่กรณีเมื่อพบว่ามีปัญหาเกิดขึ้น รายชื่อผู้บาดเจ็บ รายชื่อนักท่องเที่ยวไม่ตรงกัน หรือแม้แต่จำนวน

นายนรภัทร กล่าวว่า กรณีการสร้างโปรแกรมแจ้งชื่อทำมาระยะหนึ่งแล้ว บางบริษัทก็โหลดไปใช้แต่บางบริษัทยังไม่สนใจที่จะเข้าร่วม แต่กรณีของบริษัทที่ส่งนักท่องเที่ยวที่เป็นท่าเรือของรัฐนั้นได้มีการบังคับให้กรอกชื่อเอง ถ้ารายไหนไม่แจ้งรายชื่อเข้าสู่ระบบ ซึ่งจะทำให้ทราบจำนวน และชื่อนักท่องเที่ยวทันทีกรณีเกิดเหตุการณ์ขึ้น แต่กรณีที่ส่งนักท่องเที่ยวไปขึ้นลงเรือที่ท่าเรือเอกชน พบว่า ส่วนใหญ่ยังไม่ดำเนินการ โดยวันนี้จะมีการประชุมผู้ประกอบการท่องเที่ยวเพื่อร่วมกันกำหนดมาตรการอีกครั้ง หากบริษัทไหนยังไม่ให้ความร่วมมือก็จะต้องมีมาตรการในการจัดการต่อไป

ส่วนสาเหตุที่หลายๆ บริษัทยังไม่สนใจเข้าร่วมโปรแกรมการแจ้งชื่อนักท่องเที่ยว คิดว่ามีมาหลายสาเหตุ ทั้งเรื่องของความไม่พร้อม ถ้าเรื่องของความไม่พร้อมก็อาจจะต้องให้เวลาบ้าง แต่ถ้าไม่แจ้งเพราะต้องการเลี่ยงภาษีก็จะต้องดำเนินการขั้นเด็ดขาด เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญมาก และเร็วๆ นี้ตนจะลงไปหารือร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เพื่อกำหนดมาตรการร่วมกันในการป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุทางทะเล

ส่วนกรณีการตรวจสภาพเรือนั้น เดิมจะมีการตรวจสภาพเรือปีละครั้ง แต่จังหวัดภูเก็ตไม่เหมือนกันจังหวัดอื่น ความถี่ในการใช้เรือมาก แต่ละวันมีนักท่องเที่ยวใช้บริการเรือเพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวตามเกาะแก่งต่างๆ หลายพันคน การตรวจเรือจึงจะต้องเพิ่มความถี่มากขึ้น

ซึ่งตนขอให้เจ้าท่ากำหนดระยะเวลาในการตรวจเรือจากปีละครั้งมาเป็น 6 เดือนครั้ง ทั้งเรื่องของเครื่องยนต์ต่างๆ และเรื่องของความแข็งแรงของเรือ เนื่องจากกรณีที่เกิดอุบัติเหตุล่าสุดในเบื้องต้นมีการระบุว่า ก่อนเกิดเหตุมีน้ำมันรั่วที่เครื่องยนต์ หลังจากนั้น ก็มีไฟสปาร์กขึ้นจนเป็นเหตุให้เรือระเบิด และไฟไหม้ดังกล่าว ส่วนสาเหตุที่แท้จริงคงจะต้องรอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบต่อไป

อย่างไรก็ตาม หลังมีการประชุมแล้วเสร็จ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมคณะได้เดินทางลงไปยัง ท่าเรือไทยมอนิ่งซัน เพื่อตรวจสอบการบริหารจัดการการส่งนักท่องเที่ยวลงเรือ ซึ่งพบว่า วันนี้มีนักท่องเที่ยวเดินทางตามปกติ โดยมีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบเรือเข้าออกที่จุดดังกล่าว ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มีการทำระบบรายชื่อนักท่องเที่ยวแต่ไม่มีการแจ้งเข้าระบบตามที่กำหนดแต่อย่างใด โดยผู้ว่าฯ ได้ย้ำให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการให้ถูกต้อง และจะต้องเก็บรายชื่อนักท่องเที่ยวทั้งหมดไว้ในระบบให้ถูกต้องก่อนที่จะปล่อยเรือออกแต่ละลำ

ด้าน นายเจริญ แก้วยอดหล้า ที่ปรึกษาไทยมอนิ่งซั่น ซึ่งเป็นบริษัทเจ้าของท่าเรือและเจ้าของเรือ กล่าวว่า เรือลำนี้ทำประกันภัยแบบ พ.ร.บ.ไว้ ในกรณีที่มีผู้เสียชีวิตทางบริษัทประกันจะจ่ายเงินให้ 1 แสนบาท ส่วนกรณีบาดเจ็บรายละ 50,000 บาท ส่วนการดุแลผู้ได้รับบาดเจ็บจากกรณีอุบัติเหตุเมื่อวานพร้อมที่จะดูแลอย่างเต็มที่ และให้การช่วยเหลือดูแลมาตั้งแต่เมื่อวาน และเราพร้อมที่จะดูแลนักท่องเที่ยวให้ได้รับความพึงพอใจมากที่สุด





กำลังโหลดความคิดเห็น