ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - สภาพอากาศในพื้นที่ จ.สงขลา แปรปรวนอย่างหนัก จากผลพวงของพายุโซนร้อนไคตั๊ก ทำให้คลื่นกัดเซาะทรายบริเวณชายฝั่งแหลมสมิหลา หายไปในทะเล ทางจังหวัดแจ้งเตือนทั้ง 16 อำเภอ เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันที่อาจเกิดขึ้นในวันที่ 22-24 ธันวาคมนี้
วันนี้ (21 ธ.ค.) พื้นที่ตลอดแนวชายฝั่งของ จ.สงขลา ยังคงต้องเผชิญต่อสภาพคลื่นลมแรงที่พัดกระหน่ำเข้าสู่ชายฝั่ง และสภาพอากาศที่แปรปรวนอย่างหนัก และเริ่มมีฝนตกลงมาอีกครั้ง จากผลพวงของพายุโซนร้อนไคตั๊ก รวมทั้งได้ย่างเข้าสู่ฤดูมรสุมของทุกปี และยังส่งผลกระทบต่อพื้นที่ชายฝั่ง ทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล และชุมชนชาวประมงพื้นที่ตลอดแนวชายฝั่ง โดยเฉพาะตลอดแนวชายหาดแหลมสมิหลา ขณะนี้คลื่นได้ซัดเข้าหาฝั่งอย่างรุนแรง และส่งผลกระทบต่อโครงการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งหาดชลาทัศน์-สมิหลา
เนื่องจากคลื่นได้ซัดเอาทรายที่ดูดขึ้นมาจากทะเลเพื่อเติมพื้นที่ชายหาดที่ถูกคลื่นกัดเซาะหายกลับไปในทะเลอีกครั้ง และต้องหยุดการทำงานทั้งหมดไว้ชั่วคราวจากสภาพคลื่นลมที่มีกำลังแรง เครื่องจักรไม่สามารถทำงานได้ นอกจากนี้ ตลอดแนวชายฝั่งแหลมสมิหลา ได้ขึ้นธงแดงห้ามลงเล่นน้ำทะเลอย่างเด็ดขาด
ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก ยังคงเฝ้าติดตามสถานการณ์ของพายุโซนร้อนไคตั๊กอย่างใกล้ชิด ซึ่งแนวโน้มจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน และหย่อมความกดอากาศต่ำตามลำดับ และจะเคลื่อนเข้ามาปกคลุมชายฝั่งประเทศมาเลเซีย รวมทั้งภาคใต้ตอนล่างของประเทศไทย ส่งผลให้ภาคใต้ฝั่งตะวันออกบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส มีฝนตกเพิ่มขึ้น และมีฝนหนักได้บางพื้นที่ ในช่วงวันที่ 22-24 นี้
ทางด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจ.สงขลา ได้มีหนังสือด่วนแจ้งเตือนให้พื้นที่ทั้ง 16 อำเภอของ จ.สงขลา เตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากที่อาจจะเกิดขึ้นอีกครั้งในช่วง 2-3 วันนี้ จากฝนที่ตกหนักอีกระลอก