วิจารณ์ตระกูล “เสนพงศ์” ลั่นนครฯ! ขุดคลิป “เทพไท” เสนอย้ายอนุสาวรีย์วีรไทพ้นค่ายทหารถล่มต่อเนื่อง หลังปรากฏการณ์ “ตื่นตูน” แฝงเกมการเมือง

 
นครศรีธรรมราช - เผยเสียงวิจารณ์สะนั่นเมืองต่อเนื่องจากปรากฏการณ์ “ตื่นตูน” วิ่งผ่านนครศรีธรรมราชยังถล่มใส่ 3 พี่น้องตระกูล “เสนพงศ์” แบบไม่มีทีท่าจะลดรา ขุดประเด็นอหังการ์ที่ “เทพไท” เสนอย้ายอนุสาวรีย์พ่อจ่าดำพ้นกองทัพภาคที่ 4 มาตีซ้ำ ถือเป็นการท้าทายในยุคทหารปกครองบ้านเมือง และแอบแฝงคะแนนเสียงทางการเมืองทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ
 

 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17 พ.ย.) ที่ จ.นครศรีธรรมราช ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์หนาหูเกี่ยวกับกรณีที่ นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้มีการย้าย “อนุสาวรีย์วีรไท” หรือ “อนุสาวรีย์พ่อจ่าดำ” ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกความกล้าหาญของทหารไทยในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยอยู่ในความดูแลของกองทัพ เพราะตั้งอยู่ภายในค่ายวชิราวุธ กองทัพภาคที่ 4 ต.ปากพูน อ.เมืองนครศรีธรรมราช ให้ย้ายออกมาตั้งในสถานที่ใหม่บริเวณวงเวียนท่าแพกลางเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งก็มีนัยให้เปลี่ยนไปอยู่ในความดูของ อบจ.นครศรีธรรมราช หรือไม่ก็เทศบาลนครนครศรีธรรมราชที่เป็นเจ้าของพื้นที่นั่นเอง 
 
ทั้งนี้ ในกระแสวิพากษ์วิจารณ์หนาหูที่เกิดขึ้นตามร้านรวงหรือแวดวงสภากาแฟต่างๆ และที่ก้องกังวานอย่างเป็นพิเศษอยู่ในสื่อสังคมออนไลน์นั้น มีการหยิบยกเอาคลิปภาพและเสียงของนายเทพไทขณะนั่งจัดรายการทีวีในช่องหนึ่ง ซึ่งเป็นที่รับรู้กันว่าเป็นของกลุ่มการเมืองยอดนิยมของคนภาคใต้ โดยนายเทพไทได้เปิดฉากวิพากษ์วิจารณ์ถึงสถานที่ตั้งอนุสาวรีย์พ่อจ่าดำว่า ไม่เหมาะสมที่จะตั้งอยู่ในค่ายทหารอย่างสนุกสนาน พร้อมเสนอให้ควรมีการย้ายออกไปเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณวงเวียนท่าแพกลางนครศรีธรรมราช
 

 
“ได้คุยกับกองทัพภาคที่ 4 มาแล้ว 2 ครั้ง แต่ยังไม่ตกผลึกว่าจะเชิญอนุสาวรีย์หลวงพ่อจ่าดำ (ในคลิปใช้คำว่า หลวงพ่อ) ไปไว้ที่วงเวียนท่าแพ คือให้คนที่ผ่านไปมาได้สักการะ คนท่าแพจะได้ขายธูปขายเทียน ขายของเซนไหว้” นายเทพไทที่ถือเป็นผู้ใกล้ชิดกับนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวไว้ตอนหนึ่งในการจัดรายการครั้งนั้น ขณะที่ผู้จัดรายการอีกคนกล่าวเสริมเพียงเล็กน้อย
 
จากนั้นนายเทพไทได้กล่าวต่อว่า พ่อจ่าดำเสียชีวิตตรงนั้น เรื่องนี้ตนก็เลยคิดใหม่และบอกนายมาโนช เสนพงศ์ อดีตนายก อบจ.นครศรีธรรมราชไปแล้วว่า ถ้ารอบหน้านายมาโนชได้มานั่งเป็นนายก อบจ.นครศรีธรรมราชอีกครั้ง ตนจะทำอนุสาวรีย์ใหม่ โดยจะทำอนุสาวรีย์สงครามโลกครั้งที่ 2 พ่อจ่าดำก็เป็นหนึ่งในนั้น ก่อนที่ผู้ร่วมจัดรายการจะกล่าวเสริมด้วยการแสดงความคิดเห็นให้ทหารเปิดประตูค่ายให้ประชาชนเข้าไปนมัสการอนุสาวรีย์พ่อจ่าดำในค่ายทหารได้ง่ายๆ หน่อย
 

 
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ภายหลังที่คลิปการจัดรายการของนายเทพไท ซึ่งเสนอให้ย้ายอนุสาวรีย์พ่อจ่าดำออกจากค่ายทหารสะพัดในสื่อสังคมออนไลน์ ปรากฏมีการแสดงความคิดเห็นของผู้คนตามมามากมาย อาทิ ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Supawat Yiamyon ระบุว่า ถ้าเขาทำได้ก็ให้เขาทำเถอะครับ แต่จะถามสักนิดหนึ่งว่า คุณเอาอำนาจอะไรมาทำ แค่อดีต ส.ส.ที่ถูกคดีโกงการเลือกตั้งก็หนักแล้วครับ ส่วนผู้ใช้นาม Thamasan Suwanroj กล่าวว่า แวะรับยาที่โรงพยาบาลค่ายก่อนไหม อาการน่าจะหนัก ขณะที่ผู้ที่แสดงตัวว่าเป็นทหารหลายคนก็แสดงความเห็นทำนองว่า บอกให้เขารีบมาย้ายเร็วๆ ทหารรออยู่ เป็นต้น

สำหรับอนุสาวรีย์วีรไทหรือพ่อจ่าดำนั้น ถูกสร้างขึ้นเป็นอนุสรณ์ความกล้าหาญของทหารหาญ 116 นาย ทั้งระดับชั้นสัญญาบัตรและชั้นประทวน ทั้งหมดได้พลีชีพในระหว่างการรบพุ่งต่อต้านทหารญี่ปุ่นที่ยกพลขึ้นบกที่บ้านท่าแพช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยได้นำอัฐิของทหารทั้ง 116 นายไปบรรจุไว้บริเวณฐานของอนุสาวรีย์ ต่อมาอนุสาวรีย์แห่งนี้ได้เป็นที่เคารพสักการะของทหารในสังกัดกองทัพภาคที่ 4 รวมทั้งประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะชาวนครศรีธรรมราชเชื่อถือกันว่ามีความศักดิ์สิทธิ์ไม่น้อย ใครบนบานศาลกล่าวอะไรไว้มักจะได้ตามที่บนไว้
 

 
นอกจากนี้แล้วในส่วนของนายมาโนชเคยดำรงตำแหน่งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช แต่ต้องมาถูกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีทุจริตเลือกตั้งต้องใบแดงทำให้ต้องพ้นจากตำแหน่ง และถูกเรียกเงินค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งคืนกว่า 60 ล้านบาท ด้านนายเทพไทเวลานี้ก็มีเรื่องพัวพันกับการทุจริตการเลือกตั้ง อบจ.นครศรีธรรมราชด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งเรื่องค้างอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวนมากว่า 3 ปี ปัจจุบันถูกส่งให้ไปอยู่ในการพิจารณาสำนวนของพนักงานอัยการ ส่วนคดีหัวคะแนนที่เกี่ยวข้องศาลชั้นต้นได้พิพากษาจำคุกไปแล้วเกือบ 10 ราย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า ความจริงแล้วนายเทพไทไม่ใช่เคยเสนอย้ายอนุสาวรีย์พ่อจ่าดำเท่านั้น ที่ผ่านมายังเคยเสนอย้ายพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ ๕ ย้ายศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และย้ายหอจดหมายเหตุ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ซึ่งล้วนเกี่ยวข้องกับทุกสถานที่ที่อยู่ภายใต้การดูแลของ อบจ.นครศรีธรรมราช ที่เคยมีน้องชายนายมาโนชนั่งเป็นผู้บริหารอยู่ หรือไม่ก็เทศบาลนครนครศรีธรรมราชที่มี นายเชาว์นวัศ เสนพงศ์ ผู้เป็นพี่ชายเคยนั่งเป็นนายกเทศมนตรี ก่อนที่จะต้องคำสั่งตามมาตรา 44 ให้ระงับการปฏิบัติหน้าที่เนื่องจากมีคดีทุจริตหลายกรณี
 

 
นอกจากนี้แล้วเมื่อครั้งที่ นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม นำคณะวิ่งในโครงการก้าวคนละก้าวระดมเงินบริจาคช่วยโรงพยาบาล 11 แห่งจากใต้สุดสยามที่ อ.เบตง จ.ยะลา ถึงเหนือสุดประเทศไทยที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ช่วงเข้าสู่ตัวเมืองนครศรีธรรมราช นายเพทไทก็ได้เข้าร่วมกิจกรรมเชิงสร้างภาพให้กับตัวเอง จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักหน่วงมาแล้วเช่นกัน ซึ่งการที่สังคมชาวนครศรีธรรมราชหยิบยกเอาเรื่องการเสนอย้ายอนุสาวรีย์พ่อจ่าดำของนายเทพไทมาวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้งในหนนี้ จึงถือเป็นความต่อเนื่องและเป็นเรื่องเกี่ยวกับตระกูล “เสนพงศ์” ด้วยนั่นเอง