สุราษฎร์ธานี - อาสาตำรวจบ้านสังกัด สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี โหด ขับรถสายตรวจประจำป้อมบางกุ้ง ไล่ชนวัยรุ่นขับขี่รถจักรยายนต์จนได้รับบาดเจ็บสาหัส รถชาวบ้านเสียหาย 6 คัน อาสากร่างพูดจาข่มขู่ชาวบ้านที่รถเสียหาย ด้านตำรวจอ้างเป็นเหตุไล่จับวัยรุ่นกินน้ำท่อม
เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น.วานนี้ (14 ต.ค.) เกิดเหตุอาสาตำรวจบ้านได้ขับรถสายตรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ประจำป้อมตำรวจสี่แยกตำบลบางกุ้ง อำเภอเมือง ไล่ชนรถจักรยานยนต์สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน คทก 516 สุราษฎร์ธานี ที่มี นายภูวริญ เมืองขำ อายุ 20 ปี บ้านเลขที่ 80/14 ม.1 ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เป็นผู้ขับขี่ และมี นายศิราวิช บุญชัก อายุ 18 ปี บ้านเลขที่ 100/2 ม.2 ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เป็นผู้ซ้อนท้าย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และมีรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ริมถนนบริเวณหน้าร้านเดิมหมูกระทะ ถนนโฉลกรัฐ ม.1 ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับความเสียหายอีก จำนวน 6 คัน
หลังเกิดเหตุผู้เห็นเหตุการณ์ได้นำภาพขณะเกิดเหตุขึ้นเฟซบุ๊ก ชื่อ Nattida Preechawad โดยระบุข้อความว่า “ระยำจริงๆ พยายามฆ่าชัดๆ ตำรวจไม่มีสิทธิที่จะทำแบบนี้ และรายละเอียด ว่า เวลาประมาณ 19.30 น. หน้าร้านหมูกระทะร้านเดิม มีเหตุอาสาสมัครตำรวจ(ผู้ชายอ้วนๆ เสื้อเทาถือโทสับตลอดเวลาในคลิป) ขับรถไล่รถจักรยานยนต์วัยรุ่นที่ขับหนี โดยอาสาสมัครตั้งใจขับรถเบียดรถวัยรุ่น และชนลากรถพร้อมวัยรุ่นดังกล่าวไปด้วย ทำให้วัยรุ่นชายสองคนบาดเจ็บอย่างมากมีเลือดไหลเต็มหน้า และไหลกองเต็มพื้น ตามในคลิปเลยค่ะ
ส่วนอาสาที่ชนลงมาจากรถ พร้อมอ้างว่า ตนเองเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พ่อ และพี่ชายขอดูบัตร ไม่ให้ดูค่ะ และมองหน้าข่มขู่ผู้ชายคนนึงว่า *เดี๋ยวคุยกับผมส่วนตัว* ในที่เกิดเหตุมีรถจักรยานยนต์ของประชาชนที่มาทานอาหารเสียหายหลายคัน จากในคลิป #เราอยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นเห็นกับตา#ตั้งใจชนแน่นอนเพราะมีรอยชนจากด้านหน้ารถเจ้าหน้าที่อย่างชัดเจน #ที่สำคัญคุณเป็นแค่อาสาแต่มาข่มขู่ประชาชน #ถูกต้องแล้วหรือ
อย่างไรก็ตาม หลังมีการโพสต์ข้อความ และคลิปภาพออกไป ทำให้ผู้เห็นเหตุการณ์ ได้เข้ามาต่อว่าถึงการกระทำของอาสาตำรวจบ้านรายนี้ ที่ทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจประจำป้อมบ้างกุ้งนายหนึ่งบอกแก่ชาวบ้านว่า เป็นเหตุไล่จับวัยรุนกินน้ำท่อม
ล่าสุด พ.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรสุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ศิริชัย ทรงวศิน ผกก.สภ.เมืองให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้ความเป็นธรรมต่อทั้ง 2 ฝ่าย กับเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมย้ำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามข้อกฎหมาย
เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น.วานนี้ (14 ต.ค.) เกิดเหตุอาสาตำรวจบ้านได้ขับรถสายตรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ประจำป้อมตำรวจสี่แยกตำบลบางกุ้ง อำเภอเมือง ไล่ชนรถจักรยานยนต์สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน คทก 516 สุราษฎร์ธานี ที่มี นายภูวริญ เมืองขำ อายุ 20 ปี บ้านเลขที่ 80/14 ม.1 ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เป็นผู้ขับขี่ และมี นายศิราวิช บุญชัก อายุ 18 ปี บ้านเลขที่ 100/2 ม.2 ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เป็นผู้ซ้อนท้าย จนได้รับบาดเจ็บสาหัส และมีรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ริมถนนบริเวณหน้าร้านเดิมหมูกระทะ ถนนโฉลกรัฐ ม.1 ต.บางกุ้ง อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ได้รับความเสียหายอีก จำนวน 6 คัน
หลังเกิดเหตุผู้เห็นเหตุการณ์ได้นำภาพขณะเกิดเหตุขึ้นเฟซบุ๊ก ชื่อ Nattida Preechawad โดยระบุข้อความว่า “ระยำจริงๆ พยายามฆ่าชัดๆ ตำรวจไม่มีสิทธิที่จะทำแบบนี้ และรายละเอียด ว่า เวลาประมาณ 19.30 น. หน้าร้านหมูกระทะร้านเดิม มีเหตุอาสาสมัครตำรวจ(ผู้ชายอ้วนๆ เสื้อเทาถือโทสับตลอดเวลาในคลิป) ขับรถไล่รถจักรยานยนต์วัยรุ่นที่ขับหนี โดยอาสาสมัครตั้งใจขับรถเบียดรถวัยรุ่น และชนลากรถพร้อมวัยรุ่นดังกล่าวไปด้วย ทำให้วัยรุ่นชายสองคนบาดเจ็บอย่างมากมีเลือดไหลเต็มหน้า และไหลกองเต็มพื้น ตามในคลิปเลยค่ะ
ส่วนอาสาที่ชนลงมาจากรถ พร้อมอ้างว่า ตนเองเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ พ่อ และพี่ชายขอดูบัตร ไม่ให้ดูค่ะ และมองหน้าข่มขู่ผู้ชายคนนึงว่า *เดี๋ยวคุยกับผมส่วนตัว* ในที่เกิดเหตุมีรถจักรยานยนต์ของประชาชนที่มาทานอาหารเสียหายหลายคัน จากในคลิป #เราอยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นเห็นกับตา#ตั้งใจชนแน่นอนเพราะมีรอยชนจากด้านหน้ารถเจ้าหน้าที่อย่างชัดเจน #ที่สำคัญคุณเป็นแค่อาสาแต่มาข่มขู่ประชาชน #ถูกต้องแล้วหรือ
อย่างไรก็ตาม หลังมีการโพสต์ข้อความ และคลิปภาพออกไป ทำให้ผู้เห็นเหตุการณ์ ได้เข้ามาต่อว่าถึงการกระทำของอาสาตำรวจบ้านรายนี้ ที่ทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจประจำป้อมบ้างกุ้งนายหนึ่งบอกแก่ชาวบ้านว่า เป็นเหตุไล่จับวัยรุนกินน้ำท่อม
ล่าสุด พ.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรสุราษฎร์ธานี ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ศิริชัย ทรงวศิน ผกก.สภ.เมืองให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และให้ความเป็นธรรมต่อทั้ง 2 ฝ่าย กับเรื่องที่เกิดขึ้น พร้อมย้ำให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามข้อกฎหมาย
